อิกอร์ สเตปานอฟส์ ชื่อนี้ แฟนบอล ปืนใหญ่ ได้ยินชื่อก็เหวอแล้ว เพราะเซนเตอร์แบ็ค สูงยาวเข่าดี คนนี้ ผลงานส่วนทางกับสรีระที่มีคุณสมบัติเป็นยอดกองหลังในพรีเมียร์ ลีก เป็นอย่างมาก แต่ในเรื่องราวนั้น มี เรย์ พาร์เลอร์ อดีตปีกปืนใหญ่มาแฉถึงความฮา เกี่ยวกับเรื่องราวนี้ให้อ่านกัน…แปลเองยังฮาเอง เอาจริงหรือวะเนี่ย!!
อิกอร์ สเตปานอฟส์ กองหลังทีมชาติ ลัตเวีย ย้ายมาร่วมทีม อาร์เซนอล จากสโมสร สกอนโต ริก้า ในประเทศ ลัตเวีย โดยก่อนหน้านั้นมีการเรียกตัวมาทดสอบความสามารถกันสักระยะหนึ่ง ก่อนตกลงเซ็นสัญญากัน
ทั้งนี้ เรย์ พาร์เลอร์ เล่าเรื่องราวนี้ในหนังสือประวัติของตัวเอง เกี่ยวกับการ “ป่วนจิต” เพื่อนร่วมทีม คนสนิทอย่าง มาร์ติน คีโอวน์ กองหลังรุ่นพี่ แบบแสบทรวงเอาไว้ ด้วยการกล่าว ชื่นชมกองหลัง ลัตเวียบ่อยครั้ง โดยมี เดนนิส เบิร์กแคมป์ คอยเล่นกับเขาด้วย จนทำให้ คีโอวน์ ซึ่งในช่วงนั้นกำลังกังวลเรื่องหลุดทีมตัวจริง เกรี้ยวกราดกันเลยทีเดียว
“ตอนหน้าร้อนปี 2000 พวกเรากลับมาสู่การลงซ้อมในช่วง ปรีซีซั่น เพื่อเตรียมความพร้อม มีกองหลังคนหนึ่งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมแล้ว และมาร์ติน ก็กังกวลเรื่องเกี่ยวกับตำแหน่งตัวจริงในทีม เขาเป็นแบบนั้นตลอดล่ะ กังวลไปเรื่อย”
“ถ้าเรามี นักเตะ กองหลังมาทดสอบฝีเท้า มาร์ติน ต้องหมดประโยชน์แน่ กองหลังคนนี้มาจากลัตเวีย ชื่อ อิกอร์ สเตปานอฟส์ เขาดูแกร่ง และจริงจัง” ผมเริ่มป่วนประสาทเขาด้วยการคุยกับ เพื่อนคนอื่นให้เขาได้ยิน
“มีหลายคนในทีมนั่งอยู่ข้างสนาม ดู อิกอร์ ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่อง พอเขาส่งบอลแต่ละครั้ง คนในทีม ก็ปรบมือให้กำลังใจ เพราะเรารู้ว่า มาร์ติน ต้องป่วนแน่ ระหว่างนั้น เบิร์กแคมป์ ที่นั่งอยู่หลังเวนเกอร์ ก็คอยพูดชมไปด้วย ว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ “โหม่งแจ่ม ปะทะโคตรดี” แม้จะมีจังหวะที่ สเตปานอฟส์ เตะบอลหลุดเป้าหมายไปไกล ก็ยังมีคนในทีมลุกขึ้นปรบมือให้กำลังใจ จนกระทั่ง คีโอวน์ บ่นว่า “มันไม่เก่งหรอก” พร้อมชี้เลยว่าพลาดโหม่งตรงไหน แท็คเกิ้ลไม่ดียังไง” เรารู้แล้วว่า เอาละเว้ย มาร์ติน เริ่มขึ้นแล้ว
“จบการซ้อม คืนนั้นพวกเราไปกินมื้อค่ำ ด้วยกัน เราคุยกันในทีมเกี่ยวกับเรื่องการปั่นหัว คีโอวน์ แน่นอนเราทุกคนรู้ว่า อิกอร์ ผลงานไม่ดี และต่ำกว่ามาตรฐานที่ตั้งไว้โดย โทนี่ อดัมส์, มาร์ติน คีโอวน์ และ สตีฟ โบลด์ ไว้เยอะมาก แต่ที่มาร์ติน เจอพวกเราปั่นประสาท เพราะเขาตอบโต้กลับไป ถ้ามีใครไปแหย่ พี่แกก็จะเดือด เบิร์กแคมป์ นี่ตัวดีเลย เขาไม่พลาดเรื่องนี้ เพราะ มาร์ติน ชอบไปเตะเขาตอนซ้อมด้วยกัน แถมชอบบอกด้วยว่า “ฉันแค่ต้องการให้นาย พร้อมกับสิ่งที่นายต้องเจอในเกมการแข่งขันจริงเท่านั้น” งานนี้เบิร์กแคมป์ก็เลยเล่นด้วย”
“มาร์ติน เป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม มีคาแรคเตอร์ ที่ชัดเจน เป็นนักเตะ ที่ ต้องการเป็นผู้ชนะเสมอ ผมคิดว่าทุกคนมีความห่วงใยให้กับเขาเสมอ นั่นคือ เพื่อนร่วมทีม ที่เรารัก”
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป นักเตะ ทุกคน กลับมาลงซ้อมกันตามปกติ เราเจอกับ อิกอร์ ที่นั่น ผมเลยถามว่า
“นายมาทำอะไรที่นี่”
“อาร์เซนอล เซ็นสัญญากับฉันสี่ปี” อิกอร์ ตอบกลับ
ฉิบหายละมึง!! พาร์เลอร์ คิดในใจ
“เหลือเชื่อโคตร อาร์แซน เวนเกอร์ ไม่รู้เหรอว่าเราพยายามวันนั้น เพื่อปั่นประสาทมาร์ติน เท่านั้น เขาแค่ฟังในสิ่งที่นักเตะพูดชม อิกอร์ ไม่เลิก และผมคิดว่าการที่นักเตะอย่าง เบิร์กแคมป์ ไปนั่งข้างหลังเขา และเอ่ยปากชม “โคตรผู้เล่น” มันดันทำให้ อาร์แซน เก็บกลับไปคิด และเซ็นสัญญากับเขา”
“ผมเดาว่าการเซ็นสัญญาครั้งนั้นอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านปอนด์ ด้วยความเคารพใน นักเตะ ทุกคนที่ลงเล่น หรือเคยเล่นกับ ทีมในระดับลีกล่าง มาก่อนนะ แต่มุมมองของผมคือ อิกอร์ ฟอร์มของเขาห่างจากมาตรฐานของเรามาก มันเหมือนเอาน้องชายมาลงซ้อมในสนามด้วยกันแบบนั้นเลย”
“แล้วไงต่อพอไม่นาน อาร์เซนอลเจอปัญหากองหลังบาดเจ็บ เราเหลือกองหลังตัวกลางคนเดียวที่เล่นได้ นั่นไง ไม่ต้องถามว่าใคร อิกอร สเตปานอฟส์ คือ นักเตะ คนนั้น เรามีเกมลงเล่นในสุดสัปดาห์นั้นด้วย และมันก็บังเอิญมากที่เกมนั้นคือ”
“การออกไปเยือนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ โอลด์ แทรฟอร์ด”
“เราลงเล่นเกมนั้นด้วยการมี กองหลังสี่คน ประกอบไปด้วย โอเล็ก ลุซนี่, ชิลส์ กรีมองดี้, อิกอร์ สเตปานอฟส์ และแอชลีย์ โคล”
เกมเริ่มด้วยการเราโดนยิงนำไปก่อน 1-0 หลังจากนั้น เธียร์รี่ อองรี ยิงตีเสมอได้ เราก็คิดกันว่า “เอาวะ เราเอาอยู่” หลังจากนั้นจบครึ่งแรก เราโดนนำ 5-1 โคตรเอาอยู่เลย ให้ตายเถอะ
“มันเป็นการเดินเข้าอุโมงค์ห้องแต่งตัวที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด แบบเลวร้าย เราเห็นอาร์แซน หงุดหงิดแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เขาด่าเราลั่นเลย ผมจำได้เลยว่าตอนเดินเข้าไป ดไวท์ ยอร์คมาถามผมว่า “เอ็งไปเอากองหลังตัวกลาง คนนี้ มาจากไหนวะ” อยากบอก แม่งกลับมากว่า “เรื่องมันยาวว่ะ ดไวท์”
“เรานั่งในห้องแต่งตัว มันอาจจะฉิบหายเพิ่มด้วยการแพ้ 9-1 ก็ได้เกมนั้น ถ้าเดวิด ซีแมน ไม่ได้เซฟเพียบไปหมด ผมเห็นอาร์แซน ถอดเสื้อนอกออก เขาไม่เคยทำแบบนั้นเลย ผมจะหลุดขำออกมา แต่มองไปเห็น แพท ไรซ์ ผู้ช่วยของอาร์แซน จ้องมาที่ ผมแล้วสื่อทำนองว่า “มึงอย่าขำนะเรย์” ผมกลั้นสุดตัวทั้งที่มันก็เครียดนะตอนนั้น”
“อาร์แซนก็บ้าไปเลย และเป็นครั้งเดียวที่ผมเห็นเขาเป็นแบบนั้น ตลอดการทำงานด้วยกันแปดปี นั่นคือการพักครึ่งที่บ้าบอที่สุดแล้ว เขาเป็นคนสงบนิ่งมากโดยปกติ”
“สุดท้ายเราจบเกมด้วยการแพ้ 6-1 ส่วน อิกอร์ ก็แทบไม่ได้ลงเล่นอีกเลย และเขาก็โดนปล่อยออกจากทีมในเวลาต่อมา”
In Fact