หนึ่งคะแนนในบ้านไม่เคยน่าพอใจสำหรับทีมที่จะต้องการเป็นผู้ท้าทายบัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ ลีก (แบบที่แฟนบอลจำนวนไม่น้อยหวังเอาไว้) เมื่อการหลุดมือสองคะแนนในวันนี้ อาจมีผลมากกว่านั้น เพราะเกมต่อไปต้องพบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้
อาร์เซนอล จัดทัพใหญ่ในเกมนี้ กาเบรียล เฆซุส, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, รีส เนลสัน และ เอมิล สมิธ โรว์ คือคนที่ไม่มีชื่อด้วยอาการบาดเจ็บ ส่วนที่เหลือพร้อมลงสนาม เจอกับ เบรนท์ฟอร์ด ทีมที่ไม่แพ้ในในลีกมานานถึง 9 เกม และเกมนี้พวกเขาลงสนามมาด้วยความเชื่อใจ วินัย และสมาธิ
“เดอะ บีส์” ในยุคของ โธมัส แฟรงค์ วางเกมรับมาอย่างแน่หนา พวกเขาเป็นทีมที่ยกระดับการเล่นได้ดีที่สุดทีมหนึ่งในช่วงสองปี ปีแรกในพรีเมียร์ ลีก เกมในบ้านอันตราย แต่นอกบ้านแต้มไม่ค่อยได้ มาปีนี้มองหาความสม่ำเสมอในเกมได้มากขึ้นจะในบ้าน นอกบ้าน พวกเขาเริ่มไม่ต่างกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่เหลือคือคุณภาพของผู้เล่น
หากมองเกมกับนิวคาสเซิ่ล และ เอฟเวอร์ตัน มาเป็นต้นแบบกับการเล่น ชัดเจนมากว่า เบรนท์ฟอร์ด”ลอกการบ้านเพื่อน” ได้เหมือนแบบที่ครูจับได้ แต่ก็หาความผิดไม่ได้ว่าลอกจริงหรือเปล่า
เบรนท์ฟอร์ด แม้จะได้แค่คะแนนเดียวไม่ใช่สามคะแนนแบบที่เอฟเวอร์ตันคว้ามาได้ในเกมก่อน แต่นี่คือการมาเล่นเกมเยือน และเป็นเกมที่พวกเขาต้องตามหลังไปก่อนอีกต่างหาก
หากถามว่าวันนี้กับหนึ่งคะแนนน่าผิดหวังหรือไม่ แน่นอนร้อยละ 90 ของทีมเจ้าบ้านก็บอกว่าผิดหวัง แม้จะบอกว่าเบรนท์ฟอร์ด ผลงานชั่วโมงนี้พวกเขาคุณภาพผลงานไม่ด้อยกว่าทีมระดับพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีกก็ตาม อาร์เซนอลในภาพรวมไม่ได้เล่นแย่ในสิ่งที่ตนเองทำมาตลอดฤดูกาลนี้ มีบางช่วงที่เล่นได้ดีเล่นแบบมีรูปแบบชัดเจน แถมมีการเติมบุคลากรลงมาเสริมเขี้ยวเล็บมากยิ่งขึ้น แต่ผลลัพธ์ไม่ได้เป็นไปตามผลงาน เมื่อคู่แข่งเองก็ไม่ได้หยุดพัฒนา
ผู้เขียนเคยกล่าวถึงไว้แล้วเกี่ยวกับการเล่นของอาร์เซนอล ณ เวลานี้ทีมถูกคู่แข่งศึกษามาเป็นอย่างดีเรียบร้อยแล้วจากทุกสโมสรในพรีเมียร์ ลีก หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงในฤดูกาลนี้ มีเพียง 4 เกมที่พวกเขาไม่ได้สามคะแนน และทั้งสี่เกมมีความคล้ายกันบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
นักเตะหลายคนไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด แต่กลับได้ลงสนามตัวจริงต่อไป เกมนี้คนที่ลงสนามไปในฐานะตัวสำรองคนหนึ่งฟอร์มสวยยิงประตูได้ ส่วนอีกคนหนึ่งจังหวะเซตเพลย์นาทีสุดท้ายแล้วเปิดเหมือนส่งคืนนายทวารแบบนั้น ก็คือสอบตก เกมใหญ่มากรออยู่ในกลางสัปดาห์นี้ อาร์เตต้า อาจต้องตัดสินใจเลือกแนวทางที่ต่างไป เพราะสองเกมในลีกล่าสุดทีม 11 ตัวจริงเจอปัญหาอย่างยิ่ง สายตาของ กาเบรียล เฆซุส ที่เข้ามาดูในสนามด้วยในวันนี้บ่งบอกชัดเจนว่าเขาอยากลงสนามมากแค่ไหนในวันที่ทีมต้องการตัวรุกทุกคนในทีมเพื่อควานหาประตู
ถึงตรงนี้ อาร์เซนอล ยังคงอยู่ในเส้นทางของเป้าหมายในการกลับไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง พวกเขาถือมันไว้เต็มมือ แถมยังมีดวงมาเกี่ยวข้องเมื่อคู่แข่งสำคัญต่างก็พากันสะดุดมากสะดุดน้อยกันตามกันมา แต่มันคงไม่ดีแน่ ถ้าจะยืมจมูกคนอื่นหายใจแบบนี้ต่อไป ทุกทีมต้องเจอกับสถานการณ์เช่นนี้มาแล้วทั้งสิ้น ในวันที่อะไรไม่เป็นใจ ในวันที่เล่นแบบเดิมแต่ผลลพธ์ไม่ได้แบบเดิม ปัญหาคือจะแก้อย่างไรให้ได้ และแก้หรือหรือเปล่าตรงนี้สำคัญที่สุด
มันคือสิ่งที่เรียกว่า “งานใหญ่” ของมิเคล อาร์เตต้า และทีมงานต้องหาทางแก้ไขให้จงได้ เมื่อคุณสัมภาษณ์เองว่า “รู้อยู่แล้ว” ว่าคู่แข่งจะมาเล่นอย่างไร แต่สุดท่ายถ้ารู้แล้วแก้ไขไม่ได้แบบนั้นก็ไม่ต่างจากการไม่รู้ หรือถ้ารู้แล้วยังคงไม่แก้ไขอันนั้นคือหนทางแห่งความพินาศ
ดังนั้นสิ่งที่อาร์เตต้า และทุกคนในสโมสรต้องทำคือการแก้ไขในเรื่องนี้ เพราะต่อจากนี้จะมีเกมแบบนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน เพราะตัวอย่างก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าเล่นแบบไหนจะมีคะแนนกับอาร์เซนอล จะซ้อมในสิ่งที่ทำอยู่ในเฉียบคมยิ่งขึ้น หรือจะสร้างสรรค์แนวคิดการเล่นแบบใหม่เพื่อแก้ไข ก็ต้องเลือกทำกัน เพราะตอนนี้มันเห็นกันชัดเจนว่า อาร์เซนอล ทำได้ทุกอย่างยกเว้นการยิงประตูให้ได้เป็นกอบเป็นกำแบบช่วงแรก ๆ
อีก 17 เกมสุดท้ายจบฤดูกาล อาร์เซนอล ยังไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย และความผิดหวังในหลายเกมที่ผ่านมา ตอกย้ำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับทีมเข้าใจตรงกันว่าความสำเร็จที่หวังไปให้ถึง มันต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง ถึงตรงนี้ที่แลกไปมันยังไม่มากพอ และต่อให้ต้องแลกมากกว่านี้ก็ต้องทำ หากอยากให้ฝันที่รอคอย ไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป