สามวันก่อน คริส ไวล์ดเดอร์ เพิ่งกลายเป็นอดีตกับ “เดอะ เบลด” ไปเป็นที่เรียบร้อย และล่าสุด อีกหนึ่งสโมสรที่มีสัญลักษณ์ ดาบอีกหนึ่งทีมอย่าง “ดาบอัศวิน” ชาร์ลตัน แอตเลติก ก็กลายเป็นอดีตกับ ลี โบว์เยอร์ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ดิ แอดดิกส์” เข้าสู่ปีที่ 14 ที่แล้วจาก พรีเมียร์ ลีก ลงสู่ลีกระดับล่าง ก่อนที่ในฤดูกาลที่ผ่านมาจะชอกช้ำหนักยิ่งกว่าเดิม เมื่อพวกเขากลายเป็นทีมในระดับ ลีก วัน อีกครั้ง โดยนับตั้งแต่ร่วงจากพรีเมียร์ ลีก ชาร์ลตัน ก็ตกชั้นไปเล่นในระดับ ลีก วัน มาแล้วถึงสามครั้ง โดยครั้งล่าสุด เป็นครั้งที่สาม ที่พวกเขาวนเวียน กับไปสู่ ลีก วัน หรือ ดิวิชั่นสาม ของประเทศอังกฤษ
อดีตแบดบอย และยอดกองกลางคนเก่งของ ลีดส์ ยูไนเต็ด เริ่มต้นรับงานคุมทีมครั้งแรกกับที่นี่ ในฐานะที่ ชาร์ลตัน คือสโมสรแรกที่ให้โอกาสเขาลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ ในปี 1994 ก่อนที่จะก้าวไปเล่นกับอีกหลายสโมสร ในเวลาต่อมา และยุติบทบาทการเป็น นักเตะ อาชีพ ในปี 2012 โดย อิปสวิช ทาวน์ คือสโมสรสุดท้ายของเขา
โบว์เยอร์ เข้ามารับงานกับทีมในช่วงปลายฤดูกาล 2017-2018 เวลานั้น โบว์เยอร์ ทีมอยู่ในลีก วัน และพลาดการเลื่อนชั้นในเกม เพลย์ออฟ ในฤดูกาลนั้น ก่อนที่ปีแรกในการคุมทีมแบบเต็มตัวของเขา ทีมจะสามารถเลื่อนชั้นขึ้นสู่ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ได้สำเร็จ
2019-2020 ชาร์ลตัน พยายามอย่างหนักในการเอาตัวรอดใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ในการระบาดของไวรัส โควิด-19 ก่อนที่สุดท้ายจะตกชั้นในที่สุด
ขณะที่ในฤดูกาลนี้ โบว์เยอร์ กับ ชาร์ลตัน ยังผลงานไม่ค่อยดีเท่าไรนัก พวกเขาอยู่ในอันดับ 8 ในลีก แม้จะตามหลังทีมอันดับ 6 ซึ่งเป็นอันดับสุดท้ายสำหรับการเพลย์ออฟ เพียงสองคะแนน แต่ก็ลงเล่นมากกว่า 2 เกมด้วยกัน และนั่นทำให้สุดท้ายแล้ว โบว์เยอร์ ตัดสินใจลาออกจากทีม เมื่อสองวันที่ผ่านมา สิ้นสุดการทำงานร่วมสามปี กับสโมสรแห่งนี้ โดย จอห์นี่ แจ็คสัน ผู้ช่วยของเขา จะขึ้นมารับงานแทนเป็นการชั่วคราว
“มันเป็นการตัดสินใจที่ยากมาก สำหรับผม ครั้งหนึ่งผมเริ่มต้นกับที่นี่ และสุดท้ายมันก็ต้องจบลงอีกครั้ง ทุกคนรู้ว่า ผมรู้สึกอย่างไรกับ ชาร์ลตัน แอตเลติก ก่อนหน้านี้ ผมเคยเกือบที่จะตัดสินใจออกจากทีมมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนั้นผมคิดว่า ผมยังมีเรื่องต้องทำกับที่นี่ ผมอยากช่วยทีมให้อยู่รอด โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ในช่วงท้ายฤดูกาลที่ผ่านมา และสุดท้ายมันน่าเสียดายที่เราต้องตกชั้น”
“เรามีช่วงเวลาที่ดีด้วยกันมากมาย เช่นเดียวกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็คือ การออกจากทีมที่เต็มไปด้วยความรู้สึก ผมอยากขอบคุณทุกคน ทั้ง นักเตะ ภายในทีม, ทีมงานทุกคน ที่ทำงานกันอย่างหนัก เพื่อให้ทีมดีขึ้น และแน่นอนรวมถึงแฟนบอลทุกคน สิ่งที่มันน่าเสียดายคือ เราไม่ได้พบกันในสนามแข่ง นานมากแล้ว และนั่นทำให้เราไม่ค่อยได้มี ความทรงจำ ร่วมกันมากนักในระยะหลัง”
“ตอนนี้ผมคิดว่า สโมสร ได้อยู่ในมือ เจ้าของสโมสร ที่ดีซึ่งดูแล และห่วงใยสโมสร รวมถึงต้องการทำให้ อันดับในสโมสร ที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ และหวังว่าสโมสรของเราจะเดินหน้าต่อไป ชาร์ลตัน แอตเลติก จะเป็นสโมสรในหัวใจ ของผมตลอดไป”
ชาร์ลตัน แอตเลติก ทุกวันนี้มีเจ้าของเป็นชาว เดนมาร์ก ชื่อว่า โธมัส แซนด์การ์ด ซึ่งเข้ามาเป็นเจ้าของสโมสร ชาร์ลตัน ในปลายปี 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งแม้ว่าจะเข้ามาในช่วงที่สโมสร ต้องกลับไปเล่นใน ลีก วัน ก็ตาม และการซื้อทีมของเขา ก็มาพร้อมกับโปรเจคต์ระยะยาว เพื่อเป้าหมายในการพาทีมกลับไปสู่ช่วงเวลาที่รุ่งเรือง อีกครั้ง รวมถึงการพัฒนาในส่วนของสนามแข่งขัน และสนามซ้อมของทีม ที่ทรุดโทรมานาน
“สิ่งที่ผมได้เห็นจากในดวงตาแฟนบอลทุกคน และจากการได้พูดคุยกับพวกเขา รวมถึงสิ่งที่ผมได้อ่านผ่านทาง สังคมออนไลน์ มันคือสิ่งที่ผมเห็นถึงความมุ่งมั่น และความรักที่มีต่อทีม เช่นเดียวกับ ความผิดหวังที่พวกเขาแสดงออกมาจากผลการแข่งขันที่ไม่เป็นใจ นั่นคือสิ่งที่ผมสัมผัสได้”
“ก่อนหน้านี้ ผมมีความสนใจในการเข้ามาบริหารทีม วีแกน แอตเลติก มาก่อน แต่สุดท้ายแล้ว ผมก็เชื่อว่า ชาร์ลตัน จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากกว่าสำหรับผม และผมคิดว่า มันยังคงมีงานอีกมากมายในการที่จะกลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง มันอาจต้องใช้เวลานานหลายปีก็ตาม แต่ ณ. เวลานี้ ทีมยังอยู่ในเส้นทางของการเลื่อนชั้น และผมหวังว่า เราจะได้ไป เวมบลีย์ ในช่วงท้ายฤดูกาล”
“น่าเสียดายที่ ลี โบว์เยอร์ ต้องมาจากทีมของเราไปก่อน แต่เราก็ยังคงมี ความสัมพันธ์ อันยอดเยี่ยม ตอนผมเข้ามาซื้อสโมสร โบว์เยอร์ คือส่วนสำคัญในการสร้างทีมใหม่ ในแง่ของในสนาม และเมื่อทุกอย่างต้องจบลง ผมก็ทำได้แต่เพียงอวยพร และขอบคุณกับสิ่งที่เขาทำมาโดยตลอด แม้กระทั่งตอนที่เขาตัดสินใจออกจากทีม เขาก็ยังพาทีม อยู่ในสถานะในการแข่งขันที่ดี สำหรับคนที่จะเข้ามาทดแทน และเราหวังว่าทุกอย่างจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้โดยเร็ว”
“สำหรับการทำงาน ผู้จัดการทีม ทุกคนมักต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเสมอ และผมไม่คิดว่า โบว์เยอร์ ทำอะไรผิดพลาดกับการทำงานของเขา ทุกอย่างยังคงอยู่ในขั้นตอนการสร้างทีม ตามที่เราวางแผนกันเอาไว้แต่แรก”
ลีก วัน ในฤดูกาลนี้ ชาร์ลตัน แอตเลติก ลงเล่นไปแล้ว 35 เกม (บางทีม 33 และ 34 เกม ตามลำดับ) โดยเหลืออีกเพียง 11 เกม จะตัดสินหา สามสโมสรที่ขึ้นชั้นในฤดูกาลหน้า หลังจากปีที่ผ่านมาการระบาดของ ไวรัส โควิด-19 ทำให้ทุกอย่างต้องหยุดชะงักไปหนึ่งฤดูกาล โดย ณ.เวลานี้ ฮัลล์ ซิตี้ อีกหนึ่งสโมสรที่เคยลงเล่นในระดับ พรีเมียร์ ลีก มาก่อน กำลังนำเป็นจ่าฝูง ตามด้วย ปีเตอร์โบโร่ ยูไนเต็ด สโมสรที่วนเวียนอยู่ในลีกล่างมานานหลายสิบปี นอกจากนี้ยังมี ลินคอร์น, ซันเดอร์แลนด์, ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส, อิปสวิช ทาวน์ รวมถึง พอร์ทสมัธ ที่ยังคงเป็นเสี้ยนหนามที่ ชาร์ลตัน แอตเลติก ต้องฝ่าฟัน กับช่วงเวลาที่เหลือ ที่ต้องติดตามกันว่า สุดท้ายแล้ว ชาร์ลตัน แอตเลติก จะสมหวังหรือไม่