ฟาบิโอ วิเอร่า (22 ปี สัญญาถึงกลางปี 2027) กลายเป็นชื่อที่แฟนบอลรู้จักทันที หลังจากเขากลายมาเป็นสมาชิกใหม่ของอาร์เซนอล สโมสรในพรีเมียร์ ลีก ด้วยค่าตัวรวม add-on 40 ล้านยูโร
“ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ผมรู้สึกว่าผมพร้อมแล้ว โอกาสมาถึงแล้ว”
ดิ แอตเลติก ได้มีการสัมภาษณ์เขาผู้ซึ่งยืนยันว่าเขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลด้วยอายุเพียง 5 ปี หลังจากนั้นอีกสองปีต่อมาเขาก็เข้าสู่ระบบเยาวชนของเอฟซี ปอร์โต้ สโมสรในโปรตุเกส ซึ่งเป็นความฝันแรกของเขา แต่การย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ ลีก คือความฝันจริง ๆ ของเจ้าตัว ผู้ซึ่งได้ดูฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก มาตั้งแต่เด็ก และแน่นอนมันยิ่งบังเอิญที่ว่าเขาดันมีนามสกุลเดียวกับ ปาทริค วิเอร่า อดีตกัปตันทีมอาร์เซนอลผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของสโมสร ยิ่งทำให้ชื่อของเขาคุ้นเคยกับทีมปืนใหญ่เป็นอย่างดี
หลังการก้าวมาสู่ทีมชุดใหญ่ของ “มังกรฟ้า-ขาว” เอฟซี ปอร์โต้ ในช่วงปี 2020 เขายกระดับตนเองจากเด็กเยาวชน กลายมาเป็นเยาวชนทีมชาติโปรตุเกสชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี ที่ซึ่งรับโอกาสลงเล่นไปถึง 21 เกมในระดับชาติชุดเล็ก และแน่นอนการมาเล่นในพรีเมียร์ ลีก คือความฝัน และความหวังในการก้าวไปอีกขั้นกับการขึ้นสู่ทีมชาติโปรตุเกสชุดใหญ่ของเขาในอนาคต
“การมาเล่นในพรีเมียร์ ลีก เป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก นี่คือลีกที่ดีที่สุดในโลก สุดยอดผู้เล่นชาวโปรตุเกสลงเล่นอยู่ที่นี่หลายคน คริสเตียโน่ โรนัลโด้, บรูโน่ เฟร์นานเดส, เบร์นาโด้ ซิลวา หรือว่า เจา คันเซโล่ ผมอยากตามรอยพวกเขา”
อาร์เซนอล ในยุค 2022 ของมิเคล อาร์เตต้า กลายเป็นยุคที่เต็มไปด้วยเหล่านักเตะดาวรุ่งที่แฟนบอลเรียกกันว่า “ยัง กันส์” (Young Guns) พวกเขาวางแผนงานในการเสริมนักเตะอายุน้อยที่มีความสามารถ และประสบการณ์ในการเล่นระดับสูงเข้ามาพัฒนาการเล่นร่วมกัน เติบโตไปด้วยกัน และมองหาความสำเร็จไปด้วยกัน และในฤดูกาลใหม่นี้จะเป็นฤดูกาลที่สองในแผนงานนี้ ซึ่ง วิเอร่า ก็คือส่วนหนึ่งของแผนงานนี้ กับวัยเพียง 22 ปี เขา “ตรงโจทย์” ที่มิเคล อาร์เตต้า ต้องการ และ เอดู กาสปาร์ ผู้ซึ่งเป็นผู้อำนวยการกีฬาของอาร์เซนอล ยืนยันว่า พวกเขาติดตามผลงานของเด็กหนุ่มที่มาจาก ซานตา มาเรีย เดอ เฟียร่า คนนี้มาหนึ่งฤดูกาลเต็ม ทั้งจากข้อมูลสถิติ และการส่งแมวมองไปดูเกมการแข่งขันของเขา ก่อนตัดสินใจเลือกเซ็นสัญญาเข้าทีมเมื่อมีโอกาส และนำมาซึ่งการเซ็นสัญญาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในที่สุด
วิเอร่า มีความสามารถในการเป็นผู้เล่นในเชิงรุกมาตั้งแต่ในระบบเยาวชนแล้ว และเขามองว่าตัวเองคือผู้เล่นหมายเลข 10 ของทีม แต่กับการย้ายมาอาร์เซนอลในครั้งนี้ เขายอมรับว่าเขาอาจจะต้องเจอการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งในการเล่น เมื่อทีมมีหมายเลข 10 อยู่แล้วในทีมอย่าง มาร์ติน เออเดการ์ด รวมถึง เอมิล สมิธ โรว์ อยู่ในภายในทีม ที่แน่นอนพวกเขาคือเพื่อนร่วมทีม และคู่แข่งในเวลาเดียวกัน
“ผมรักในการเล่นฟุตบอลในเกมรุกมาก ชอบเล่นฟุตบอลสวยงาม ชอบการออกบอลในพื้นที่สุดท้าย และมันจะเยี่ยมมากถ้าการส่งบอลนั้นกลายเป็นจังหวะที่เพื่อนร่วมทีมยิงประตูได้”
“ผมได้คุยกับ มิเคล อาร์เตต้า เขาบอกกับผมว่าเขาทราบดีว่าผมเล่นได้ทั้งกองกลางหมายเลข 8, หมายเลข 10 หรือกระทั่งจะเล่นทางด้านซ้าย หรือขวาก็ได้ แต่ผมชอบเล่นหมายเลข 10 มันคือตำแหน่งที่แท้จริงของผม” วิเอร่ายืนยันในตำแหน่งของตนเองที่การันตีด้วยผลงาน 27 เกม 6 ประตู 11 แอตซิสต์ ในฤดูกาลที่แล้วกับปอร์โต้
อย่างไรก็ตามแฟนบอลอาร์เซนอลที่รอยลโฉมการลงเล่นของเขาในเกมแรกกับทีม ยังคงต้องรอต่อไป เมื่อในช่วงแรกเขามีอาการบาดเจ็บเท้า และทำให้การลงเล่นเกมแรกของเขากับทีมต้องรอคอยต่อไป บนความกังวลเมื่อเห็นสรีระที่ผอมบางกับความสูงเพียง 170 เซนติเมตร เขาเป็นผู้ชายที่หุ่นดี แต่กับการเล่นฟุตบอลในระดับอาชีพอย่างพรีเมียร์ ลีก พละกำลังกับการเข้าปะทะ เป็นของที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ และแน่นอนเขาก็ต้องเตรียมใจและความพร้อมของร่างกายเอาไว้ เพราะจะได้เจอ “รับน้อง” อย่างแน่นอน
“ผมรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว แต่ก็ยังคงซ้อมไม่ได้เต็ม 100 % ผมวิ่งได้แล้วและอีกไม่นานผมพร้อมจะกลับมาซ้อมกับทีมได้แบบเต็มตัว พรีเมียร์ ลีก เป็นลีกที่เล่นกันหนักหน่วง ใช้พละกำลังเยอะ ผมไม่ใช่สไตล์นั้น ดังนั้นผมต้องทำงานหนักกับการสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรงของร่างกาย ฟุตบอลในแบบของผมคือความชาญฉลาด และคุณภาพของการเล่น ผมไม่เจอปัญหานี้ในโปรตุเกส ผมมักจะคิดเสมอว่าก่อนบอลจะมาถึงตัว ผมจะทำอะไรต่อไปอย่างไร ผมคิดว่านี่เป็นจุดเด่นหนึ่งของผมเอง”
ทั้งนี้การย้ายข้ามประเทศมาสู่อังกฤษ จากประเทศบ้านเกิดที่มีภาษาเป็นของตนเอง ภาษาอังกฤษนับเป็นหนึ่งในภาษาสากลที่ใช้กันทั่วโลก แต่สำหรับเขามันเป็นเรื่องใหม่ และเขาจำเป็นต้องเรียนรู้มันให้เร็วที่สุด โชคดีเพราะงานนี้ในทีมอาร์เซนอล มีนักเตะบราซิล และโปรตุเกสหลายคนอยู่ในทีม ที่พร้อมจะสื่อสารภาษาบ้านเกิดของเขา ไปพร้อมกับการที่เขาต้องลงเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารให้สะดวกทั้งการใช้ชีวิต และการเล่นฟุตบอล
“ที่นี่มีนักเตะโปรตุเกสหลายคน และบราซิเลี่ยนที่นี่ก็ใช้ภาษาโปรตุเกส มันเลยง่ายสำหรับผมในเรื่องการสื่อสาร แต่ผมก็ต้องเรียนภาษาอังกฤษอยู่ดี ผมพูดโปรตุเกส และสเปนได้ ตอนนี้ผมต้องเรียนรู้ภาษาอังกฤษอีกภาษา มาร์ควินญอส คือคนที่มีปัญหาเดียวกับผม เราต้องลงเรียนด้วยกัน แต่ภาษาอังกฤษเขาแย่กว่าผมอีกนะ”
“เซดริก ช่วยผมได้เยอะมาก เขาเป็นมืออาชีพมากช่วยเหลือทุกคนในทีม เขาเป็นผู้เล่นประสบการณ์สูง และเคยผ่านการคว้าแชมป์ยูโรมาแล้วกับโปรตุเกส ส่วน นูโน่ ตาวาเรส เอาแต่เรียกผมว่า ที-แบ็ค ตัวละครในเรื่อง Prison Break เขาเรียกผมแบบนี้ทุกครั้งเลย”
หาก ปาทริค วิเอร่า คือหนึ่งในตำนานผู้สร้างชื่อเสียงในยุคสมัยอันยิ่งใหญ่ของอาร์เซนอล ฟาบิโอ วิเอร่า เด็กหนุ่มที่เห็น ปาทริค วิเอร่า มาตั้งแต่เด็ก ก็มีความฝันไม่ต่างกัน และเขาหวังไว้ว่าทุกอย่างจะเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะเขาตื่นเต้นเหลือเกินกับความฝันที่เขารอคอยตั้งแต่เด็ก มันได้เกิดขึ้นแล้วนั่นเอง
“ผมอยากติดทีมชาติโปรตุเกสชุดใหญ่ ผมอยากพาทีมกลับไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก และผมรอคอยการเล่นในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แทบไม่ไหวแล้ว!”