ตลาดการซื้อขายเดือนมกราคม 2022 กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้ และจะมีนักเตะหลายคนที่รอคอยเวลานี้ ในการที่จะได้รับข้อเสนอในการย้ายออกจากทีม ซึ่ง หนึ่งในนั้นคือ เอ็ดดี้ เอนเคเธีย (22 ปี สัญญาถึงมิถุนายน 2022) กำลังอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว หลังจากไม่ได้รับโอกาสในการลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ อาร์เซนอล มากนัก
เอนเคเธีย ย้ายมาจากทีมเยาวชนเชลซี มาสู่ทีมเยาวชนอาร์เซนอล ในปี 2017 และไม่นานนักก็ได้รับโอกาสจาก อาร์แซน เวนเกอร์ ดันขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ในเกม คาราบาว คัพ ฤดูกาล 2017-2018 อย่างไรก็ตาม นับจากนั้น เอนเคเธีย มีช่วงที่ผลงานไม่ดีนัก เมื่อได้รับโอกาส กอปรกับมีทั้ง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง และ อเล็กซองเดร ลากาแซตต์ ขวางหน้าอยู่ และล่าสุดการที่ อาร์เซนอล เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ โฟลาริน บาโลกุน กองหน้ารุ่นน้องที่มีบริษัทเอเยนต์เดียวกับเอนเคเธียก็ยิ่งทำให้เจ้าตัวไม่มั่นใจกับสถานการณ์ของตนเองกับทีม
พฤษภาคม 2021 อาร์เซนอล ยื่นข้อเสนอสัญญาใหม่ให้กับเขาเป็นครั้งแรก และได้รับการปฏิเสธจาก นักเตะ เนื่องจากเขาไม่แน่ใจกับอนาคตของตนเอง ซึ่งจนถึงวันนี้ เขาเพิ่งมีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่เพียง 3 เกมเท่านั้น และนั่นทำให้การเจรจาสัญญาใหม่ “รอบที่สอง” ยังคงล้มเหลวอีกครั้ง และมีโอกาสสูงที่จะเป็นการเจรจารอบสุดท้าย
ตามรายงานระบุว่า เอนเคเธีย ต้องการเวลาในสนามเป็นอันดับแรก มากกว่าเรื่องของค่าเหนื่อย โดยตอนนี้เขาได้รับความสนใจจากหลายสโมสรในยุโรป ไม่ว่าจะเป็น นีซ ในลีก เอิง ฝรั่งเศส, โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ในบุนเดสลีกา เยอรมัน และอีกหลายสโมสรในอิตาลี
ในหน้าร้อนที่ผ่านมา อาร์เซนอล ได้รับการติดต่อจาก คริสตัล พาเลซ ในการยื่นซื้อตัว เอนเคเธียไปร่วมงานด้วย อย่างไรก็ตามการเจรจาไม่เป็นผล และสุดท้ายพวกเขาเซ็นสัญญาซื้อตัว อ๊อดซอน เอดูอาร์ จาก กลาสโกว์ เซลติก มาร่วมงานแทน
หากมาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนคงสงสัยว่า ทำไม อาร์เซนอล ถึงยังคงยื่นข้อเสนอสัญญาใหม่ให้ กับ นักเตะ ที่ดูแล้วไม่มีใจอยู่ต่อค่อนข้างแน่นอนแล้ว แต่เรื่องนี้มีที่มีมาที่ไป และมันก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ในส่วนต่อจากนี้ ผู้เชียนได้ข้อมูลจากทาง ดิ แอตเลติก ที่นำเสนอเรื่องราวนี้ โดยสถานการณ์ของ อาร์เซนอล ในดีลของเอนเคเธียนั้น อาร์เซนอล ยังคงมีโอกาสที่จะได้ในส่วนของค่าตัวของนักเตะคนนี้อยู่เช่นกัน ต่อให้นักเตจะหมดสัญญาไปแล้วก็ตาม ตามกฎของพรีเมียร์ ลีก ที่ระบุว่า สโมสรต้นสังกัดควรได้รับเงินบางส่วนจาก นักเตะ ที่หมดสัญญากับทีมและย้ายไปยังสโมสรอื่นในอังกฤษ หากเข้าข่ายดังต่อไปนี้ ในกรณีที่ เอนเคเธีย ย้ายไปร่วมงานกับทีมในอังกฤษด้วยกัน
โดยในส่วนของสินไหมทดแทนนั้นจะมีปัจจัยหลายอย่างประกอบการตัดสินไม่ว่าจะเป็น
ในทางกลับกัน หาก เอนเคเธีย เลือกรับข้อเสนอของสโมสรในต่างประเทศ จะเข้าข่ายกับอีกกฏของทาง ฟีฟ่า ซึ่งจะมีความแตกต่างกันออกไประหว่างสมาคมฟุตบอลในแต่ละประเทศ โดยจะมีการกำหนดตายตัวในเรื่องของค่าธรรมเนียมที่ชัดเจน และกฎจะต่างในอังกฤษตรงที่จะกำหนดว่าจะมีการอายุนักเตะไม่เกิน 23 ปี (หรือครบวันเกิดอายุ 23 ปี) ดังนั้น เอนเคเธีย เกิดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 1999 ดังนั้นกฎนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 30 พฤษภาคม 2022
โดยในเคสนี้ สโมสรเดิมต้องมีการเสนอสัญญาใหม่ให้กับผู้เล่นก่อนที่จะหมดสัญญา หากไม่มีทำเช่นนั้น สโมสรจะไม่ได้รับค่าชดเชยใดเลยในทุกกรณี และต้องเสนอสัญญาอย่างเป็นทางการให้กับนักเตะ อย่างน้อย 60 วันก่อนหมดสัญญา และสัญญาต้องมีมูลค่าอย่างน้อยเท่ากับสัญญาเดิมที่นักเตะเคยได้รับอีกด้วย
อีกเช่นกัน ฟีฟ่า เพิ่งมีการออกข้อกำหนดใหม่ขึ้นมาสำหรับ นักเตะที่มาจาก อังกฤษ, สกอตแลนด์, ไอร์แลนด์ และ เวลส์ จะไม่จำเป็นต้องทำตามข้อกำหนดด้านบน หากนักเตะต้องการย้ายไปเล่นนอกลีก สโมสรเดิมจะได้รับค่าสินไหมทดแทนโดยอัตโนมัติ โดยจะมีการประเมินเงินสินไหมทดแทน จากค่าพัฒนาผู้เล่น เป็นหลัก ซึ่งในส่วนนี้ เชลซี ในฐานะทีมแรกที่พัฒนาเขาขึ้นมา ก่อนย้ายมา อาร์เซนอล ก็จะได้รับเงินส่วนนี้ด้วย แต่จะไม่ใช่สำหรับ ลีดส์ ที่เคยยืมตัวไปเล่นช่วงหนึ่ง เพราะ ณ เวลานั้น เอนเคเธีย คือ นักเตะของทีมชุดใหญ่แล้ว ซึ่งเงินที่จะได้รับนั้นจะน้อยกว่า หาก เอนเคเธีย ย้ายไปเล่นในลีกอังกฤษด้วยกันทั้งนี้ทั้งนั้น กว่าจะเกิดสถานการณ์เหล่านี้ขึ้น ทุกสโมสรต่างอยากที่จะ “ตกลงกันได้” จะเป็นการดีที่สุดกับทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้เรื่องราวมันยุ่งยากในการจัดการ
เช่นเดียวกับดีลของ เอนเคเธีย นับจากนี้หากไม่มีการต่อสัญญาออกไป เราก็จะได้มารอดูกันว่าท้ายที่สุดแล้ว สโมสรใดจะได้ตัวเขาไป และจะต้องไปถึงจุดไหนเพื่อให้การย้ายทีมครั้งนี้สิ้นสุดลง