ที่มาของ "ป๊อกเด้ง" หรือ ไพ่ป๊อก เกมไพ่มหาชน!
ป๊อกแปด! ป๊อกเก้า! สองเด้ง สามเด้ง สี เรียง เซียน ตอง คำพูดเหล่านี้ คุณสามารถ ค้นหามันได้ ผ่านทาง การเล่นไพ่ รูปแบบหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า “ไพ่ป๊อก” หรือที่เรียกกันว่า “ป๊อกเด้ง” นั่นเอง
ว่ากันตามตรง ไม่มีที่มาแน่ชัด แต่มีหลายแหล่งที่มาระบุว่า ป๊อกเด้ง น่าจะเกิดจากการเล่นใน ทวีปเอเชีย เป็นหลัก ดูจากความนิยม ในการเล่นพนัน ของคนภายในประเทศ หรือ กิจกรรม ฆ่าเวลา การเล่น ป๊อกเด้ง มักเล่นกันในหมู่เพื่อน หรือครอบครัว กระทั่งในวงพนัน ของคนเอเชีย มากกว่าในยุโรป ซึ่งจะเน้นการเล่น ไพ่โป๊กเกอร์ เสียเป็นส่วนใหญ่
เป็นหนึ่งใน เกมไพ่ ที่เล่นง่าย ได้-เสีย เร็วที่สุดชนิดหนึ่งในวงการ เรียกว่า นักเล่นพนันวงไพ่ ร้อยละ 99 % เริ่มต้นจาก การเล่น “ป๊อกเด้ง” เป็นอย่างแรก และ 100 % เล่น “ป๊อกเด้ง” เป็นกันทุกคน
สามใบจบเกม การเล่นเกมไพ่ จะมีอยู่สองแบบ คือ ต้องมี เจ้ามือ หรือแบบไม่จำเป็นต้องมี เจ้ามือ “ป๊อกเด้ง” เป็นเกมในลักษณะแรก คือ ต้องมีเจ้ามือ ซึ่ง จะเล่นกันได้ตั้งแต่ สองคน เป็นต้นไป มากที่สุด 16 คน แต่ตามมาตรฐานสากล ไม่เกิน 6 คน รวมเจ้ามือแล้ว
หากเล่นกันแบบ “ครอบครัว” เพื่อความ บันเทิง หรือสนุกสนาน อาจมีการ “วน” เป็นเจ้ามือ กันได้ตามกำหนดของแต่ละวง แต่ถ้า “พนัน” เจ้ามือจะเป็น คาสิโน เพียงผู้เดียว เล่นกับ ลูกค้าทุกคน ที่เข้ามานั่งในวงเดิมพัน มีการกำหนดยอดขั้นต่ำในการเดิมพัน ในแต่ละครั้ง ตามกำหนด
“ป๊อกเด้ง" หรือ ไพ่ป๊อก เล่นอย่างไร
อุปกรณ์จะใช้เพียง ไพ่ หนึ่งสำรับ (52 ใบ ไม่รวม โจ๊กเกอร์) แจกไพ่ ฝั่งละ 2 ใบ เป็นการเริ่มต้น
ไพ่ หมายเลข 2-10 จะมีค่า ตามจำนวนหมายเลข
ไพ่ A จะมีค่าเท่ากับ 1
ไพ่ J-Q-K จะมีค่าเท่ากับ 10
- นำไพ่สองใบรวมกัน ได้ค่าเท่าไร ตัดหลักสิบออก ก็จะ จำนวนคะแนนที่เราได้ เช่น ไพ่ 3 + ไพ่ 8 = 11 ตัดหลักสิบออก เท่ากับว่าเราจะมีแต้มเพียง หนึ่งแต้มเท่านั้น หรือ ไพ่ 3+ ไพ่ 4 ไม่ถึง 10 แต้ม เท่ากับว่า เรามีแต้มทั้งหมด 7 แต้มในมือ เป็นต้น
- ในกรณีที่ไพ่สองใบแรก ผลรวมได้ 8 หรือ 9 คะแนน ต้องเปิดไพ่ให้เจ้ามือทราบทันที เรียกว่า “ป๊อกแปด” และ “ป๊อกเก้า” แต่ถ้าผลรวมไม่ได้ 8-9 ในสองใบแรก ให้คว่ำไพ่ไว้ รอเรียกไพ่อีกหนึ่งใบเพื่อเพิ่มแต้มบนมือ หรือ “อยู่” เพื่อสู้กับเจ้ามือด้วยผลรวมแต้มจากไพ่สองใบบนมือ
- หากต้องการเพิ่มจำนวนแต้ม สามารถทำการ “จั่ว” ไพ่เพิ่มได้อีกหนึ่งใบ เช่น ไพ่ 4+ ไพ่ 6 เท่ากับ 10 ตัดหลักสิบออก หมายถึงเราไม่มีแต้มบนมือเลย ดังนั้น เราจั่วไพ่อีกหนึ่งใบ ได้ หมายเลขไพ่ 7 เท่ากับ ไพ่ 4+ ไพ่ 6+ ไพ่ 7 = 17 คะแนน ตัดหลับสิบออก เราจะได้ 7 คะแนนในเกมนั้น
- ในกรณี ได้ไพ่หมายเลขเดียวกัน หรือ “ดอกซ้ำกัน” สองใบ หรือ สามใบ จะเรียกว่า “สองเด้ง” หรือ “สามเด้ง” เช่นได้ไพ่ 4 + ไพ่ 4 = 8 จะเรียกว่า ป๊อกแปด สองเด้ง หรือหากได้ ไพ่ 3 โพดำ + 9 โพดำ + 6 โพดำ = 18 คะแนน ตัดหลักสิบออก เหลือ 8แต้ม สามเด้ง หากเกมนั้น คุณเป็นผู้ชนะ จะได้เงินจากการเดิมพันเป็นสองเท่า เช่น ลงทุน 100 บาท จะได้เป็น 200 บาท หากได้สองเด้ง และ ได้ 300 บาท หากได้สามเด้ง เป็นต้น
- การ “ป๊อก” จะเกิดขึ้นกับไพ่สองใบแรก ผลรวมได้ 8 หรือ 9 เท่านั้น และ “ป๊อก” ชนะไพ่ที่จั่วสามใบ ในทุกกรณี แม้ไพ่สามใบจะได้แต้มมากกว่า หรือเท่ากันก็ตาม
- ในกรณีที่จั่วไพ่ใบที่สามแล้วได้ดอกเดียวกัน (ดำ,แดง,ข้าวหลามตัด,ดอกจิก) เหมือนกันทั้งสามใบ จะเรียกว่า “สี” จะได้เงินเป็นสามเท่าของจำนวนที่เดิมพัน
- ในกรณีที่จั่วไพ่ใบที่สามแล้วได้เลขเรียงกันอย่างไรก็ได้ เช่น 2-3-4, 3-4-5 หรือ 10-J-Q จะเรียกว่า “เรียง” จะได้เงินเป็นสามเท่าของจำนวนที่เดิมพัน
- ในกรณีที่จั่วไพ่ใบที่สามแล้วได้ไพ่ J-Q-K สามใบผสมกันอย่างไรก็ได้ เช่น J-Q-Q, J-J-K หรือ Q-Q-K จะเรียกว่า “ขอบ”จะได้เงินเป็นสามเท่าของจำนวนที่เดิมพัน
- ในกรณีที่จั่วไพ่ใบที่สามแล้วได้ไพ่เลขเดียวกันทั้งหมด จะเรียกว่า “ตอง” จะได้เงินเป็นห้าเท่าของจำนวนที่เดิมพัน
โดยในส่วนของรายละเอียดอื่นเช่น การวัดเพื่อหาผู้ชนะ ในกรณีที่ได้ แต้มเท่ากัน, ป๊อกเท่ากัน, สี, เรียง, เซียน, ตอง เกินกว่าหนึ่งคน จะขึ้นกับการตกลงข้อกำหนดกันก่อนเกมการแข่งขันจะเริ่มขึ้น บางแห่งก็จะให้เป็นผล “เสมอ” ก็มีเช่นกัน รวมถึงการ เล่นแบบ มีขาบ๊วย หรือ ขาฉ่าง ฯลฯ เป็นต้น
ทำไม ป๊อกเด้ง ถึงยอดนิยม
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คิดว่าคงไม่ต้องอธิบายกันให้มากความแล้วว่า ทำไม ป๊อกเด้ง ถึงยอดนิยมมากขนาดนี้ เพราะนี่คือ เกมไพ่ ที่เล่นง่าย เข้าใจง่าย หนึ่งเกมใช้เวลาไม่ถึง 2 นาที และสนุกกันได้หลายคนพร้อมกัน ที่สำคัญ ต้องมีทั้งไหวพริบ และดวง ประกอบกันด้วย…แบบนี้สิถึงจะเรียก “การพนัน”