กลายเป็นประเด็นร้อนมากทันทีในวงการฟุตบอลอิตาลี หลังจากที่มีการพูดถึงเรื่องของการตรวจสอบบัญชีการเงินของหลายสโมสรในเซเรีย อา นำโดย ยูเวนตุส, อตาลันต้า, นาโปลี และอีกหลายทีม
“การตกแต่งบัญชี” เป็นหนึ่งในการกระทำที่ปกปิด หรือเพิ่มมูลค่าของบริษัทเพื่อให้เกิดเป้าหมายถึง สมดุลของบัญชีภายในองค์กร เกิดผลกำไรที่ดี และหลบเลี่ยงในเรื่องของกด ไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ หรือ เอฟเอฟพี แม้ว่าความจริงจะไม่เป็นอย่างนั้นเลยก็ตาม ซึ่งในเคสของวงการฟุตบอลในรอบนี้ มีการพุ่งเป้าไปในเรื่องของการ ตกแต่งบัญชีผ่านทางการซื้อขาย นักเตะ ที่มีมูลค่าเกินความเป็นจริง เป็นเป้าหมายใหญ่ของเรื่องนี้ โดย ยูเวนตุสออกแถลงการณ์ ยินดีให้ความร่วมมือกับองค์กรที่เกี่ยวข้องในการให้เข้ามาตรวจสอบเรื่องของการเงิน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองแล้ว
รายงานจาก เดลี เมล์ สื่อในประเทศอังกฤษ ระบุว่า สำนักงานอัยการของเมืองตูริน ได้มีการเข้าค้นสำนักงานของยูเวนตุส เพื่อค้นหาเอกสารเกี่ยวกับงบการเงินในช่วงปี 2019-2021 ที่ผ่านมาของทีม กับการซื้อขายซึ่งมีการระบุว่ามี 42 การซื้อขาย อันรวมถึงการเซ็นสัญญาในระดับทีมเยาวชนของ ยูเวนตุส ซึ่งจะโดนตรวจสอบทั้งหมดว่ามีความโปร่งใสหรือไม่ และมี 6 ผู้บริหารของยูเวนตุส ซึ่งรวมถึง อันเดรีย อันเญลลี่, พาเวล เนดเวด และ สเตฟาโน่ เคอราโต้ ประธานสโมสร และผู้บริหารของ ยูเวนตุส ถูกสอบสวนในเรื่องนี้ทั้งหมด รวมถึง ฟาบริซิโอ ปาราติชี่ ซึ่งตอนนี้ย้ายมาทำงานกับ สเปอร์ส ในหน้าร้อนที่ผ่านมาก็เช่นเดียวกัน โดยสื่ออังกฤษ เน้นไปที่ประเด็นเกี่ยวกับการดึงตัว คริสเตียน โรเมโร่ แนวรับทีมชาติอาร์เจนติน่า มาร่วมงานด้วย เป็นดีลที่น่าสงสัยในประเด็นนี้
แรกเริ่มเดิมที โรเมโร่ ย้ายมาเล่นในอิตาลีครั้งแรกในฤดูกาล 2018-2019 ตอนนั้นย้ายจาก เบลกราโน่ ในบ้านเกิดมาเล่นกับ เจนัว และอยู่ได้เพียงปีเดียว ผลงานน่าสนใจ ยูเวนตุส เลยซื้อมาด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์ แต่พอการซื้อขายจบลงพวกเขาก็ปล่อยตัวให้กับ เจนัว ใช้งานต่อในฤดูกาลต่อมา ตามด้วย อตาลันต้า ในฤดูกาล 2020-2021 ซึ่งมีการระบุว่า อตาลันต้า จ่ายค่ายืมตัว นักเตะ 3.4 ล้านปอนด์ ก่อนที่ในเดือนสิงหาคม 2021 ที่ผ่านมา อตาลันต้า เซ็นสัญญาซื้อขาด โรเมโร่ เพียง 13.5 ล้านปอนด์ ก่อนที่จะปล่อยตัว นักเตะ ยืมตัวมาเล่นกับ สเปอร์ส ด้วยสัญญายืมตัวที่พ่วงออฟชั่นซื้อขาดที่ 47 ล้านปอนด์ เท่ากับ ยูเวนตุส ขาดทุนกับดีลนี้ไปแล้ว 5.1 ล้านปอนด์ (13.5 + 3.4 ล้านปอนด์ = 16.9 ล้านปอนด์) ทั้งที่ นักเตะ ยังไม่ได้ลงเล่นกับ ยูเวนตุส แม้แต่เกมเดียว ในขณะที่อตาลันต้า มีลุ้นจะทำกำไรจาก โรเมโร่ ได้มากกว่า 30 ล้านปอนด์ หาก สเปอร์ส เซ็นสัญญาซื้อขาดนักเตะในตอนจบฤดูกาลนี้ ซึ่งดีลนี้ทั้งหมดเกิดจากการทำงานของ ฟาบิโอ ปาราติชี่
นอกนั้นยังมีในส่วนของดีล เจา คันเซโล่แบ็คทีมชาติโปรตุเกส ซึ่งย้ายมาเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แรกเริ่มพวกเขาซื้อมาด้วยค่าตัวประมาณ 40.4 ล้านยูโร ก่อนลงเล่นเพียง 1 ปี พวกเขาก็ปล่อยให้ย้ายออกจากทีม แลกกับเงินจำนวนหนึ่ง บวกกับ ดานิโล่ กองหลังทีมชาติบราซิล รวมถึงดีลสลับขั้วโดยตรงระหว่าง อาตูร์ และ มิราเล็ม ปรานยิช ที่เกิดขึ้นระหว่าง บาร์เซโลน่า และ ยูเวนตุส ก็เป็นหนึ่งในดีลของ ยูเวนตุส ที่ถูกเพ่งเล็ง ตามรายงานจากสื่อที่ออกมา
อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบการตกแต่งบัญชี จะเกิดขึ้นกับอีกหลายสโมสร อย่างเช่นในดีลของ วิคเตอร์ โอซิมเฮน กองหน้าไนจีเรีย ของนาโปลี ซึ่งย้ายมาด้วยค่าตัว 71.5 ล้านยูโร ในปี 2020 ทั้งที่หนึ่งปีก่อนหน้านั้น ลีลล์ เพิ่งเซ็นสัญญานักเตะมาร่วมทีมด้วยค่าตัวเพียง 22.4 ล้านยูโรเท่านั้น ก็เป็นอีกหนึ่งดีลที่ถูกหยิบยกขึ้นมาว่าน่าจะอยู่ในเคสที่ต้องตรวจสอบเช่นกัน
หลายสิบปีที่ผ่านมา ฟุตบอลอิตาลี ในมุมมองของคนภายนอก ก็มีความไม่ใสสะอาดสักเท่าไรนัก โดยเฉพาะหลังการเกิดคดี “กัลโช่โปลี” ในปี 2006 ที่ทำให้ ยูเวนตุส กระเด็นตกชั้นไปเล่นในเซเรีย บี พร้อมการโดนริบแชมป์เซเรีย อา 2 สมัย (2004-2005 / 2005-2006) โดยตัดสินให้ในปี 2004-2005 ไม่มีแชมป์ ส่วนปี 2005-2006 อินเตอร์ มิลาน ได้แชมป์ไปแทน ทำให้ภาพลักษณ์ของวงการฟุตบอลอิตาลี ย่ำแย่ลงไปอีก ขณะที่ ยูเวนตุส ก็ต้องใช้เวลาหลายปี กว่าจะกลับมาสร้างทีมทีมใหม่จนกลายเป็นแชมป์ เซเรีย อา 9 สมัยติดต่อกัน (2012-2020) ซึ่งหากผลการสอบสวนออกมาแล้วยืนยันได้ว่า พวกเขาผิดจริง บทลงโทษทั้งเรื่องของการริบแชมป์ และการปรับตกชั้น “อาจจะ” กลับมาหลอกหลอนพวกเขาอีกครั้ง
ว่ากันตามความรู้สึก และความเป็นจริง การกระทำใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับบุคคลหนึ่งบุคคล มากกว่าหนึ่งกลุ่ม ย่อมต้องมีการทำงานร่วมกันเพื่อ “ผลประโยชน์ร่วมกัน” ดังนั้น ยูเวนตุส จะไม่ใช่ทีมเดียว และต้องไม่ใช่ทีมเดียวที่โดนสอบสวนในเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการระบุว่าพวกเขาผิดจริง คู่ค้าของพวกเขาทั้งหมดต้องโดนเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบด้วยเช่นเดียวกัน ก็ได้แต่หวังว่า กระบวนการจะครอบคลุมและชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดข้อกังขาภายหลัง หรือรู้สึกถึงการโดนกลั่นแกล้ง หากสุดท้ายพวกเขาไม่ได้ทำผิดอย่างที่ถูกตั้งข้อสงสัย
ทุกวันนี้วงการฟุตบอล ขับเคลื่อนด้วยเรื่องของ “เงิน” เป็นหลักไปเสียแล้ว และเพื่อการไปสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่นั้น รายทางกว่าจะถึงปลายทาง ไม่ง่ายเลยสำหรับทุกสโมสร…ไม่ง่ายเลยจริง ๆ