กาเบรียลมาร์ติเนลลี่ตัวรุกดาวรุ่งชาวบราซิลเป็นหนึ่งในนักเตะอาร์เซนอลรุ่นใหม่ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในการค้นพบครั้งสำคัญครั้งหนึ่งของทีมงานสโมสรอาร์เซนอลกับผลงานอันยอดเยี่ยมของเจ้าตัว
จากเด็กเยาวชนสโมสรอิตัวร์โน่ ทีมดิวิชั่น 4 ในบราซิลซึ่งทีมงานของฟรานซิสคาจิเกาเห็นแววแล้วตามเก็บข้อมูลของเด็กคนนี้ในประเทศบราซิลดินแดนที่มีความฝันนับล้านคนที่อยากเป็นนักเตะอาชีพและประสบความสำเร็จในวงการฟุตบอลเด็กคนนี้คว้าความฝันสำเร็จเมื่อได้ย้ายมาเล่นฟุตบอลในยุโรปสำเร็จ
ผ่านมาแล้ว 3 ปี “กาบิ” เด็กหนุ่มวัย 17 ปีที่มีเชื้อสายอิตาเลียนคนนั้น กลายเป็นดาวรุ่งดีกรีทีมชาติบราซิลวัยเพียง 20 ปี ที่มีเหรียญทอง โอลิมปิก เกมส์ ห้อยคอประดับความสำเร็จของตนเองได้แล้ว และ ณ วันนี้ เขากำลังอยู่ในเส้นทางการยึดตัวจริงของทีมอาร์เซนอลเอาไว้ให้ได้ หลังจากหนึ่งปีก่อนหน้านั้น เขาเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากสาหัสในการรักษาอาการบาดเจ็บที่พรากเขาไปนานหลายเดือน ทุกวันนี้ เขาตัวใหญ่ขึ้นด้วยมัดกล้ามเนื้อที่เกิดจากการเล่นเวทมานานนับปี พร้อมกับการปรับสมดุลของร่างกาย เพื่อให้ “ความเร็ว” ยังคงอยู่บนร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
การจากไปของ ปิแอร์–เอเมอริค โอบาเมยอง ไปสู่ บาร์เซโลน่า กลายเป็นความสูญเสียของสโมสรที่กลายเป็น โอกาสสำหรับเขาโดยตรงเมื่อคู่แข่งรุ่นพี่ ที่ลงเล่นในตำแหน่งเดียวกันออกจากทีม และเขาก็พิสูจน์ในสนามซ้อมให้ มิเคล อาร์เตต้า มองเห็นศักยภาพที่มีในตัวในที่สุด และทำให้ทุกวันนี้เขายังคงเป็น “ยังกันส์” ยุคใหม่กับทีมที่ได้รับการระบุว่า “ค่าเฉลี่ยอายุของทีมน้อยที่สุดในพรีเมียร์ ลีก” ฤดูกาลนี้ ที่พวกเขากำลังพิสูจน์ตนเองว่า “เก่งพอก็แก่พอ” กับเป้าหมายในการกลับไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้อีกครั้ง
มาวันนี้ ดิ แอตเลติก ได้สัมภาษณ์กับเขา มันกลายเป็นเหมือนการ “ส่วนต่อขยาย” จากเรื่องราวเดิมที่เคยทราบกันมาตลอดสามปีที่ผ่านมาให้กว้างขึ้นว่าแท้จริงแล้วมาร์ติเนลลี่กับการย้ายมาสู่อาร์เซนอลนั้นเป็นอย่างไรกันบ้างโดยบทความนี้ผมแปลมาจากบทความต้นทางประกอบกับเรียบเรียงบางส่วนจากความทรงจำและความรู้เพิ่มเติมที่หามาตลอดร่วมกัน
กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ เกิดในเมือง เการูยอส รัฐเซา เปาโล โดยเขาเป็นบราซิเลี่ยนโดยกำเนิด แต่มีเชื้อสายอิตาเลี่ยน มาจากพ่อของเขา ซึ่งการเริ่มต้นของเส้นทางการเล่นฟุตบอลของ มาร์ติเนลลี่ เริ่มต้นด้วยอายุประมาณ 9 ขวบ กับสโมสรโครินเธียนส์ แต่เป็นกับการลงเล่น “ฟุตซอล”
“ผมเล่นฟุตซอลอยู่สองปี จนอายุ 11 เล่นกันแบบ 5-5 ก่อนที่ต่อมาจะขึ้นมาเล่นฟุตบอลแทน ผมเล่นที่นั่นสองปีในเกมฟุตบอล แต่สุดท้ายแล้วผมก็ต้องย้ายไปที่ อิตูร์”
อิตูร์ (Itu) เป็นเมืองเล็ก ๆ อีกเมืองในรัฐเซา เปาโล ที่ซึ่งพ่อของเขาได้งานที่นั่น โดยพ่อของเขาทำงานอาชีพ ช่างทำเครื่องมือ โดยเขาเลือกที่จะพาทั้งครอบครัวย้ายเมืองไปอยู่ที่นั่นด้วยกันทั้งหมด มาร์ติเนลลี่ ต้องออกจาก โครินเธียนส์ ที่ซึ่งเขากำลังสนุกกับฟุตบอล แต่การย้ายไปที่นั่นทำให้เขาได้เจอกับโอกาสที่ใหญ่กว่าเดิม โดยที่เขาก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อน กับการไปร่วมงานกับสโมสร อิตัวร์โน่ ซึ่งเป็นสโมสรระดับท้องถิ่นของเมือง
อิตัวร์โน่ (Ituano) สโมสรที่ก่อตั้งขึ้นมาเป็นปีที่ 74 แล้ว ณ เวลานี้พวกเขาลงเล่นในระดับ เซเรีย ซี โดยที่พวกเขามีชื่อเสียงมากกว่าเดิมหลังจากที่ในปี 2010 พวกเขาได้ตัวประธานสโมสรคนใหม่อย่าง “จูนินโญ่ เปาลิสต้า” ซึ่งเคยเป็นเด็กเยาวชนของทีมมาก่อนที่จะไปดังจนถึงขั้นคว้าแชมป์โลกกับทีมชาติบราซิลในปี 2002 มาทำงานนี้ โดย “จูนี่” ลงเล่นกับทีมด้วยระยะหนึ่งก่อนจะเลือกที่นี่เป็นสโมสรสุดท้ายในชีวิตการเล่นฟุตบอลและขึ้นมาเป็นประธานสโมสรซึ่งนั่นทำให้เส้นทางของมาร์ติเนลลี่กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่อาจจะพิเศษกว่าใคร
“เอเยนต์ของผมเป็นเพื่อนกับ จูนินโญ่ เขาก็เลยแนะนำผมไปให้กับ อิตัวรโน่ ซึ่งเขาก็รับผมเข้าทีมตอนนั้นผมเพิ่งอายุ 13 ปี ตอนแรกมันยากอยู่เหมือนกันนะ เพราะ โครินเธียนส์ เป็นเหมือนกับชีวิตของผม ผมย้ายบ้านออกมา หมายถึงผมทิ้งสังคมของผมไปด้วย ผมแยกจากเพื่อนหลายคนมาก ผมร้องไห้เลยล่ะ ตอนผมย้ายออกมาเพราะมันคือความจำเป็น ตอนนั้นผมเด็กมาก”
หลังจากลงฝึกซ้อมกับ อิตัวร์โน่นานถึง 3 ปี ในที่สุดเขาก็ได้เซ็นสัญญาอาชีพเป็นครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน ปี 2017 ซึ่งต่อมาอีกไม่กี่เดือนเขาก็ลงสนาม และกลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ลงสนามให้กับสโมสรด้วยอายุเพียง 16 ปีกับ 9 เดือน และเติบโตขึ้นตามลำดับ ซึ่ง กาบิ ยอมรับว่าการที่เขาได้เล่น “ฟุตซอล” มาตั้งแต่เด็ก ทำให้เขามีทักษะในการเอาตัวรอดที่ดี
“ฟุตซอล คือกีฬาที่เล่นในที่แคบกว่าฟุตบอล คุณต้องเร็ว และเลี้ยงบอลในที่แคบให้รอดให้ได้ พอผมมาเล่นฟุตบอล มันก็ง่ายกว่าเพราะสนามมันใหญ่กว่า พื้นที่มากกว่า ยิ่งถ้าคุณวิ่งเร็วเท่าไร โอกาสในการเอาชนะตัวประกบมันก็ยิ่งง่ายขึ้นเท่านั้น”
เขาลงเล่นกับ อิตัวร์โน่ สองปี ในทีมชุดใหญ่ท่ามกลางความรู้ และไม่รู้ว่าเขาได้รับความสนใจจากหลายสโมสรในยุโรปมาดูฟอร์มของเขาเรื่อยมา โดยหนึ่งในนั้นคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยเรียกตัวเขาไปร่วมงานทดสอบความสามารถด้วยหลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายแล้วการเซ็นสัญญากลับไม่เกิดขึ้น จนกระทั่งเมื่อ อาร์เซนอล ก้าวเข้ามาในชีวิตของเขา การเดินทางครั้งใหม่ในชีวิตของเขาก็เริ่มต้นขึ้น…แต่กว่าจะย้ายมาชูเสื้อกับอาร์เซนอลมันมีเรื่องราวมากกว่านั้น
โปรดติดตามตอนต่อไป