“แดงเดือด” ยังคงเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่มีผู้ชมเฝ้ารอ และติดตามมากที่สุดเกมหนึ่งในโลก นี่ไม่ใช่เกม “ดาร์บี้แมตซ์” แต่นี่คือเกมของสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการฟุตบอลอังกฤษในแง่ของการคว้าแชมป์ลีกสูงสุด ที่ทุกวันนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงรักษาความเป็นอันดับหนึ่งในจำนวนแชมป์ลีกมากที่สุด โดยมี ลิเวอร์พูล หายใจรดต้นคอกับการตามหลัง เพียงหนึ่งสมัยเท่านั้น
นอกสนาม พวกเขาทั้งสองทีม ไม่ได้ญาติดีกันแต่อย่างใด รวมถึงเรื่องราวของการ “ย้ายทีม” ที่มีจำนวนไม่น้อย และก็ไม่มาก แต่ก็ “นานแล้ว” ที่ไม่เกิดการย้ายทีมจากทั้งสองทีมแบบโดยตรง
ครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้นจากการย้ายทีมแบบโดยตรงระหว่างทั้งสองสโมสร ต้องย้อนกลับไปมากกว่า 50 ปี เมื่อ ฟิล คริสแนล ย้ายไปจาก ลิเวอร์พูล สู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 25,000 ปอนด์ และนับจากนั้นเป็นต้นมา ไม่มี นักเตะ ของทั้งสองสโมสร ย้ายกันโดยตรงอีกเลย โดยมี นักเตะ เพียง 9 คนเท่านั้น ที่เลือกย้ายทีมโดยตรงระหว่างทั้งสองทีม
อย่างไรก็ตามก็มี นักเตะ หลายคนที่เคยลงเล่นมาแล้วทั้งสองสโมสรในช่วงชีวิตของพวกเขา บ้างก็ย้ายมาในช่วงวัยรุ่น บ้างก็ย้ายมาในช่วงปลายอาชีพการค้าแข้ง และนี่คือ 2 นักเตะ ที่เป็นประวัติศาสตร์การย้ายทีม ที่ใจกล้าพอที่จะย้ายข้ามไปยังอีกฟากฝั่ง ไปดูกันว่าทำไมเหตุการณ์นี้จึงเกิดขึ้น
“เดอะ กัฟเนอร์” สร้างชื่อเสียงมาจากการเป็นเยาวชนของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ดันทะลึ่งรีบใส่เสื้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งที่การย้ายทีมยังไม่เสร็จสิ้น ทำให้เขากลายเป็นคนที่โดนสาวก “เดอะ แฮมเมอร์ส” เกลียดมากที่สุดคนหนึ่งในช่วงยุค 90 แต่การย้ายมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของเขา ก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก เขาได้แชมป์พรีเมียร์ ลีก, เอฟเอ คัพ, คัพ วินเนอร์ส คัพ รวมถึงการเข้าสู่ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ อย่างไรก็ตาม หลังความล้มเหลวของปีศาจแดงในปี 1995 การเปลี่ยนแปลงทีมครั้งสำคัญก็เริ่มต้นขึ้น และ อินซ์ ก็คือหนึ่งในคนที่ต้องออกจากทีมไป โดยมีการเผยว่าส่วนหนึ่งของการออกจากทีมของเขา เกิดจากการที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่ปลื้มในเรื่องของการทำตัวเป็น “ลูกพี่” ภายในห้องแต่งตัวของเขา รวมถึง นักเตะ อยากย้ายไปเล่นในอิตาลีด้วย โดยเรื่องหลัง อินซ์ ปฏิเสธ ในเวลาต่อมา
“ผมไม่ได้เป็นคนเลือกย้ายออกจากทีม ผมไม่ต้องการย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาตกลงกับ อินเตอร์ มิลาน เบื้องหลังผม ผมไม่ได้พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรอกนะ ผมมีสิทธิ์จะเลือกปฏิเสธข้อเสนอก็ได้แต่ผมก็รู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว”
อินซ์ ย้ายไป อินเตอร์ มิลาน หนึ่งฤดูกาล ก่อนตัดสินใจรับงานกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งแน่นอน เขาทำแสบกับ เด็กผี ด้วยบทสัมภาษณ์บาดหัวใจ รวมถึงการยิงประตูในเกมที่ทั้งสองทีมพบกัน และเกือบส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดแชมป์ในบั้นปลายอีกด้วย
“ตอนผมย้ายออกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมมีการคุยสัญญาใหม่อีก 4 ปี และเกมเกียรติยศด้วยเมื่อจบสัญญา แต่สุดท้ายทุกอย่างไม่เกิดขึ้น และเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และบอร์ดบริหาร ต้องการขายผมออกมา”
“ผมเสียใจที่ย้ายออกจากทีม และพอผมตัดสินใจกลับมาเล่นในอังกฤษ ลิเวอร์พูล ยื่นข้อเสนอเข้ามา ผมก็ไม่คิดหลายรอบให้เสียเวลาในการรับข้อเสนอ พวกเขาเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม ไม่ต่างจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และในฐานะของ นักเตะ ผมไม่สามารถปฏิเสธโอกาสแบบนี้ได้ เพียงเพราะกังวลว่าแฟนบอลจะคิดอย่างไรกับผม”
“ผมคิดเพียงว่าแฟนบอลลิเวอร์พูลจะคิดอย่างไร และพวกเขาต้อนรับผมอย่างดี แค่นั้นมันก็พอแล้ว”
อินซ์ ออกจาก ลิเวอร์พูล และลงเล่นกับ มิดเดิ้ลสโบรซ์ ตามด้วยอีกหลายทีม ก่อนจะจบด้วยการเลิกเล่นกับสโมสร แมคเคิ่ลฟิลด์ ทาวน์
“เบบี้โกล” สร้างชื่อเสี่ยงกับ ลิเวอร์พูล ในฐานะ นักเตะ ดาวรุ่งที่ฟอร์มโดดเด่นตั้งแต่ในทีมเยาวชนของทีม ก่อนที่จะยกระดับตัวเองขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 1997-1998 และสร้างผลงานโดดเด่นจนกระทั่งติดทีมชาติอังกฤษลงเล่นใน ฟุตบอลโลก 1998 รอบสุดท้าย โดย โอเว่น ยิงประตูสุดสวยในเกมพบกับ อาร์เจนติน่า และนั่นสร้างชื่อเสียงให้กับเขาไปทั่วโลก พร้อมกับชื่อเสียงของ “เบบี้โกล” ดาวยิงร่างเล็ก ความเร็วสูง และ จบสกอร์ได้อย่างเฉียบคม โอเว่นกวาดความสำเร็จมากมายไม่น้อยกับสโมสร โดยเฉพาะการคว้า “ทริปเปิ้ลแชมป์” ฟุตบอลถ้วย ในปี 2001 ที่ส่งให้เขาได้รางวัล นักเตะ ยอดเยี่ยม หรือ บัลลง ดอร์ ด้วย
อย่างไรก็ตาม เขากลับไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ ลิเวอร์พูล ภายใต้การทำงานของ ราฟาเอล เบนิเตซ จนต้องย้ายไปเล่นกับ เรอัล มาดริด ในลา ลีกา สเปน แต่เล่นเพียงฤดูกาลเดียวก็ย้ายมาเล่นกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวมากถึง 16.5 ล้านปอนด์ แต่ก็ลงเล่นไปเพียงไม่เท่าไรก็ บาดเจ็บ ซึ่งเป็นอาการบาดเจ็บสะสมยาวนาน จนทำให้สุดท้ายแล้ว เป็นเพียงแค่ผู้ชมเสียเป็นส่วนมากกับทีมที่สุดท้ายก็ตกชั้นไปในที่สุด
การตกชั้นทำให้เขาเลือกย้ายออกจากทีม และจบด้วยการเซ็นสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สร้างความเกลียดชังให้กับแฟนหงส์แดงทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เขาก็ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ท่ามกลางคำก่นด่าของแฟนบอล ลิเวอร์พูลจนถึงวันนี้ ที่เขาเลิกเล่นไปแล้ว เขาก็ยังไม่เป็นที่ต้อนรับของแฟนบอล ลิเวอร์พูล อยู่เช่นเดิม ไม่แม้กระทั่งให้ค่าในฐานะของ ตำนานสโมสร
กองหลังชาวอังกฤษที่เกิดในย่านสต๊อคพอร์ท ได้รับการบันทึกว่าคือ นักเตะ คนแรกที่ได้ย้ายทีมระหว่าง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบโดยตรง โดย ชอร์ลตัน ลงเล่นกับ ลิเวอร์พูล ในปี 1904 ในยุคสมัยที่เรียกว่าเล่นฟุตบอลกันแบบยุคเก่า โดยลงเล่นกับ ลิเวอร์พูล ยาวนานถึง 8 ปี ก่อนที่จะย้ายไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด “ปีศาจแดง” ยังคงดิ้นรน และเป็นหนึ่งในสโมสรที่เพิ่งเกิดใหม่ได้เพียงไม่กี่สิบปี โดยลงเล่นไปเพียงสองฤดูกาลเท่านั้น