7 ตุลาคม 2021 ชีวิตของแฟนบอล นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล หลังการเทคโอเวอร์ของกลุ่ม พีไอเอฟ (พับลิก อินเวสเมนต์ ฟันด์) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ก้าวมาเป็นผู้ถือหุ้นหลักของสโมสรแห่งนี้อย่างเป็นทางการ ด้วยจำนวนเงิน 300 ล้านปอนด์ พร้อมกับการสิ้นสุด 14 ปี ที่ไม่มี “ข้างหน้า” มีแต่ “อยู่กับที่” และ “ถอยหลัง” ภายใต้การดูแลของ ไมค์ แอชลีย์ เจ้าของทีมที่แฟนบอลเกลียดที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร
แอชลีย์ เข้ามาซื้อกิจการของสโมสรด้วยจำนวนเงิน 134 ล้านปอนด์ในหน้าร้อนปี 2007 พร้อมกับโปรเจคต์สวยหรู ในการพาทีมไปข้างหน้า พร้อมกับความเป็นกันเองที่ใส่เสื้อนิวคาสเซิ่ล มือถือแก้วเบียร์เข้าไปชมเกมในสนาม พร้อมกับการเสริมทัพเร้าใจ แต่สุดท้ายเวลาเหล่านั้นเหมือนกับเป็นเพียง “ช่วงฮันนีมูน” ระยะสั้น ที่เหลือคือ “ชีวิตคู่” ที่แสนขมขื่น หย่าก็ไม่ได้ เลิกกันก็ไม่ได้ ทีมตกชั้นถึง 2 ครั้งในรอบ 14 ปี จนมาถึงวันนี้ “จบกันเสียที” แอชลีย์ รับเงินไป 300 ล้านปอนด์ เป็นค่าแยกทาง
“พรีเมียร์ลีก, สโมสรนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ เซนต์ เจมส์ โฮลดิงส์ ลิมิเต็ด ได้ยุติข้อขัดแย้งในเรื่องของการเทคโอเวอร์สโมสรโดยกลุ่มทุน PIF, PCP Capital Partners และ RB Sports & Media หลังจากการตรวจสอบความเหมาะสมในการเป็นเจ้าของทีมจากทางพรีเมียร์ลีก สโมสรถูกขายให้กลุ่มทุนโดยมีผลทันที” ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์จากพรีเมียร์ ลีก ระบุยืนยันการเปลี่ยนแปลงเจ้าของสโมสรเรียบร้อย
อแมนด้า สเตฟลีย์ นักธุรกิจหญิงชาวอังกฤษ ในฐานะของฝ่ายบริหารคนสำคัญของ PCP Capital Partners เป็นหนึ่งในคนสำคัญในการนำกลุ่มทุนจากแดนไกลมาซึ้อกิจการของสโมสรแห่งนี้ หลังความพยายามมายาวนานถึง 4 ปี ในความพยายามขอซื้อหุ้นสโมสร ก่อนที่สุดท้ายจะสามารถโน้มน้าวใจ ให้ โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ในฐานะของเจ้าของกลุ่มทุน พับลิก อินเวสเมนต์ ฟันด์ เข้ามามีเอี่ยวกับดีลนี้ ในช่วง 18 เดือนหลังสุด ที่แม้ว่าในช่วงแรกมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด พร้อมกับดราม่าอีกหลายเรื่อง แต่สุดท้ายทุกอย่างก็เรียบร้อย “เจ้าของสโมสร” เปลี่ยนมือ
โดยหุ้นของ “สาลิกาดง” จะแบ่งออกเป็นสามส่วนหลัก ๆ คือ
โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งประเทศซาอุดิอาระเบีย มีทรัพย์สินมากถึง 320,000 ล้านปอนด์ แปลงเป็นเงินไทย คูณด้วย 45 เรียกว่าเครื่องคิดเลขทั่วไปถึงกับ Error คำนวณระบุกันไม่ได้เลยทีเดียว และกลายเป็นสโมสรที่รวยที่สุดในโลก ยิ่งกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือกว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไม่สิต้องบอกว่าต่อให้นำทั้งสองสโมสรมัดรวมกันมาก็ยังไม่มั่งคั่งเท่ากับเจ้าของใหม่ทีมสาลิกาดง
โมฮัมเหม็ด บิล ซัลมาน เป็นใคร
มกุฎราชกุมารแห่งประเทศซาอุดิอาระเบีย วัยเพียง 36 ปี ที่ซึ่งดำรงตำแหน่งในฐานะของผู้ปกครองประเทศอย่างแท้จริง กับการควบคุมตำแหน่งในประเทศไม่ว่าจะเป็น ตัวแทนของรัฐบาล, รองนายกรัฐมนตรี, ประธานสภาเศรษฐกิจและการพัฒนา รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไว้ในเพียงคนเดียว เป็นเจ้าของอะไรที่เรียกว่า “ที่สุดในโลก” หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น คฤหาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส หรือว่า เรือยอชต์สุดหรูที่มีการเปิดเผยว่าราคาสูงถึง 400 ล้านปอนด์…แพงกว่าค่าเทคโอเวอร์สโมสรนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เสียด้วยซ้ำ ยังไม่รวมถึงทรัพย์สินส่วนตัวระดับ “ล้านล้านปอนด์” พร้อมกับคอนเนคชั่นที่แข็งแกร่งแบบสุด ๆ ในฐานะของผู้นำประเทศ
อ่านประวัติผู้ถือหุ้นใหญ่คนใหม่แล้ว ใครเป็นแฟนบอลนิวคาสเซิ่ล แล้วไม่ตื่นเต้นก็แปลกแล้ว
นิวคาสเซิ่ล ณ เวลานี้ยังหาชัยชนะเกมแรกในพรีเมียร์ ลีก ไม่เจอแถมตกรอบคาราบาว คัพ ไปเรียบร้อยแล้ว แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นอีกต่อไป เพราะแน่นอนว่าต่อจากนี้พวกเขาจะมีเป้าหมายในการปรับทีมครั้งใหญ่ ที่มันเคยเกิดขึ้นแล้วกับหลายสโมสรที่ทุกวันนี้คือ “แถวหน้า” ของวงการฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็น เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่ก่อนหน้านี้สามทศวรรษที่แล้ว บางทีมเป็นทีมกลางตาราง บางทีมเคยเป็นทีมที่เล่นไปวัน ๆ บางทีมเคยตกชั้นไม่รู้กี่ครั้ง มาวันนี้พวกเขาคือทีมที่แฟนบอลทั่วโลกรอชมผลงานในสนาม พร้อมกับความสำเร็จที่ไหลมาไม่หยุด ยกแชมป์จนเมื่อยมือ
“ทุนนิยม” เข้ามาสู่วงการฟุตบอลแบบเต็มตัว การเข้ามาของโรมัน อบราโมวิช สู่เชลซี ในปี 2003 กลายเป็น จุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ ก่อนที่จะมีกลุ่มทุน หรือนักธุรกิจ จำนวนมากเข้ามาลงทุนในวงการฟุตบอล โดยเฉพาะในพรีเมียร์ ลีก ที่ทุกวันนี้ มีเพียง 4 ทีมเท่านั้นที่เจ้าของสโมสร หรือผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสรเป็นชาวอังกฤษ หรือสหราชอาณาจักร ประกอบไปด้วย เบรนท์ฟอร์ด, ไบร์ทตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน, สเปอร์ส และ นอริช ซิตี้ (ทีมนี้มี ไมเคิ่ล วินน์-โจนส์ ซึ่งเป็นชาวเวลส์ ถือหุ้นร่วม)
ชีวิตของ “สาลิกาดง” จะเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน แน่นอนมันจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน 100 % เมื่อเจ้าของทีมเป็นระดับ “ที่สุดในโลก” เข้ามา การลงทุนของพวกเขาย่อมไม่ธรรมดา
สตีฟ บรู๊ซ คือรายแรกที่จะโดนเชือดออกจากทีมย่างแน่นอน หลังจาก “สตีฟ บุญ” (ชื่อที่แฟนบอลชาวไทยมอบให้จากการที่ผลงานห่วยแค่ไหน ไมค์ แอชลีย์ ก็ไม่ไล่ออก เพราะไม่อยากจ่ายค่าชดเชย) ผลงานร่อแร่เหลือเกิน ตามด้วยตลาดการซื้อขายรอบเดือนมกราคม มีข่าวออกมาว่า พวกเขาได้งบประมาณ 150 ล้านปอนด์ สำหรับการ “ติดปีก” ของพวกเขาในรอบแรก ที่คงเห็น นักเตะ หลายคนก้าวเข้าสู่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค อย่างแน่นอน และแทบจะไม่ต้องคิดเลยว่าในตลาดเดือนสิงหาคม 2022 จะเป็นเวลาที่เร้าใจแค่ไหนสำหรับสาวกทูน อาร์มี่ กับการเสริมทีมครั้งใหญ่ ยังไม่รวมถึงโค้ชของทีมที่ ณ เวลานี้ เป็นไปได้ทั้งหมด แต่ที่สำคัญและรอคอยว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างนั่นคือเรื่องของทีมบริหาร และการตลาด ซึ่งก็จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นกัน
มองย้อนไปดูอดีตกับการ เทคโอเวอร์แบบเบ็ดเสร็จของเหล่า อภิมหาเศรษฐี ของพรีเมียร์ ลีก
2003: โรมัน อบราโมวิช ใช้เวลา 2 ปีในการพาเชลซี คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ในฤดูกาล 2004-2005
2008: การเข้ามาของกลุ่มทุนอาบูดาบี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พุ่งชนแชมป์ลีกในฤดูกาล 2011-2012
2010: จอห์น ดับเบิ้ล ยู เฮนรี่ เทคโอเวอร์สโมสร ลิเวอร์พูล และพวกเขาใช้เวลา 9 ปี จนลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ซึ่งก่อนหน้านั้น พวกเขาคว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก หนึ่งสมัย และรองแชมป์อีกหนึ่งสมัยมาก่อนหน้านั้นแล้ว
2018: นาสเซอร์ ซาวาริส เศรษฐีอียิปต์ ซื้อหุ้น 55 % เทคโอเวอร์สโมสร ร่วมกับ เวส อีเดนส์ เศรษฐีอเมริกัน กลายเป็นเจ้าของคนใหม่ของ แอสตัน วิลล่า และตอนนี้พวกเขาลงทุนไปแล้วมากกว่า 300 ล้านปอนด์ในการสร้าง “สิงห์ผงาด” ยุคใหม่
สำหรับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จะใช้เวลานานเท่าไรยังไม่มีใครบอกได้ แต่ทุกทีมต้องการ “เวลา” ในการสร้างทีมกันทั้งสิ้น ที่ผ่านมา นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เจอกับปัญหามากมาย การเข้ามาของกลุ่มทุนซาอุดิอาระเบียครั้งนี้ เป็นเหมือนความหวังครั้งใหม่ที่จะทำให้พวกเขากลับมามีชีวิตชีวาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ภาพการออกมาเฉลิมฉลองของเหล่า ทูน อาร์มี่ หน้าสนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค ยืนยันได้เป็นอย่างดี ทั้งได้เจ้าของใหม่โปรไฟล์อลังการ แถมขับไล่ไสส่ง ไมค์ แอชลีย์ ให้ออกจากชีวิตของพวกเชาไปได้เสียที ตอนนี้ในวงการฟุตบอลแฟนบอล นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด น่าจะเป็นแฟนบอลที่มีความสุขสูงที่สุดในโลกฟุตบอลอย่างแน่นอน เพราะเชื่อได้แลยว่านับจากนี้ ชีวิตของคนที่เกี่ยวข้องกับสโมสรแห่งนี้ จะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป…
Copyright © 2019 UFA6556 แทงบอลออนไลน์ มั่นคง ปลอดภัย อันดับหนึ่งเมืองไทย | All right reserved.