จบลงแบบไม่เป็นทางการไปแล้ว สำหรับ เมซุต เออซิล (32 ปี สัญญาถึงกลางปี 2021) กับ อาร์เซนอล ในฤดูกาลนี้ หลังจาก อาร์เซนอล นำโดย มิเคล อาร์เตต้า First Team Coach ของสโมสร ตัดสินใจตัดชื่อของเขา รวมถึง โซคราติส ปาปาสธาโธปูลอส ออกจากรายชื่อลงเล่นใน พรีเมียร์ ลีก รวมถึง ยูโรป้า ลีก ฤดูกาลนี้
การตัดรายชื่อครั้งนี้ ทำให้ เออซิล จะไม่ได้ลงเล่นกับทีม “อย่างน้อย” จนกว่าจะเดือนมกราคม 2021 ซึ่งจะมีการเปิดให้ทุกสโมสร สามารถกลับมา ลงทะเบียนรายชื่อ นักเตะ ได้อีกครั้งหนึ่ง แต่เมื่อถึงวันนั้น เขาจะยังคงอยู่กับสโมสรหรือไม่ ยังเป็นคำถามที่รอคอยเพียงคำตอบ ซึ่งคงอีกไม่นาน เมื่อสัญญามูลค่า 350,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ของเขาจะสิ้นสุดลง ในเดือนมิถุนายนนี้
อย่างที่หลายคนทราบกัน เมซุต เออซิล ไม่ได้ลงเล่นกับ ปืนใหญ่ เลย นับตั้งแต่กลับมาลงเล่นจาก การระบาดของ โควิด-19ครั้งใหญ่ เขาหลุดจากทีมไปเลย พร้อมกับ โซคราติส ซึ่งก่อนหน้านี้ นักเตะ ทั้งสองคน มีส่วนร่วมกับเกมอยู่ไม่น้อย
โซคราติส แม้จะหลุดจากทีมตัวจริงไป แต่ก็ยังอยู่ในทีม ในฐานะของตัวสำรองรอเปลี่ยนตัว ลงสนาม และแทบไม่ได้ลงเลย สาเหตุตรงนี้ชัดเจน แต่สุดท้ายในตลาดการซื้อขายรอบล่าสุด โซคราติส ก็ไม่ได้ย้ายทีม และในตลาดเดือนมกราคม ที่จะถึงนี้จะสามารถ ย้ายทีมได้แบบไม่มีค่าตัว ตามกฎบอสแมน
แต่สำหรับ เออซิล สาเหตุในการหลุดออกจากทีมของเขา มีเครื่องหมายคำถาม ขนาดใหญ่ อยู่ในใจแฟนบอล อาร์เซนอล ทั่วโลก ว่าทำไมเขาถึงไม่ได้ลงสนาม โดยมี “แนวคิด”หลายเรื่องด้วยกัน
เมซุต เออซิล มีการแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องของการเมือง รวมถึงปัญหาสังคมอยู่บ่อยครั้ง โดยหนึ่งในครั้งที่เป็น ประเด็นค่อนข้างรุนแรงคือการแสดงความเห็นเรื่องเกี่ยวกับ การใช้ความรุนแรงของประเทศจีน ที่มีต่อ ชาวอุยกูร์ ซึ่งเป็นผู้นับถือศาสนา อิสลาม ในประเทศจีน ครั้งนั้นเกิดความวุ่นวายที่มีการระบุว่า ประเทศจีน ไม่พอใจถึงขั้นที่ว่าจะขู่แบน อาร์เซนอล รวมถึง พรีเมียร์ ลีก กันเลย แม้สโมสรจะมีการระบุว่าเป็นการแสดงความเห็นส่วนบุคคลแล้วก็ตามที ขณะที่อีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ คือกรณีพิพาท เกี่ยวกับ ดินแดนบริเวณ “เส้นทางสายไหม” ระหว่างประเทศ อาเซอร์ไบจาน และ อาร์เมเนีย ซึ่ง เออซิล แสดงความเห็นด้วยกับ อาเซอร์ไบจาน และแน่นอน ชาว อาร์เมเนีย ต่างไม่พอใจเขาเช่นเดียวกัน
ประเด็นนี้ มีความเป็นไปได้มากที่สุด อ้างอิงจากโพสของเออซิล ในโลกออนไลน์ หลังการที่เขาไม่มีชื่อลงเล่นใน พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้ โดยประโยคสุดท้ายที่เขาระบุมีใจความว่า
“ผมสามารถสัญญากับคุณได้ว่า ในช่วงการตัดสินใจที่ยากลำบากจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรในใจผมได้เลย ผมจะทำหน้าที่ของผมต่อไปให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะสามารถทำได้ และเมื่อใดที่ผมมีโอกาสผมจะใช้เสียงของผมแสดงการต่อต้านความไร้มนุษยธรรม และเรียกร้องความยุติธรรมต่อไป”
เรื่องนี้เป็น อ้างอิง จาก มิเคล อาร์เตต้า นายใหญ่ของทีม ระบุว่า การตัดสินใจไม่ส่ง เออซิล ลงเล่นมาจากเหตุผลในเรื่องของ ฟุตบอล ล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับเรื่องใดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการขอลดค่าแรงนักเตะในช่วงการระบาดของโควิด-19 ซึ่ง เออซิล เป็นหนึ่งใน นักเตะ ที่ไม่ยอมลดค่าเหนื่อยของตนเอง โดย เอเยนต์ของนักเตะ ออกมาระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าว มีความไม่ชัดเจนในหลายเรื่อง อย่างไรก็ตามก็มีการระบุว่าเขาลดค่าเหนื่อยในที่สุด
“มันคือความรับผิดชอบของผม และอีกครั้ง มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับอะไรเลย ไม่เกี่ยวกับพฤติกรรม หรืออะไรที่ผมได้อ่านมา อย่างเช่นเรื่องการตัดลดค่าแรง มันไม่จริง มันคือการตัดสินใจของผมคนเดียว ถ้ามีใครสักคนมากล่าวโทษผม และมันจะเกิดขึ้นเมื่อเราแพ้ในเกมการแข่งขัน มันคือความรับผิดชอบของผมโดยตรง ผมต้องตัดสินใจในการเลือกทีมที่ดีที่สุดเพื่อชนะในเกมการแข่งขันให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราสามาถทำได้ เพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา ผมพยายามที่จะแฟร์กับเขา และกับทุกคนภายในทีม ในการต่อสู้เพื่อให้อยู่ในทีมนี้ต่อตราบเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของสโมสร อาร์เซนอล”
ประเด็นนี้ ถูกตั้งคำถามว่า อาร์เตต้า ออกหน้ารับแทนสโมสรหรือเปล่า โดยประเด็นนี้ก็มีความเป็นไปได้ไม่น้อยเช่นกัน เพราะด้วยแผนการเล่นในระยะหลังของ กุนซือชาวสเปน ก็ไม่มีการใช้งาน กองกลางตัวรุก ธรรมชาติเลย ไม่ว่าจะเป็น กองหลังสามคนอย่าง 3-4-3 หรือ 4-3-3 ก็ตาม
ประเด็นนี้ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เนื่องจากว่า สโมสรยังคงทำตามข้อสัญญาที่ เออซิล เซ็นสัญญากันไว้ในช่วงเดือนมกราคม 2018 รวมถึงล่าสุดเพิ่งมีการจ่าย “ค่าความภักดี” ให้กับ เออซิล อีกจำนวน 8 ล้านปอนด์ และถึงแม้ เออซิล จะไม่มีชื่ออยู่ในทีมที่ลงเล่นใน พรีเมียร์ ลีก หรือว่า ยูโรป้า ลีก แต่สุดท้ายแล้ว เออซิล ก็ยังได้รับค่าเหนื่อย สัปดาห์ละ 350,000 ปอนด์ เต็มจำนวนไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นประเด็นนี้ไม่น่าจะใช่เหตุผลก็การตัดออกจากทีม ค่อนข้างแน่ เพราะ อาร์เซนอล วางเป้าหมายในการลงเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้อีกครั้ง การมี นักเตะ คุณภาพสูง ประสบการณ์เพียบอย่าง เออซิล อยู่ในทีม ย่อมดีกว่าไม่มีแน่นอน
เออซิล กำลังจะหมดสัญญาในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ และนับจากนี้ไปจนถึงตลาดมกราคม เราต้องติดตามกันต่อไปว่า เออซิล จะตัดสินใจอนาคตของเขาต่อไปอย่างไร เมื่อเข้าสู่ปี 2021 เขาจะกลายเป็น นักเตะ ที่สามารถย้ายทีมไปที่ไหนก็ได้ตามใจปรารถนา แต่ทั้งนี้ เรื่องของค่าเหนื่อยของเขา อาจะเป็นหนึ่งในอุปสรรคเช่นกัน หากมีการย้ายทีมเกิดขึ้น แม้จะเป็นการเซ็นสัญญาแบบไม่มีค่าตัวก็ตาม รวมถึง อายุที่มากขึ้นใกล้แตะวัย 33 เข้าไปทุกขณะ
สิ่งที่ อาร์เซนอล ตัดสินใจในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่เรียกว่าเป็นการ “เดิมพัน” ครั้งใหญ่ที่สุด ของ มิเคล อาร์เตต้า ในการตัดชื่อ นักเตะ คนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของทีมในช่วงเกือบ 10 ปีหลังสุดของทีม ไม่ว่าจะด้วยเหตุอะไรก็ตามที หากท้ายที่สุดแล้ว ทีมประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย เสียงวิจารณ์ และความไม่พอใจ ก็คงจะเบาบางลงไปตามผลงาน แต่ถ้าไม่เป็นไปตามที่หวัง อนาคตของ อาร์เตต้า กับอาร์เซนอล ก็อาจจะสั่นคลอนได้เช่นกัน เพราะแฟนบอลก็พร้อมจะหยิบยกเรื่องนี้มากล่าวถึงอย่างแน่นอน
แต่ถึงเวลานี้ อาร์เซนอล ก็ยังคงเดินหน้าต่อไป โดยที่ไม่มี เมซุต เออซิล อยู่ในทีม อย่างแน่นอนแล้ว และนั่นเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเหลือเกิน สำหรับแฟนบอลทุกคน
น่าเสียดายเหลือเกิน