เอฟซี บาร์เซโลน่า ตัดสินใจยุติช่วงเวลา 1 ฤดูกาลกับอีกหนึ่งเดือนในการทำงานเป็นผู้จัดการทีมของ โรนัลด์ คูมัน (58 ปี) หลังจากผลงานที่ตกต่ำของทีม กับการอยู่ในอันดับกลางตารางใน ลา ลีกา และความพ่ายแพ้ต่อเนื่องทั้งกับ เรอัล มาดริด และ ราโย บาเยกาโน่ ซึ่งเกมหลังคือเกม “ชะตาขาด” ของดัตซ์แมน ผู้เคยช่วยให้ บาร์ซ่า คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ในปี 1992
ฤดูกาลนี้เหล่า “กูเล่” ต้องทำใจแกร่งกันให้มาก กับการเปลี่ยนแปลงมากมายในทีมที่เกิดขึ้น ทั้งการสูญเสีย ลิโอเนล เมสซี่ ออกจากทีมไป หรือปัญหาทางการเงินที่สั่งสมมายาวนาน บวกกับกฎการเงินของ ลา ลีกา สเปน ทำให้พวกเขาเจ็บช้ำอย่างยิ่งในหน้าร้อนที่ผ่านมา และมันส่งผลต่อสภาพจิตใจของ นักเตะ และผลงานของทีมออกมาโดยตรง อย่างที่เราเห็นกัน และหลายเรื่องอะไรที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็นกันในฤดูกาลนี้ อย่างเช่น เมสซี่ จะย้ายทีม เราก็ได้เห็นกันแล้ว
สถานการณ์ของทีมที่ไม่ดีขึ้นเลยในเรื่องการเงิน และการเข้ามาของ โจน ลาปอร์ต้า ในฐานะประธานสโมสรรอบที่สอง มีงานให้ทำมากมาย แน่นอนเรื่องของการเปลี่ยนแปลง นายใหญ่ข้างสนาม เป็นสิ่งที่เขาก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น เพราะเรื่องที่มีก็มากพอแล้ว แต่ในเมื่อถึงคราวจำเป็น ผลงานมันเกินจะทนรับไหวก็ต้องถึงคราวเปลี่ยนแปลง
ชื่อของ ชาบี เอร์นานเดซ (43 ปี สัญญาถึงกลางปี 2023) คือทางเลือกลำดับต้น ๆ ของสโมสรมาโดยตลอด ว่ากันตามตรงนับตั้งแต่วันที่เขาออกจากทีมในฐานะของ นักเตะในปี 2015 เขาก็เหมือนถูกกำหนดไว้แล้วว่า สักวันหนึ่งจะต้องกลับมาที่บ้านของเขาอีกครั้ง ไม่ว่าจะในฐานะใดก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขาเลือกรับงานคุมทีม
ชาบี ลงเล่นกับ อัล ซาดด์ เอสซี ในประเทศกาตาร์ จนถึงปี 2019 ก็ตัดสินใจเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ และก็รับงานผู้จัดการทีมเดียวกันต่อไปเลย ถึงวันนี้ผ่านไป 2 ปีกับอีก 3 เดือนแล้ว กับงานคุมทีมไปแล้ว 89 เกม ชนะ 61 เสมอ 12 แพ้ 16 โดยที่ทีมของเขาประสบความสำเร็จต่อเนื่องกับการคว้าแชมป์มาแล้วทุกรายการในกาตาร์ โดยฤดูกาลล่าสุดเขาพาทีมคว้าแชมป์สามรายการ หนึ่งในนั้นคือ แชมป์กาตารี หรือก็คือแชมป์ลีกของประเทศ ซึ่งเวลสนี้ใช้ชื่อว่า กาตาร์ สตาร์ ลีก ตามชื่อของผู้สนับสนุนรายการแข่งขัน
บาร์เซโลน่า นับตั้งแต่เข้าสู่ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา พวกเขาใช้งานโค้ชไปแล้วถึง 12 คน ไม่รวม เซร์กี้ บาร์ฆวน ที่กำลังรับงานเป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวไปก่อนในเวลานี้ ว่ากันตามข้อมูล โค้ชแทบทั้งหมดไม่เป็น สแปนิช ก็เป็น ดัตซ์แมน ซึ่งเป็นประเทศที่มีความผูกพันเป็นพิเศษกับสโมสรมาตั้งแต่ยุคของ โยฮัน ครอยซ์ ที่ได้รับการเทิดทูนเป็นพระเจ้าของทีมในยุคหนึ่ง ทั้งในฐานะนักเตะ และผู้จัดการทีม มีเพียง เคราร์โด้ มาร์ติโน่ “ตาต้า” เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็น อาร์เจนไตน์ และก็คุมทีมเพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้น
ในช่วงที่มีการปลด เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ออกจากตำแหน่ง ชื่อของ ชาบี ก็มีขึ้นมาในลิสต์มาแล้วครั้งหนึ่ง หากจำกันได้เวลานั้น เอริค อบิดัล ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมบริหารของบาร์ซ่า เจรจาเดินเรื่องด้วยตนเอง แต่สุดท้าย ชาบี เลือกจะปฏิเสธข้อเสนอไปด้วยเหตุผลเกี่ยวกับ “เวลาและความพร้อม” ยังไม่เหมาะสม ทำให้ทีมไปได้ตัว กิเก้ เซเตียน มารับงานแทนแต่ทำงานไม่ถึงปีก็ออกจากทีมไป ตามมาด้วย โรนัลด์ คูมัน ที่โบกมือลาไปเรียบร้อย ข้อเสนอก็ยังคงกลับมาที่ ชาบี อีกครั้ง และคราวนี้ ชาบี น่าจะไม่ปฏิเสธอีกแล้ว
ข่าวการดึง ชาบี กลับบ้านอีกครั้งมีมาสักระยะใหญ่แล้ว แต่การเจรจาเพิ่งจะเริ่มต้นแบบจริงจังไม่นานมานี้ และล่าสุด ณ เวลาที่เขียน บาร์เซโลน่า เตรียมเอกสารสัญญาให้กับ ชาบี เรียบร้อยแล้ว หลังการเจรจาปากเปล่าจบลงไปก่อนหน้านี้แล้วหนึ่งวัน ในขณะที่ อัล ซาดด์ แม้จะไม่อยากปล่อยตัวผู้จัดการทีมคนดัง ซึ่งมีสัญญาเหลือกับทีมอีกหนึ่งปี รวมถึงแฟนบอลที่ออกมาทวิตข้อความ #XaviStay กันไม่น้อย ก็คงไม่อาจรั้งไว้ได้ ถ้าใจเขาคิดถึงบาร์เซโลน่าไปแล้ว ซึ่งก็อีกไม่นานเราคงได้เห็นการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
หาก โยฮัน ครอยซ์ คือแรงบันดาลใจ และไอดอล ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ฉันท์ใด ชื่อของ กวาร์ดิโอล่า ก็มีความหมายกับ ชาบี เอร์นานเดซ เช่นเดียวกัน หลังการทำงานร่วมกันที่บาร์ซ่ามาหลายปี แต่กระนั้นก็ดี หลุยส์ อราโกเนส ผู้จัดการทีมผู้ล่วงลับก็คือหนึ่งในคนที่ ชาบี นับถือเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เป๊ป คือคนที่ส่งผลต่อความคิด และความต้องการในการคุมทีมของเขามากคนหนึ่ง
“เป๊ป ทำให้เราทุกคนเป็นนักเตะที่ดีขึ้นกว่าเดิม เขาสอนเราเกี่ยวกับเหตุและผลของทุกอย่าง คุยกับเราอย่างตรงไปตรงมา และพูดคุยกันเยอะมากเพื่อให้แน่ใจว่า ข้อความที่เขาสื่อออกมาเราจะเข้าใจอย่างชัดแจ้ง เขาเป็นเหมือนบุคคลที่ทรงอิทธิพลในวงการฟุตบอลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา” ชาบี กล่าวถึงอดีตเจ้านายของตัวเอง
ในการคุมทีมเขาเลือกระบบการเล่น 4-3-3 หรือ 3-4-3 ขึ้นกับคู่แข่ง และทรัพยากรในทีม เป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่เน้นการครองบอล ที่สำคัญทีมของเขาต้องทำงานหนักในทุกพื้นที่สนาม ไม่ว่าจะเป็นเกมรุก หรือเกมรับ ต้องเคลื่อนที่กันทั้งทีม เสียบอลแล้วบีบแย่งกลับมาให้เร็ว ออกบอลให้ไว เข้าทำให้เฉียบ นี่คือปรัชญาที่แทบจะถอดแบบมาจาก กวาร์ดิโอล่า ต่างกันตรงที่ทรัพยากร นักเตะ ในทีม อัล ซาดด์ คงยังเทียบไม่ได้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เช่นเดียวกับความแข็งแกร่งของลีกที่ต่างกัน แต่โครงสร้างของทีมที่ดี ระบบการเล่นเซตไว้ลงตัว โอกาสชนะก็มากขึ้น ทรงบอลดีก็มีโอกาสพัฒนาได้ดี
“ฟุตบอล” ขึ้นกับวิธีคิด และการเคลื่อนที่ แม้จะใช้ระบบการยืนแบบเดียวกัน แต่การเคลื่อนที่ของ หนึ่งคนในทีมจะส่งผลต่อเชฟทีมทั้งหมดในการเล่นเกมรับ หรือว่ารุก การทำให้ได้ประสิทธิภาพ ต้องมาจากความรู้ในกระดาษ ส่งต่อลงไปในสนาม ที่ต้องไปใส่หัวนักเตะทุกคนด้วย “ความเชื่อมั่นในกันและกัน” ที่ว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่มันคือทางแห่งการประสบความสำเร็จของทีม
การเข้ามาของ ชาบี จะได้ใจกับแฟนบอลอาซูลกราน่า อย่างแน่นอน เช่นเดียวกับสไตล์การคุมทีมที่เหมาะกับ บาร์เซโลน่า ในระบบ 4-3-3 ที่เป็นแผนหลักของทีม รวมถึงเรื่องของการให้โอกาสเหล่าเยาวชน ลา มาเซีย ซึ่งมีข่าวว่า กาบี้ กองกลางดาวรุ่งวัย 17 ปี ที่ตอนนี้ติดทีมชาติสเปนชุดใหญ่ไปแล้ว หรือว่า โรนัลด์ อาราอูโจ้ และอีกหลายคนที่ ชาบี เตรียมผลักดันในการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างทีมในระยะแรกของการทำงาน ยืนยันได้จากข่าวที่ว่า บาร์เซโลน่า หาทางจะจับนักเตะเหล่านี้ต่อสัญญาระยะยาวกับทีมต่อไป เหมือนกับที่ทำไปแล้วกับ เปดรี้ และ อันซู ฟาห์ติ
การเข้ามาของ ชาบี คืองานใหญ่ที่ท้าทายเขามากกว่าสมัยที่ กวาร์ดิโอล่า กระโดดจากทีมชุดเบ มารับงานคุมทีมชุดใหญ่เสียด้วยซ้ำ อย่างน้อย ณ เวลานั้นทีมก็ยังคงมีงบประมาณมากพอจะสนับสนุนเขาในทุกด้าน และขุมกำลังของบาร์ซ่า มีความแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว เพียงปรับจูนแนวคิด และใส่แท็คติกลงไปไม่นานนัก พวกเขาก็กลายเป็น บาร์ซ่าที่ทีมไหนก็มาเถอะ พร้อมแพ้ก็เชิญได้เลย
มองกันตามความเป็นจริง หากเข้ามาร่วมงานจริง ชาบี จำเป็นต้องการเวลาอีกพักใหญ่ ต้องลงมืออะไรมากมายในการปรับทัศนคติของทีมใหม่จากที่ล้มเหลวพินาศทั้งผลงาน และจิตใจ ทั้งการซื้อขายนักเตะรวมถึง นักเตะหลายคนในทีม เวลานี้ ไม่ฟอร์มตกอย่างหนัก ก็เลยจุดสูงสุดในอาชีพไปแล้ว ดังนั้นทุกอย่างต้องใช้เวลาที่มากกว่าปกติ อาจจะมากถึง 1 – 2 ปีด้วยซ้ำ ในการกลับมาเข้ารูปเข้ารอย และที่สำคัญ บาร์เซโลน่า ก็ต้องพร้อมมอบเวลาให้กับเขาด้วย เพราะมันอาจเป็นเพียงสิ่งเดียวที่พวกเขาให้ได้อย่างเต็มที่ เมื่อ บาร์เซโลน่า ยังคงมีปัญหาทั้งใน และนอกสนาม ที่ต้องไล่ตามแก้กันยังไม่จบง่าย ๆ โดยเฉพาะเรื่องเงิน
หากแต่ บาร์เซโลน่า ก็คือ บาร์เซโลน่า พวกเขามีรากเหง้า มีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง มีความเป็นตัวของตนเองที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลกฟุตบอล ณ เวลานี้ พวกเขาอาจจะผิดพลาด และน่าผิดหวัง แต่พวกเขาก็ยังคือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ และรอคอยการกลับมาอีกครั้ง ซึ่ง ผู้กอบกู้พวกเขาอาจจะเป็น เด็กเก่าหน้าเดิมคนนี้ก็เป็นได้…บนข้อเท็จจริงที่ว่า ยอดนักเตะ ไม่ได้การันตีการเป็น ยอดผู้จัดการทีม ก็หวังว่า ชาบี จะไม่ตามรอย แฟรงค์ แลมพาร์ต, โอเล่. กุนนาร์ โซลชา หรือว่าคนที่เพิ่งจากไปอย่าง โรนัลด์ คูมัน ที่มีโอกาสครั้งใหญ่ แต่ยังทำทำผลงานได้ไม่ใหญ่พอจะรั้งตำแหน่งตัวเองเอาไว้ได้ (หรือกำลังยืนขอบเหวแบบที่ โซลชา กำลังเป็นอยู่นั่นเอง)