หลังความพ่ายแพ้แบบยับเยินที่สุดอีกหนึ่งเกมของ บาร์เซโลน่า ในฤดูกาลนี้ พร้อมกับการระเบิด แฮตทริกของ คิลิยัน เอ็มบั๊บเป้ ถึงรังคัมป์ นู บนชัยชนะ 4-1 ของยอดทีมจากปารีส
กลายเป็น Flash Back กลาย ๆ เมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2017 พวกเขาพบกัน และเกมแรกจบไป ด้วยชัยชนะ 4-0 ใน พาร์ค เดอ แพรงส์ แต่เกมที่สอง บาร์ซ่า กลับมาพร้อมกับ “ปาฏิหาริย์ ที่ คัมป์ นู” ด้วยชัยชนะ 6-1 เข้ารอบแบบสุดประทับใจ
แต่คราวนี้…ยากเหลือเกินที่จะเห็นแบบนั้นอีกครั้ง ในเกมเลกที่สองที่บ้านของ เปแอสเช อีกไม่นานเดี๋ยวรู้กัน
เช่นเดียวกับ อนาคตของ “เอล ปูลก้า” ลิโอเนล เมสซี่ ที่หลายคนอยากทราบเหลือเกินว่า ตกลงแล้ว เขาจะเป็นหมายเลข 10 ของบาร์เซโลน่า ต่อไปหรือไม่ ในฤดูกาลนี้
ทั้งหลายทั้งปวง ทำให้ เมสซี่ มีความรู้สึก “หน่าย” ต่อการเจอกับเรื่องแบบนี้ทุกวัน และแม้ว่า เขาจะยังลงเล่นกับ บาร์เซโลน่า ต่อไป แต่สัญญาใหม่ของเขากับ บาร์ซ่า ก็ไม่มีความคืบหน้าใด ๆ พวกเขาเหลือสัญญาไม่ถึง 5 เดือน และว่ากันตามกฎแล้ว ตอนนี้ เมสซี่ จะเซ็นสัญญาล่วงหน้ากับทีมไหนก็ได้แล้ว เพียงแต่ว่า การเซ็นสัญญา นักเตะ ที่เก่งที่สุดคนหนึ่งโลก มันก็ไม่ง่าย เพราะเรื่องของ “เงิน” มันก็มหาศาลมากเช่นกัน
ปรายตาเวลานี้ สโมสรในยุโรป มีเพียง สองสโมสรเท่านั้น ที่จะได้ตัวเขาไป ก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ก็ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่พอเป็นไปได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า มันจะเกิดขึ้นโดยง่าย ในสถานการณ์เศรษฐกิจ หลังการระบาดของ โควิด-19 ในทางกลับกัน บาร์เซโลน่า ก็ยังไม่ละความพยายามในการเซ็นสัญญาใหม่กับเขา
มีการเปิดเผยออกมาว่า เมสซี่ นั้นมีความสำคัญกับ บาร์เซโลน่า อย่างมาก เพราะนอกจาก ผลงานในสนามแล้ว เขายังเหมือนกับ แม่เหล็ก ในการหารายได้มากถึง 30 % ของสโมสร ดังนั้น จ่ายค่าเหนื่อยแพงเท่าไร อย่างไรก็คุ้ม เพียงแต่ว่า สถานการณ์ ในเวลานี้ อะไร มันก็ไม่เป็นใจ ให้ทุกอย่างน่าสนใจในการต่อสัญญาใหม่ ทั้งปัญหากับบุคคลในองค์กร ปัญหาหนี้สินของสโมสร รวมถึงผลงานในสนามด้วย ขณะที่ โจน ลาปอร์ต้า ผู้ซึ่งกลับมาลงสมัครรับหน้าที่เป็นประธานสโมสรของทีมอีกครั้ง กล่าวกับ สกาย อิตาเลีย หลังความพ่ายแพ้ในเกมล่าสุด
“เมสซี่ ต้องการเป็นผู้ชนะกับ บาร์เซโลน่า ผมจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อการเก็บเขาไว้กับสโมสรต่อไป มีหลายสโมสรอยากเซ็นสัญญากับเขาแบบจริงจัง แต่ เลโอ ต้องการความสำเร็จ ไม่ใช่แค่เพียงเงิน เขาไม่ใช่ “ปัญหา” สำหรับบาร์เซโลน่า เมสซี่ คือ 30 % ของกำไรสโมสร”
ไม่รู้ว่าจะเป็นนโยบายการหาเสียงหรือไม่ แต่คำพูดของ ลาปอร์ต้า ก็สะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม บาร์เซโลน่า ไม่อยากเห็น และไม่ต้องการให้ เมสซี่ ออกจากทีม แม้ว่าจะมีบ้างที่ แฟนบอลบางส่วน บอกว่า หมดแล้ว ถึงเวลาแยกทาง อะไรก็ตามแต่ แต่ท้ายที่สุดแล้ว นักเตะ คนนี้ สร้างชื่อมากับทีมตั้งแต่ทีมเยาวชน จนมาถึงวันที่เป็นกัปตันทีมที่คว้าความสำเร็จ มาแล้วทุกอย่างที่ บาร์เซโลน่า มีโอกาสจะได้รับ เขาก็ทำมาแล้วทั้งหมด กลายเป็น นักเตะ ที่มากกว่าการเป็น นักเตะ คนหนึ่ง แต่คือ สัญลักษณ์หนึ่งแห่งยุคสมัยของ บาร์เซโลน่า ที่จะเป็นเช่นนั้นตลอดไป แม้จะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม
แต่ทุกสิ่งในโลกนี้ มันไม่มีอะไรแน่นอน แม้กระทั่ง “ความรัก” หากวันหนึ่งมันจืดจางไป ก็ยากจะกลับมาหวานหอมได้ดังเดิม ที่เหลือก็มารอติดตามกันว่า “ปัญหา และความไม่พอใจ” จะเอาชนะ “ความรัก” ที่ เมสซี่ มีต่อ บาร์เซโลน่า ได้หรือเปล่าเท่านั้น เช่นเดียวกับที่ บาร์เซโลน่า ต้องแสดงความ จริงใจ และจริงจัง อย่างยิ่ง ในการจะรั้ง หมายเลข 10 ของพวกเขาไว้กับทีมต่อไปให้จงได้เช่นกัน
การเซ็นสัญญาใหม่ของ เมสซี่ หากทำได้สำเร็จ มันจะเป็นยิ่งกว่าชัยชนะใดของบาร์ซ่า ในช่วงหลายปีหลังสุด เพราะนั่นหมายถึง พวกเขาจะได้ทั้ง “กำลังสำคัญ” ของทีม และ “กำลังใจ” จากแฟนบอลบาร์ซ่า ทั่วโลก กลับมาอีกครั้ง แต่ถ้าไม่…งานนี้อุณหภูมิที่ บาร์เซโลน่า คงร้อนระอุแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเช่นกัน