อาร์เซนอล อยู่ในอันดับ 4 ของตารางพรีเมียร์ลีกได้อย่างยอดเยี่ยมในระยะหลังส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นคือการเสียประตูจากลูกตั้งเตะลดลงและหนึ่งในลูกตั้งเตะอย่างการเตะมุมพวกเขาเป็นทีมเดียวในพรีเมียร์ลีกที่ยังคงไม่เสียประตูจากลูกเตะมุม
อาร์เซนอลกับการเตะมุม
ได้เตะมุม 142 ครั้งในพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้จากการลงเล่น 26 เกม เฉลี่ยประมาณ 5.46 ครั้งต่อเกม
เสียเตะมุม 121 ครั้งในพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้จากการลงเล่น 26 เกม เฉลี่ยประมาณ 4.65 ครั้งต่อเกม
เกมที่พวกเขาได้เตะมุมมากที่สุดคือเกมพบกับ เบรนท์ฟอร์ด [ชนะ 2-1] คือ 14 ครั้ง
เกมที่พวกเขาได้เตะมุมน้อยที่สุดคือเกมพ่ายแมนเชสเตอร์ ซิตี้ [0-5] คือ 0 ครั้ง
เกมที่พวกเขาเสียลูกเตะมุมมากที่สุดคือ เกมพ่ายแมนเชสเตอร์ ซิตี้ [0-5] คือ 14 ครั้ง
เกมที่พวกเขาเสียเตะมุมน้อยที่สุดคือเกมพบกับ เบรนท์ฟอร์ด [ชนะ 2-1] คือ 0 ครั้ง
อาร์เซนอลได้ประตูจากการเล่นลูกตั้งเตะ หรือเตะมุม ทั้งหมด 7 ครั้ง [1 ฟรีคิก + 4 เตะมุม + 2 จุดโทษ] โดยพวกเขาได้จุดโทษทั้งหมด 4 ครั้ง ได้เพียง 2 ประตู
อาร์เซนอลเสียประตูจากการเล่นลูกตั้งเตะ หรือเตะมุม ทั้งหมด 2 ครั้ง [1 ลูกตั้งเตะ + 1 จุดโทษ]
เครดิตนี้เกิดจากการทำงานของทีมงาน โดยเฉพาะ นิโกล่าส์ โจเวอร์ (40 ปี) โค้ชที่เข้ามาสู่ทีมในฐานะของ “ผู้เชี่ยวชาญเรื่องลูกตั้งเตะ” โดยย้ายมาจากแมนเชสเตอร์ซิตี้ในฤดูกาลนี้
โจเวอร์ เป็นคนที่สนใจในเรื่องของฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก ลีก เอิง คือหนึ่งในลีกใหญ่ที่สุดของยุโรป อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ลงเล่นฟุตบอลอาชีพ แต่สนใจในเรื่องฟุตบอล และก็เริ่มศึกษาผ่านการชมวิดีโอฟุตบอล ในช่วงที่ตนเองเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ในแคนาดา ในขณะเดียวกันก็ดูกีฬาอย่าง อเมริกัน ฟุตบอล ไปด้วย และเขาก็เริ่มนำมาศึกษาเพื่อเอาวิธีการเล่นมารวมกัน สำหรับการเล่นฟุตบอล
“มันเป็นความฝันของผม กับการที่จะคิดแผนการเล่นลูกตั้งเตะให้เป็นเอกลักษณ์ แบบเดียวกับที่โลกฟุตบอล มีแผนการเล่นฟุตบอลที่ชัดเจน”
เลอ ไดนามิค เดอ เฌอบรูค คือชื่อทีมฟุตบอลของมหาวิทยาลัยที่เขาเรียนอยู่ และเขาไปทำงานเป็นผู้อำนวยการด้านเทคนิคที่นั่น ซึ่งที่นั่นเขาได้เจอกับ ปาสกาล บาอิล ซึ่งเป็นอดีตนักเตะอาชีพของ มงต์เปลิเยร์ และนั่นทำให้เขาได้ย้ายมาทำงานใมบ้านเกิด ในเวลาต่อมา เมื่อ เรเน่ ชิราร์ นายใหญ่ของทีมกำลังมองหาคนทำงานด้านนี้อยู่ ซึ่ง บาอิล ก็แนะนำ โจเวอร์ เข้าไป และสุดท้ายเขาก็ได้งาน และเริ่มสร้างชื่อเสียงในวงการโค้ช
หลังจากนั้นไม่นานนักเขาก็ย้ายไปทำงานกับ ทีมชาติ โครเอเชีย ภายใต้การคุมทีมของ นิโก้ โควัช (ผู้จัดการทีม อาแอส โมนาโก คนปัจจุบัน) ก่อนจะย้ายมาอังกฤษ กับ เบรนท์ฟอร์ด ตามด้วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ฤดูกาล 2019-2020 ต้นฤดูกาล โจเวอร์ ย้ายมาทำงานกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พอเข้าสู่ ธันวาคม 2019 มิเคล อาร์เตต้า ก็ย้ายมารับงานที่ อาร์เซนอล พวกเขาทำงานด้วยกันประมาณ 4-5 เดือน แต่ก็ทำให้ อาร์เตต้า เห็นถึงศักยภาพของเขา
ช่วงเวลากับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในถิ่น เอติฮัต สเตเดี้ยม โจเวอร์ รับงานเป็นผู้ดูแลงานโค้ชเกี่ยวกับลูกตั้งเตะ ในฤดูกาล 2018-2019 พวกเขาคว้า “4 แชมป์ถ้วน” [พรีเมียร์ ลีก, เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ และ แชร์ริตี้ ชิลด์] เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษที่ทำได้ ในลีกพวกเขายิงไปถึง 95 ประตู เก็บแต้มได้ถึง 98 คะแนน แต่นั่นกลับไม่เป็นที่พอใจของ กวาร์ดิโอล่า มากนัก เพราะจาก 95 ประตู มีเพียง 12 ประตู เท่านั้น ที่มาจากลูกตั้งเตะ และมันแทบจะเป็นสถิติที่น้อยที่สุดของลีก บนความยิ่งใหญ่ในการคว้าแชมป์ของทีม แถมมีการระบุว่า การเสียประตูทั้งหมด 23 ครั้ง มาจากลูกตั้งเตะถึง 9 ประตู ด้วยกัน เรียกว่าเกือบ 40 % จากทั้งหมดที่เสียไป และนั่นทำให้พวกเขามองหาคนมาดูแลตรงจุดนี้โดยตรง และพวกเขาก็เลือก โจเวอร์ มาร่วมงานด้วย โดยสิ่งแรกที่ กวาร์ดิโอล่า สั่งทีมในฤดูกาลต่อมาคือ “ซ้อมลูกตั้งเตะทั้งเกมรุก และเกมรับ” ให้มากขึ้น และกลายเป็นหนึ่งในแผนการซ้อมแบบ “ทุกวัน” โดยมี โจเวอร์ และดีแลน โจนส์ อีกหนึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านลูกตั้งเตะ มาช่วยเทรนตรงนี้โดยตรง ซึ่ง โจนส์ ยังคงอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จนถึงวันนี้
“หลังการออกจากทีมของ จอร์จสัน ผมมองหาทางเลือกที่คิดว่าดีที่สุดในเรื่องลูกตั้งเตะ และผมมีคนที่ผมรู้จักในเรื่องนี้ เป็นคนที่มีความสามารถและจะเกิดประโยชน์กับทีมเราอย่างแน่นอน เขาจะย้ายมาร่วมงานกับเรา เขาคือชื่อว่า นิโกล่าส์ โจเวอร์” มิเคล อาร์เตต้า กล่าวในช่วงที่ทีมกำลังจะได้ตัว โจเวอร์ มาร่วมงานด้วย
พวกเขาเดินทางมาแล้วเกินครึ่งทางของพรีเมียร์ ลีก และตอนนี้พวกเขาอีก 12 เกมที่เหลือในพรีเมียร์ ลีก ต่อจากนี้ อาร์เซนอล จะรักษาสถิติเหล่านี้ไว้ได้หรือไม่!