เกมแรกของ “วิเอร่า”

     คริสตัล พาเลซ มีการปล่อย นักเตะ ออกมากถึง 14 คนในตลาดการซื้อขายรอบเดือนสิงหาคม พวกเขาเสีย นักเตะ หลักอย่าง พาทริค ฟาน ฮาน โฮลต์, แกรี่ เคฮิลล์ หรือว่า แอนดรอส ทาวน์เซ่นต์ ออกจากทีมไปแล้ว และ พวกเขาเลือก นักเตะ ใหม่เข้ามาหลายคน ไม่ว่าจะเป็น โยฮาคิม อันเดอร์เซ่น, มาร์ค กูไฮท์, ยาค็อบ มอนเตส, เรมี่ แมทธิวส์, อัลเดร์ นาซิเมนโต้,  ไมเคิ่ล โอลิเซ่ และ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ (ยืมตัว) ซึ่งทั้งหมดนี้ มีเพียง แมทธิวส์ (27 ปี) เพียงคนเดียวที่อายุมากกว่า 25 ปี นั่นหมายถึงการสร้างทีมใหม่ในระยะยาวอีกครั้ง รวมถึง คริสตัล พาเลซ ที่มองหาทางเลือกใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นแนวรุกเข้ามาเสริมทีม ยังมีเรื่องของการรั้งสตาร์เบอร์หนึ่งอย่าง วิลฟรีด ซาฮา (28 ปี สัญญาถึงกลางปี 2023) ไว้กับทีมต่อไปให้ได้ แม้ว่าสัญญาใหม่จะยังคงไม่คืบหน้าก็ตาม

     “เราเสียผู้เล่นเยอะมากในช่วงปิดฤดูกาล และทำให้จำนวนผู้เล่นน้อยลงไป และนั่นทำให้เราต้องการเพิ่มจำนวนของ นักเตะให้มากขึ้น เพื่อให้มากพอตลอดฤดูกาลนี้ และเพื่อให้เกิดการแข่งขันภายในทีม ผมได้รับการสนับสนุนที่ดีมากจาก สตีฟ แพร์ริช ประธานสโมสร และ ดูกี้ ฟรีดแมน ผู้อำนวยการกีฬาของทีมในการเสริมทีม แต่มันจะยังไม่หมดแค่นี้ เรายังมองหาทางเลือกใหม่เข้ามาเสริมทีม”

     ในช่วงสถานการณ์ของการระบาดของโควิด-19 หลายสโมสรประสบปัญหาในการหาเงินเข้ามาลงทุน หรือพัฒนาทีม แต่ก็มีหลายสโมสรที่มีเงินทุนเข้ามาสู่ทีม หนึ่งในนั้นคือ คริสตัล พาเลซ ตามรายงานจากสื่อ พวกเขามีการแต่งตั้ง จอห์น เท็กเตอร์ เข้ามาเป็นผู้อำนวยการของสโมสรอีกหนึ่งคน หลังจากที่นักธุรกิจชาวอเมริกัน เข้ามาลงทุนกับสโมสร พร้อมงบประมาณอีกจำนวน 90 ล้านปอนด์ ในการที่จะช่วยให้ คริสตัล พาเลซ บริหารทีมได้คล่องตัวยิ่งขึ้น รวมถึงงบในการซื้อขาย และการพัฒนาระบบเยาวชนของทีม โดย เท็กเตอร์ มาพร้อมกับความมุ่งมั่นในการลงทุนในธุรกิจกีฬา และเลือกคริสตัล พาเลซ หลังจากมีการเจรจาระหว่างกันยาวนานมากกว่า 6 เดือน