หลังจากพูดกันถึง เรื่องของถ้วยรางวัล ในโลกฟุตบอล กันไปแล้ว วันนี้ เราจะมาพูดคุยกันถึงเรื่องเกี่ยวกับ สนามฟุตบอล กันบ้าง วันนี้เราจะไปดูกันว่า สนามฟุตบอล ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ.เวลานี้ 2020 ปีที่ต้องจารึกเอาไว้ว่า โควิด-19 มาเยือน และทำให้ โลกทั้งโลก วุ่นวาย และไม่เหมือนเดิม อีกต่อไป
สนามฟุตบอล มาราคาน่า ในประเทศ บราซิล หรือว่า “ชามอ่างยักษ์” คัมป์ นู สนามฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ ของสโมสร บาร์เซโลน่า อาจเป็นสนามฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ สวยงาม และรับผู้ชม ได้เป็นจำนวนมาก แต่สนามเหล่านั้น ไม่ใช่ สนามที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ สนามฟุตบอล ดังกล่าว อยู่ในประเทศ ที่น้อยคนจะรู้จัก ประเทศที่หลายคน อยากไป แต่ไปไม่ได้ นั่นคือ ประเทศ เกาหลีเหนือ
อย่างที่เรา ทราบกันดีนะครับ เกาหลีเหนือ เป็นประเทศปิด ที่ไม่ใช่ว่า คุณจะมี วีซ่า พาสปอร์ต แล้วจะไปได้เลยทันที ต้องมีการขออนุญาต กันอย่างเป็นกิจลักษณะ และหากเข้าไปได้ ก็จะมีการจำกัดพื้นที่ ในการเข้าถึง อีกด้วย ตามกฎหมายของ เกาหลีเหนือ แต่ในเรื่องของ ภาพลักษณ์ พวกเขาทำให้ทั้งโลก เห็นว่า พวกเขา เป็นประเทศที่สามารถยืนอยู่ได้ด้วยตนเองมาโดยตลอด รวมถึงเรื่องของ กีฬา ฟุตบอล ซึ่งพวกเขาเคยเข้าไปสู่ ฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายมาแล้ว ในปี 2010
สนามฟุตบอล ประจำประเทศ เกาหลีเหนือ มีชื่อว่า สนาม รึงนาโด เมย์ เดย์ สเตเดี้ยม หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า Rungnado 1st May Stadium เป็นสนามกีฬา ที่รองรับการใช้งานในแบบ มัลติฟังก์ชัน สามารถรองรับการใช้งาน ในกีฬาชนิดอื่น เช่น กรีฑา ได้ด้วย กับความจุในสนามที่มีการระบุว่า มากกว่า 150,000 คนด้วยกัน
ถูกสร้างขึ้นในปี 1988 บนพื้นที่มากกว่า 129 ไร่ เปิดใช้งานครั้งแรกในวันที่ 1 พฤษภาคม 1989 และนั่นเป็นที่มาของ ชื่อเล่นในสนามนี้ว่า “May Day” เพราะเปิดใช้งานในวันแรกของ เดือนพฤษภาคม และอย่างที่เราทราบกันว่า วันที่ 1 พฤษภาคม ของทุกปี คือ วันแรงงานสากล อีกด้วย
ตัวสนามตั้งอยู่ในเกาะ รึงนาโด ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กที่ตั้งของสนาม โดยสนามแห่งนี้ อยู่ใน กรุง เปียงยาง (หรือ พยองยาง) เมืองหลวงของ ประเทศ เกาหลีเหนือ
สาเหตุในการสร้างสนามแห่งนี้ ส่วนหนึ่งมีการระบุว่า มาจากการที่ เกาหลีใต้ สามารถได้สิทธิ์จัดการแข่งขัน โอลิมปิก เกมส์ ในปี 1988 ที่ กรุงโซล ซึ่งนั่น ทำให้ เกาหลีเหนือ ต้องการที่จะจัดการแข่งขันในระดับโลก ภายในประเทศของตนเอง ขึ้นมาบ้าง และ พวกเขาเข้าร่วมการเสนอชื่อ เป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขัน กีฬาเยาวชน หรือ World Youth Festival and Student ครั้งที่ 13 ในปี 1989 และพวกเขาก็ได้จัดการแข่งขัน สมใจตามต้องการ โดยจัดการแข่งขัน กันในกรุง เปียงยาง ระหว่าง วันที่ 1 – 7 กรกฎาคม 1989 ซึ่งได้รับการระบุว่า เป็นงานระดับ นานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ ประเทศเกาลีเหนือ
ดังนั้น สนาม รึงนาโด เมย์ เดย์ สเตเดี้ยม จึงถูกสร้างขึ้นด้วย เหตุผลดังกล่าว ทั้งนี้ มีการก่อสร้างกันมาตั้งแต่ปี 1986 จนถึงช่วงต้นปี 1989 ก็เป็นอันแล้วเสร็จ ทันใช้งาน
หลังจบงานดังกล่าว รึงนาโด เมย์ เดย์ สเตเดี้ยม ถูกนำไปใช้ใน กิจกรรมประจำปี ที่มีชื่อว่า เทศกาล อารีรัง ซึ่งเป็น เทศกาลแสดงรำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ จัดขึ้นทุกเดือนสิงหาคม จนถึงต้นเดือนกันยายน ของทุกปี ก่อนที่ต่อมา มีการระบุว่า เทศกาล ดังกล่าว ถูกยกเลิกไปในบางปี และมีการเปลี่ยนชื่องานด้วยในบางปี ทั้งนี้ เทศกาลที่ว่านี้ มีการบันทึก โดย กินเนสบุ๊ค ว่า คือเทศกาลกายกรรมร่ายรำที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะใช้จำนวนผู้ร่วมแสดงมากกว่า 100,000 คน ด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม รึงนาโด เมย์ เดย์ สเตเดี้ยม แม้ว่าจะสามารถใช้งาน เป็นสนามฟุตบอล ได้ แต่ก็ถูกนำมาใช้งานไม่มากนัก หลายครั้งสนามแห่งนี้ ถูกนำไปใช้ในงานต้อนรับ แขกบ้านแขกเมือง หรือการจัดการประชุมใหญ่ระดับประเทศ โดยครั้งล่าสุด ที่ถูกบันทึกว่า สนามแห่งนี้ ใช้งานเป็นสนามฟุตบอล ต้องย้อนไปในปี 2018 กับการใช้งานเป็นสนามแข่ง ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย ในรุ่นอายุต่ำกว่า 23 ปี
ปัจจุบัน “กองทัพโสมแดง” ทีมชาติเกาหลีเหนือ ได้ใช้งานสนาม คิม อิล-ซุง สเตเดี้ยม เป็นสนามเหย้าของทีม ซึ่งรวมถึงทีมชาติหญิงของเกาหลีเหนือ ก็ใช้งานสนามนี้ โดยสนามดังกล่าวมีความจุ ประมาณ 50,000 ที่นั่ง
ทั้งนี้ ในรอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก 2010 ซึ่ง เกาหลีเหนือ สามารถผ่านเข้าไปเล่น รอบสุดท้ายที่ประเทศ แอฟริกาใต้ นั้น พวกเขาใช้งาน คิม อิล-ซุง สเตเดี้ยม เป็นสนามเหย้าทั้งหมด ยกเว้นในเกมที่พวกเขา ลงเล่นกับ เกาหลีใต้ เกมดังกล่าว ย้ายไปทำการแข่งขันที่ประเทศ จีน เพื่อป้องกันในเรื่องของความปลอดภัย และเหตุผลทางการเมืองในช่วงเวลานั้นของทั้งสองประเทศ และ การเข้าสู่รอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก ในปี 2010 เป็นการผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก เป็นครั้งที่สองของประเทศ นับจากปี 1966
เกาหลีเหนือ ได้รับการระบุว่า เป็นชาติแรกที่ไม่ได้อยู่ใน ยุโรป หรือ อเมริกา แต่เข้ามาเล่นในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้สำเร็จ และในฟุตบอลโลก 2022 พวกเขายังมีลุ้นเต็มตัว ในการจะกลับไปเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายให้ได้อีกครั้ง ที่ประเทศ กาตาร์ อีกด้วย