“เซโอ” สู่มาร์กเซย์ และที่มาโทษแบนการซื้อขายของ “โอแอม”

เซอัด โคลาซินัค เซ็นสัญญากับ โอลิมปิก มาร์กเซย์ อย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากยกเลิกสัญญากับ อาร์เซนอล ที่เหลือกันไม่ถึง 6 เดือน โดยเข้ารับการตรวจร่างกาย และเปิดตัวเป็นนักเตะหมายเลข 23 คนใหม่ของสโมสรแห่งมาร์กเซย์ ซึ่งตรงกับระยะสัญญาของเขากับทีม ซึ่งเซ็นกันระยะสั้นจนถึงเดือนมิถุนายน 2023 เท่านั้น ตามรายงานจากสื่อ

ท่ามกลางคำถามที่ว่า พวกเขายังสามารถซื้อขายได้หรือ หลังจากเกิดประเด็นการโดนลงโทษห้ามซื้อขายนักเตะ ที่ออกมาก่อนหน้านี้

วันนี้เรามีคำตอบในเรื่องนี้

“โอแอม” ตกเป็นข่าวการโดนลงโทษแบนการซื้อขายนักเตะสองตลาดการซื้อขายด้วยกัน จากกรณีการทำผิดกฎการซื้อขาย ปาป้า กูเอ (22 ปี สัญญาถึงกลางปี 2024) กองกลางตัวรับทีมชาติเซเนกัล ในปี 2020 หลังจากที่นักเตะย้ายจาก เลอ อาฟร์ ไปร่วมงานกับ วัตฟอร์ด สโมสรในพรีเมียร์ ลีก อย่างเป็นทางการเพียง 24 ชั่วโมงแบบไม่มีค่าตัว ก่อนจะย้ายมาเล่นกับ มาร์กเซย์

โดย ณ เวลานั้น กูเอ ระบุว่าเขาได้รับการแนะนำที่ไม่ดีจากเอเยนต์ของตนเอง เรื่องเกี่ยวกับค่าเหนื่อย ซึ่งมีการระบุว่าเขาได้รับค่าเหนื่อยเพียง 45,000 ปอนด์ต่อเดือน (เฉลี่ย 11,250 ปอนด์ต่อสัปดาห์) ไม่ใช่ 45,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์อย่างที่นักเตะเข้าใจ และไม่ต้องการย้ายไปร่วมทีมด้วย โดย กัวเย่ ได้มีการเปลี่ยนเอเยนต์จากเดิมคือ บาการี่ ซาโนโก้ กลายมาเป็น ปิแอร์-เฮนรี่ โบวิส ซึ่งมีอาชีพเป็นทนายความ เข้ามาเป็นเอเยนต์คนใหม่ของเขา หลังเกิดเรื่องนี้ขึ้น

เรื่องน่าจะจบลงตรงนั้น…แต่

เรื่องน่าจะจบลงตรงนั้น…แต่มันเพิ่งเริ่มต้น เพราะเหตุเกี่ยวกับข้อมูลที่ว่า ปาป้า กูเอ เซ็นสัญญากับ วัตฟอร์ด ไปตั้งแต่เดือนมกราคม 2020 ก่อนจะมีการประกาศกันผ่านทางทวิตเตอร์ของสโมสรวัตฟอร์ตในช่วงเดือนเมษายน 2020 แล้วด้วย ซึ่งหากใครจำกันได้ ในช่วงระหว่างเดือนเมษายน – มิถุนายน 2020 พรีเมียร์ ลีก และ แทบจะทุกฟุตบอลลีกทั่วยุโรป ต้องยกเลิกการแข่งขันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และทำให้สุดท้าย พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2019-2020 จบลงในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ซึ่งเลทกว่าปฏิทินการแข่งขันปกติไปนานถึง 2 เดือนด้วยกัน

โดยนักเตะซึ่ง ณ เวลานั้นยังคงมี บาการี่ ซาโนโก้ เป็นเอเยนต์ เขาเหลือสัญญากับ เลอ อาฟร์ ไม่ถึงหนึ่งปี และแน่นอนการเซ็นสัญญาล่วงหน้าเกิดขึ้นได้ตามกฎการซื้อขาย มีภาพการเซ็นสัญญาของเขา กับ วัตฟอร์ต ออกมาเป็นทีเรียบร้อย โดยเป็นการถ่ายภาพร่วมกับตัวแทนของสโมสรวัตฟอร์ต พร้อมเสื้อของสโมสรเป็นเครื่องยืนยันการเซ็นสัญญานี้ อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลเกี่ยวกับค่าเหนื่อยที่ผิดพลาดไปเยอะมาก รวมถึงรายละเอียดอื่น ๆ ซึ่งระบุในระยะสัญญา 5 ปีของเขากับ วัตฟอร์ด ไม่เป็นไปตามที่เขาเข้าใจแต่แรก ทำให้เขาไม่ต้องการเล่นที่วัตฟอร์ด

แรกเริ่มมีการพูดถึงการปล่อยตัวเขาไปเล่นกับ อูดิเนเซ่ ทีมในเซเรีย อา ซึ่งมีเจ้าของเดียวกับ วัตฟอร์ต ก็คือตระกูล ปอซโซ่ โดยจะมีการอัพค่าเหนื่อยให้ในการย้ายทีมด้วย อย่างไรก็ตามสุดท้าย พอเข้าสู่วันที่ 1 กรกฎาคม 2020 ปาป้า กูเอ ก็กลายเป็นนักเตะของ วัตฟอร์ด อย่างเป็นทางการ ตามรายละเอียดสัญญาที่เซ็นกันไว้ล่วงหน้า ก่อนที่ต่อมาเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง เขาจะย้ายไปเล่นกับ โอลิมปิก มาร์กเซย์ ต่อทันที โดยมีการเซ็นสัญญามูลค่าประมาณ 3 ล้านยูโร แต่เรื่องมันยังไม่จบเมื่อมี วัตฟอร์ต มีการเจ้างไปยัง ฟีฟ่า และ ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา เกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้

สรุปแล้ว ผลจะออกมาเป็นอย่างไร

รายงานจาก เลอ กิ๊ป สื่อใหญ่ของประเทศฝรั่งเศส ระบุว่ามีผลการตัดสินว่าให้ตัว ปาป้า กูเอ และสโมสร โอลิมปิก มาร์กเซย์ ต้องจ่ายค่าชดเชยสำหรับการผิดสัญญาของวัตฟอร์ดโดยไม่มีเหตุอันควร และมีโทษแบน โอลิมปิก มาร์กเซย์ จากการลงทะเบียนนักเตะใหม่ ไม่ว่าจะเป็นในระดับประเทศ หรือว่านานาชาติเป็นเวลาสองช่วงการลงทะเบียน (สองตลาดการซื้อขาย) ติดต่อกัน ขณะที่ตัวนักเตะจะโดนแบนจากการแข่งขันในทุกระดับเป็นเวลา 4 เดือน ซึ่งมีการระบุว่า วัตฟอร์ด เรียกร้องค่าเสียหายกับสิ่งที่เกิดขึ้นสูงถึง 10 ล้านยูโรด้วยกัน

มาร์กเซย์ จะโดนแบนทั้งหมดสองตลาดการซื้อขาย ขณะที่นักเตะจะโดนแบนจากการแข่งขันอย่างเป็นทางการทั้งหมด 4 เดือน โดยทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาคดีจากศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาทั้งหมด ซึ่ง โอลิมปิก มาร์กเซย์ กำลังยื่นเรื่องทำการอุทรณ์ในกรณีดังกล่าว และคาดว่าจะใช้เวลาในการตัดสินในเรื่องนี้ในอีก 3-6 เดือนข้างหน้าว่าสรุปแล้ว ผลจะออกมาเป็นอย่างไร และนั่นทำให้การซื้อขายของพวกเขายังคงเกิดขึ้นได้นั่นเอง