เฮคตอร์ เบลเลริน (26 ปี สัญญาจริงหมดกลางปี 2023) แบ็คขวาสเปน ซึ่งเวลาลงเล่นกับ เรอัล เบติส ในลา ลีกา สเปนแบบยืมตัว กำลังมีความสุขกับช่วงเวลาการเล่นฟุตบอลในสเปน เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี หลังย้ายข้ามไปแจ้งเกิดในเวทีพรีเมียร์ ลีก ในปี 2011
เบลเลริน หนึ่งในผลผลิตของ ลา มาเซีย ศูนย์ฝึกเยาวชนของบาร์เซโลน่า ย้ายไปเล่นกับ อาร์เซนอล พร้อมกับ จอน โทรัล (26 ปี ลงเล่นกับ โอเอฟไอ เกรเต้ ในประเทศกรีซ) ก่อนในปี 2014 จะขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัว และกลายเป็นตัวหลักมาตลอดจนกระทั่งมีปัญหาบาดเจ็บหนักในช่วงต้นปี 2019 เขาได้รับบาดเจ็บหนักที่เอ็นไขว้หน้าหัวเข่า (ACL) และนั่นทำให้เขาต้องพักนานถึง 10 เดือนเต็ม ซึ่งในเวลาต่อมา เขายอมรับว่ามีปัญหาเกี่ยวกับสภาพจิตใจในช่วงเวลานั้น รวมถึงมีอาการ “ดื่มหนัก” อยู่พักหนึ่ง ก่อนจะกลับมาพร้อมกับฟอร์มการเล่นที่ไม่เหมือนเดิม
“มันเป็นครั้งแรกของผมที่เจ็บหนักแบบนั้น ที่ผ่านมาผมอาจมีเพื่อน หรือเพื่อนร่วมทีมเคยเจออาการบาดเจ็บแบบนี้ แต่เมื่อเกิดขึ้นกับตัวเอง ผมกลับไม่สามารถคาดเดาหรืออะไรได้เลยว่า มันจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง”
“ผมสามารถพูดถึงเกี่ยวกับประสบการณ์ตรงของตัวเองตอนกลับมาลงสนามซ้อม ที่ผมแทบไม่ได้ซ้อมแบบจริงจัง และผมเริ่มออกจากบ้าน เริ่มดื่ม และผมเชื่อว่านักกีฬาหลายคนไม่กล้าพูดเรื่องพวกนี้ แต่มันก็คือความจริงที่เกิดขึ้น สิ่งที่ผมโชคดีคือผมยังมีโค้ช และเพื่อนร่วมทีมที่ใส่ใจนตัวผม และดึงผมกลับมาพร้อมกับบอกว่า ผมทำแบบนั้นไม่ได้ ผมโชดคีตรงจุดนี้มาก”
อย่างไรก็ตาม เบลเลริน ผู้ซึ่งเสียตำแหน่งให้กับ คาลัม แชมเบอร์ส และต้องแย่งพื้นที่ตัวสำรองกับ เซดริก โซอาเรส ก็ตัดสินใจย้ายออกจากทีม เขาต้องการมองหาความท้าทายใหม่อีกครั้ง…ทุกอย่างหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงชีวิตก็ไม่มีการเดินหน้า ทุกการเปลี่ยนแปลงหมายถึงการเคลื่อนไหวไม่ว่าจะเป็นไปในทิศทางใดก็ตาม เขาเลือกแจ้งไปยัง เอดู และ อาร์เตต้า ในการขอย้ายทีม ซึ่งสุดท้ายเขาก็ได้ย้ายทีม เช่นเดียวกับที่ อาร์เซนอล เซ็นสัญญากับ ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ กองหลังทีมชาติญี่ปุ่นมาแทนที่เขาในวันสุดท้ายของตลาดการซื้อขาย และระบุว่า “โทมิ” จะเป็นแบ็คขวาคนใหม่ของอาร์เซนอล ขณะที่ เบลเลริน เลือก เรอัล เบติส สโมสรที่เขาระบุว่าเป็นสโมสรที่เขาเชียร์มาตั้งแต่เด็ก ด้วยสัญญายืมตัวหนึ่งปีในแบบไม่มีออฟชั่นซื้อขาด ซึ่งมีการเปิดเผยว่า การเลือกครั้งนี้มีการนำข้อมูลวิเคราะห์ผลงานของ เบลเลริน และแนวทางการเล่น เรอัล เบติส มาวิเคราะห์เพื่อมองหา “ความเข้ากันได้” ของทั้งสองฝ่าย และผลออกมาคือ เบติสคือทีมที่เหมาะสมที่จะย้ายไปร่วมทีมด้วย
“การเลือก เรอัล เบติส เป็นสิ่งที่ทำให้พ่อของผมมีความสุขมาก เขาเป็นแฟนบอลของ เบติส เช่ยเดียวกับผมที่ พ่อพาผมเข้าไปดูเกมตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก เขาพยายามเอาเสื้อเบติสให้ผมใส่ตั้งแต่เด็กแล้ว แน่นอนผมต้องการความท้าทายใหม่ให้ตัวเอง ต้องการแสงแดด, ความอบอุ่น แต่ผมย้ายมาที่นี่ไม่ได้มาพักผ่อน ผมย้ายมาเพื่อการลงเล่น”
ผ่านมาแล้ว 1 เดือนครึ่ง เบลเลริน สมหวังกับสิ่งที่เขาต้องการ เขากลายเป็นทางเลือกแรกในทีมของ มานูเอล เปเยกรินี่ แทนที่ของ เอเมอร์สัน รอยัล ที่ย้ายกลับไปบาร์เซโลน่า (และตอนนี้กลายเป็นนักเตะใหม่ของ สเปอร์ส เรียบร้อยแล้ว สวนทางกับ เบลเลริน พอดี) โดยลงเล่นไปแล้ว 4 เกมด้วยกัน ในลา ลีกา และเป็นตัวจริงตลอด 90 นาทีทุกเกม และผลงานก็ไปได้สวยทั้งส่วนตัว และของสโมสร ตามหลังจ่าฝูง 5 คะแนน หลังผ่านไป 8 เกม
“ตอนนี้ผมยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองทั้งนั้น แต่เหมือนที่ผมเคยบอกเสมอ ถ้าผมไม่ได้อยู่ที่ เบติส ปีหน้า ผมก็ไม่ย้ายมาที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว มันยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องเลือก แต่ผมต้องการมีความสุขกับฤดูกาลนี้ที่ผมลงเล่นที่นี่ และรอดูว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้”
“แน่นอนเงินคือสิ่งสำคัญมาก เพราะมันคืออาชีพ แต่ผมคิดว่าในวงการฟุตบอล ความรักที่มีต่อฟุตบอล, สโมสรที่เชียร์มาตั้งแต่เด็ก สำหรับผมแล้วมันเป็นสิ่งที่อยู่เหนือกว่าเรื่องของเงิน ช่วงเวลาที่ผ่านมาทำให้ผมต้องกลับไปคิดอะไรใหม่ในหลายเรื่อง และมันมีหลายเรื่องสำคัญที่ต้องตัดสินใจร่วมกันไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของเงินเท่านั้น”
เบลเลริน มีสัญญากับ อาร์เซนอล ถึงกลางปี 2023 ซึ่งเป็นการเซ็นสัญญามาตั้งแต่ช่วงปี 2016 พร้อมกับค่าเหนื่อยประมาณ 120,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งหากจบฤดูกาลนี้เขาจะเข้าสู่สัญญาในช่วงปีสุดท้าย นั่นหมายถึงอนาคตของเขากับ อาร์เซนอล จะไม่แน่นอนทันที และยิ่งชัดเจนเมื่อสัมภาษณ์นี้เกี่ยวกับเป้าหมายของนักเตะออกมา
ในมุมของ อาร์เซนอล พวกเขา “พร้อม” กับการปล่อยตัวเบลเลริน มากกว่าจะเก็บตัวเขาไว้กับทีมต่อไป การเซ็นสัญญา ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ เข้ามาเป็นสัญญาณที่ชัดเจนในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม อาร์เซนอล จะต้องเจอกับสถานการณ์แบ็คขวาที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเยอะมากในตลาดรอบหน้า หรือในช่วงจบฤดูกาล เมื่อ คาลัม แชมเบอร์ส จะหมดสัญญาในเดือนมิถุนายน 2022 ส่วน เซดริก โซอาเรส ก็คงไม่มีความสุขแน่ หากยังเป็นเพียงตัวสำรองรอเล่นในฟุตบอลถ้วยต่อไป
ส่วน เบลเลริน ก็มองถึงทางไปต่อของตนเองเอาไว้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน ขึ้นกับว่าทาง เรอัล เบติส จะพร้อมจ่ายมากแค่ไหน และพวกเขาพร้อมเสนอค่าเหนื่อยให้กับ เบลเลริน มากพอจะทำให้เขายอดลดค่าแรงเพื่อย้ายไปร่วมงานแบบถาวรหรือไม่ เพราะ เบติส ก็ไม่ใช่ทีมเงินหนามากนักเช่นกัน ซึ่ง เบลเลริน กับ อาร์เซนอล อาจจะถึงปลายทางของกันและกันตั้งแต่วันที่ เบลเลริน ออกจากทีมไปเล่นกับ เรอัล เบติสแล้ว พวกเขา “แยกทาง” กันแล้ว เหลือเพียงแค่ว่าจะ “เซ็นใบหย่า” กันเมื่อไรก็เมื่อนั้น ก็จะขาดจากกันอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม “เงินคือสิ่งสำคัญ” แบบที่ เบลเลรินบอกเอาไว้ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด ถ้าทุกอย่างอยู่ในกรอบของคำว่า “ยอมรับได้” ทุกอย่างก็เป็นไปได้หมด…แต่กว่าจะให้ทุกอย่าง “เข้ากรอบ” ที่ว่าคงต้อเจรจากันอีกไม่น้อยแต่ถึงตรงนี้ ฤดูกาลเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ แต่หวังว่าเรื่องนี้จะจบแบบมีความสุขทุกฝ่าย…เพราะชีวิตยังคงต้องเดินหน้าต่อไป และชีวิตการเล่นฟุตบอลของ เบลเลริน ยังอีกไกลกว่าจะถึงวันอำลานั่นเอง