ไอน์สลีย์ เมดแลนด์-ไนลส์ นักเตะสารพัดประโยชน์ของอาร์เซนอล กลายเป็น นักเตะ คนล่าสุดที่ลงเล่น ตัวจริงให้กับ ทีมชาติอังกฤษ ในเกมอย่างเป็นทางการ (ไม่รวมเกมอุ่นเครื่อง) เป็นคนแรกนับจาก อเล็กซ์-อ๊อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ที่ลงเล่นในเดือนมีนาคม ปี 2017 โดยลงเล่นในเกมพบกับ ลิธัวเนีย
ดาวเตะผิวสี ผู้ซึ่งก่อนหน้านี้ ถูกหมายหัวว่าจะกลายเป็น ส่วนเกิน ของสโมสรปืนใหญ่ กลายเป็น นักเตะทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ และเป็นสมาชิกในทีม อาร์เซนอล ภายใต้การคุมทีมของ มิเคล อาร์เตต้า ด้วยผลงานที่ทำได้ดีในระยะหลัง ถึงขั้นที่ว่า อาร์เซนอล เลือกปฏิเสธก้อนใหญ่จาก วูลฟ์สแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ในตลาดการซื้อขายรอบที่ผ่านมา เพื่อเก็บตัวเขาไว้ใช้งาน
แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ เขาผ่านอะไรมาบ้าง วันนี้เรามีเรื่องราวของเขา มาให้อ่านกัน
เมดแลนด์-ไนลส์ เกิดวันที่ 29 สิงหาคม 1997 ในครอบครัวของ คนผิวสี ซึ่งครอบครัวเขา มีเชื้อสายของ ชาวแอฟริกา
แม่ของเขา “จูลส์” แยกทางกับสามี และเลี้ยงลูกชายสองคน โดย ไอน์สลีย์ มีพี่ชายชื่อว่า คอร์ดี้ เมื่อเติบโตขึ้น แม่ของเขา เห็นว่า ลูกชายคนเล็ก มีความสนใจในการเล่นฟุตบอล ทำให้เธอตัดสินใจ พาเขาไปยังสโมสร อาร์เซนอล เพื่อไปสมัครเข้าสู่ทีมเยาวชนของ สโมสรปืนใหญ่
ไอนสลีย์ เป็น เด็กที่มีศักยภาพ ในเรื่องของฟุตบอล ทำให้เขาผ่านการทดสอบความสามารถ และเข้าร่วมทีมเยาวชนของสโมสรในที่สุด โดยมีการระบุว่า อาร์เซนอล เซ็นสัญญากับเขาครั้งแรกด้วยอายุเพียง 6 ปี เท่านั้น
ความฝันในการเป็น นักเตะ อาชีพ ไม่ใช่เรื่องง่าย อาร์เซนอล สอนเขาในสิ่งที่เรียกว่า “Arsenal Way” แนวทางการเล่นของอาร์เซนอล รวมถึงทักษะการเล่นฟุตบอล ตามวัยของเขา ซึ่งก็สามารถพัฒนาได้ตามลำดับ โดยเขาได้รับการระบุว่า เป็นหนึ่งใน นักเตะ ที่มีพัฒนาการที่ยอดเยี่ยม ที่สุดคนหนึ่งในช่วงอายุเดียวกัน
ธันวาคม 2014 ไอน์สลีย์ เมดแลนด์-ไนลส์ เซ็นสัญญา นักเตะ อาชีพ ฉบับแรก และลงเล่นเกมแรกกับสโมสร ในวันที่ 9 ธันวาคม 2014 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พบกับ กาลาตาซาราย ทำให้เขากลายเป็น นักเตะ ที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสอง ของ อาร์เซนอล ที่ลงเล่นในรายการนี้ต่อจาก แจ็ค วิลเชียร์ โดยเวลานั้นเขาอายุเพียง 17 ปี กับ 102 วัน ก่อนที่อีกไม่กี่วันต่อมา เขาจะได้ลงสนามในเกมพรีเมียร์ ลีก ครั้งแรกในเกมที่พบกับ นิวคาสเซิ่ล
“ผมต้องการขอบคุณครอบครัว ขอบคุณพระเจ้า ที่นำผมมาที่นี่ เสื้อแข่งในเกมนี้ผมจะนำไปใส่กรอบ และมอบให้กับแม่ของผม”
ช่วงชีวิตที่สดใส และกำลังจะก้าวไปข้างหน้าของ ไอนสลีย์ กลับพบกับเรื่องวุ่นวายนอกสนาม นั่นคือเรื่องเกี่ยวกับ แม่ของเขาเอง
จูลส์ ถูกระบุว่ามีปัญหา และทำร้ายร่างกาย ดิ๊ก ลอว์ นักเจรจาของอาร์เซนอล รวมถึง ฌอน โอคอนเนอร์ ผู้จัดการด้านอุปกรณ์ หลังจากมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง หลังคุยเรื่องเกี่ยวกับ อนาคตของลูกชายของเธอ และมีการระบุว่า เธอ ถูกแบนห้ามเข้าสู่สนามซ้อมของ อาร์เซนอล โดยเด็ดขาด ขณะที่ เมดแลนด์-ไนลส์
ขณะที่ฤดูกาล 2015-2016 เมดแลนด์-ไนลส์ ถูกส่งตัวไปยัง อิปสวิช ทาวน์ ในแบบยืมตัว และเขากลายเป็นตัวหลักของสโมสร “ม้าขาว”โดยลงเล่นมากถึง 30 เกมด้วยกัน แต่แล้วก็เกิดเรื่องอีกครั้ง ในเดือนเมษายน 2016 เมื่อ จูลส์ ไม่พอใจที่ มิค แมคคาร์ธี ผู้จัดการทีม อิปสวิช ทาวน์ ไม่ยอมปล่อยให้ ลูกชาย ของเธอ ไปร่วมงานเปิดตัวเสื้อแข่งใหม่ของทีมชาติอังกฤษ เพื่ออยู่กับทีมเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเกมที่กำลังจะมาถึง โดย จูลส์ ได้ทำการทิ้งข้อความหยาบคายใส่ แมคคาร์ธีย์ อย่างรุนแรง และนั่นทำให้ เมดแลนด์-ไนลส์ หลุดออกจากทีมทันทีจนกระทั่งจบฤดูกาล รวมถึงมีปัญหาอาการบาดเจ็บด้วย
หลังกลับมาที่อาร์เซนอล เขายังคงวนเวียนกับชีวิตการเป็น นักเตะ เยาวชน และสู่ทีมชุดใหญ่ประปราย แต่
กราฟชีวิตของเขากลับมาดีขึ้น เมื่อเขาติดทีมชาติอังกฤษ ไปเล่นในเกมฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ระดับอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือ U20 Youth World Cup ซึ่งมี นักเตะ อย่าง โดมินิก โซลันกี้, ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส รวมถึง จาดอน ซานโช่ ซึ่งสุดท้ายแล้ว “สิงโตคำราม” ประสบความสำเร็จกับการคว้าแชมป์โลก และเมื่อกลับมายัง อาร์เซนอล การเปลี่ยนแปลง ผู้จัดการทีมจาก อาร์แซน เวนเกอร์ มาเป็น อูไน อเมรี่ ผู้จัดการทีมชาวสเปน เมดแลนด์-ไนลส์ ก็ยังคงได้รับความเชื่อมั่นจาก ผู้จัดการทีมคนใหม่ ด้วยการมอบสัญญาใหม่ให้กับเขา และจนมาถึงวันนี้ ที่เขา กลายเป็นหนึ่งในทีมของ มิเคล อาร์เตต้า
อย่างไรก็ตาม สำหรับความสัมพันธ์ของเขากับแม่ กลับแย่ลง เมื่อ เมดแลนด์-ไนลส์ ตัดสินใจที่จะ แยกบ้าน ออกมา โดยเขาย้ายมาอยู่กับพี่ชายของเขา โดยมีการระบุว่าเขาส่งแม่ของเขาไปเที่ยวที่ ออสเตรเลีย และเมื่อเธอกลับมาก็ได้พบว่า ลูกชายทั้งสองคน ตัดสินใจออกจากบ้านไปเรียบร้อยแล้ว โดยเธอมีการไปดักรอเจอลูกชายตนเอง หน้าสนามซ้อมของอาร์เซนอล ก่อนจะได้รับการระบุกลับมาว่า ลูกชายของเธอ ต้องการไปมีชีวิตส่วนตัวของตนเอง
จูลส์ ไม่สามารถหาเงินได้มากพอ เนื่องจากไม่ได้ทำงานทำในการที่จะเช่าอพาร์ทเมนต์ต่อไปได้ และทำให้เธอตัดสินใจย้ายไปอย่ใน ตู้คอนเทนเนอร์ และอาศัยอยู่ในนั้น โดยต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละ 346 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ขณะที่ เมดแลนด์-ไนลส์ ให้เงินกับเธอ แต่ก็ไม่มากพอในการที่จะค้ำประกันในเรื่องของการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้ดียิ่งกว่าเดิม โดยแหล่งข่าวที่สนิทกับ นักเตะ ระบุว่าทุกวันนี้ เมดแลนด์-ไนลส์ ยังคงส่งเงินให้กับเขาเป็นประจำ แต่ก็ไม่เคยได้รับการยืนยันใดๆ จาก นักเตะ แม้แต่ครั้งเดียว
และนั่นคือเบื้องหลังชีวิตอีกด้านหนึ่ง เด็กหนุ่มคนนี้ ไอน์สลีย์ เมดแลนด์-ไนลส์