บาร์เซโลน่า; สเปน ที่ตั้งของสโมสรฟุตบอลแห่งหนึ่งที่ได้ชื่อว่า ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอล เอฟซี บาร์เซโลน่า คือสโมสรแห่งนั้น และในยุค 2020 พวกเขายังคงมี นักเตะ ที่เก่งที่สุดในโลกอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ (33 ปี สัญญาถึงกลางปี 2021) ที่ซึ่งในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก กับการมีปัญหากับสโมสรที่เขาอยู่มาตั้งแต่อายุเพียง 12 ปี และตัดสินใจขอย้ายทีม ก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลง เมื่อ บาร์เซโลน่า ยืนกรานจะไม่ปล่อยตัว เมสซี่ พร้อมกับการที่ โจเซป บาร์โตเมว ประธานสโมสรคนปัจจุบันของ บาร์เซโลน่า กำลังจะหมดวาระลงในไม่ช้านี้ และ ประธานสโมสรคนใหม่ กำลังจะมีการเลือกตั้งในไม่ช้านี้
อย่างไรก็ตาม การต่อสัญญาใหม่กับ “เลโอ” ยังคงไม่เกิดขึ้น ท่ามกลางข่าวการย้ายทีมสู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งมี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่คนเดิมสมัยทำงานกับ บาร์ซ่า อยู่ที่นั่น (และต่อสัญญาใหม่ คุมทีมเพิ่มแล้ว) รวมถึงกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่ซึ่งมี เนย์มาร์ จูเนียร์ รุ่นน้องอดีตเพื่อนร่วมทีมบาร์ซ่า รออยู่ที่นั่น เช่นกัน และว่ากันตามจริง อาจมีเพียงแค่สองสโมสรนี้เท่านั้นในยุโรป ที่พร้อมจ่ายเงินค่าแรง ที่น่าจะมากกว่า 500,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เพราะการย้ายทีมจะเป็นการย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัว
ฤดูกาล 2020-2021 ผลงานของเขา กับมาตรฐานที่ต้องบอกว่า มาตรฐานระดับเมสซี่ ถือว่า “ดรอปเล็กน้อย” โดยลงเล่นไปทั้งหมด 18 เกม ทำไป 10 ประตู กับ 5 แอตซิสต์ ในทุกรายการ ขณะที่ บาร์เซโลน่า ผลงานต่ำกว่ามาตรฐานชัดเจน เมื่อพวกเขารั้งอันดับ 5 ตามหลัง แอตเลติโก มาดริด ทีมจ่าฝูงถึง 8 คะแนน และบาร์ซ่าลงเล่นมากกว่าหนึ่งเกมด้วยกัน
ล่าสุด “เอล ปูลก้า” ออกให้สัมภาษณ์กับสื่อในสเปนอีกครั้ง และการสัมภาษณ์ที่บทสรุปยังไม่ชัดเจน แต่ก็แสดงให้เห็นแรงปราถนา บนความผิดหวังในหลายเรื่องที่เกิดขึ้น รอบตัวเขาเช่นกัน
“ผมต้องการให้ทุกอย่างจบลงในฤดูกาลนี้ก่อน เป้าหมายของผม ในเวลานี้คือ จบฤดูกาลให้เรียบร้อย ช่วยบาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ และไม่ยุ่งกับคนใดหรือเรื่องใดทั้งสิ้น ผมตั้งใจทุ่มเทสุดความสามารถของตนเอง เพื่อสโมสร ด้วยหัวใจ และสมองของผม” เมสซี่ กล่าวผ่านสื่อ ลา เซ็กต้า ในสเปน
“เมื่อตอนที่ตัวผมสิ้นสุดการเล่นฟุตบอลอาชีพ ผมต้องการกลับมาที่บาร์เซโลน่า และใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ต่อไป อาจจะรับหน้าที่สักอย่างในสโมสร ผมมีความฝันในการอยากลงเล่นในลีกต่างประเทศ ในสหรัฐอเมริกา บางทีมันอาจจะเกิดขึ้นก็เป็นไปได้ แต่ก็นั่นละวันนี้มันยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น วันนี้ผมต้องการมีสมาธิกับ 6 เดือนนับจากนี้เสียก่อน”
สตาร์อาร์เจนไตน์ วัย 33 ปี ยังได้กล่าวถึง โจเซป บาร์โตเมว ผู้ซึ่งกำลังกลายเป็นอดีตประธานสโมสร บาร์เซโลน่า ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดหลายครั้ง รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับการที่มีเรื่องในแง่ลบออกมาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงการบริหารงานของ บาร์โตเมว และเขายืนยันอีกครั้งว่า เขาแจ้งต่อ บาร์โตเมว เกี่ยวกับการขอย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า เมื่อหน้าร้อนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามก็ยืนยันว่า เขารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ณ.เวลานี้ หลังจากผ่านพ้นปัญหามากมายที่เกิดขึ้น โดย เมสซี่ ใช้งาน บูโรแฟกซ์ เครื่องส่งเอกสารที่สามารถใช้งานในแบบ ออนไลน์ และผ่านทางไปรษณีย์สเปน ในการส่งเอกสารไปยัง บาร์เซโลน่า ที่ซึ่งการันตีถึงการถึงผู้รับปลายทาง และยังสามารถนำไปใช้เป็นหลักฐาน ในเรื่องทางกฎหมายได้ด้วย
“ในเวลานี้ ผมมีความรู้สึกดี หลังผ่านช่วงเวลาที่แย่มากในหน้าร้อนที่ผ่านมากับเรื่องราวของ บูโรแฟกซ์ และอีกหลายเรื่อง แต่ตอนนี้ทุกอย่างผ่านพ้นไปแล้ว ผมต้องการต่อสู้ในสนามกับทุกคน ในช่วงเวลาที่ สโมสร ต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ เช่นเดียวกับทีม ซึ่งเวลานี้ทุกอย่างใน บาร์เซโลน่า เจอเรื่องยากลำบาก เพราะตอนนี้ผมทราบดีกว่า บาร์ซ่า เจอกับความลำบากมากแค่ไหน และมันก็ยากมากที่เราจะกลับไปยังจุดเดิมที่เคยเป็นมาก่อน”
ปัญหาเกี่ยวกับการระบาดของไวรัส โควิด-19 ส่งผลต่อทุกสโมสรทั่วโลก ในเรื่องของรายได้ของพวกเขา เช่นเดียวกับ บาร์เซโลน่า ซึ่งโดนผลกระทบรุนแรง อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาเดียวกับ บาร์เซโลน่า ซึ่งมีการ แต่งตั้ง โรนัลด์ คูมัน เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของสโมสร กลับตัดสินใจปล่อยตัว หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย ออกจากทีมแบบไม่มีค่าตัว ซึ่ง เมสซี่ ผิดหวังอย่างยิ่ง กับการตัดสินใจปล่อยตัวกองหน้า อุรุกวาโย่ ที่ร่วมสร้างความสำเร็จร่วมกันมาตลอดหลายปี
“มันบ้ามากที่ปล่อยให้ หลุยส์ ซัวเรซ ออกจากทีมแบบไม่มีค่าตัว ทีมยกเลิกสัญญากับเขาทั้งที่มันเหลือถึง 2 ปี และดันปล่อยให้เขาย้ายไปร่วมทีม แอตเลติโก มาดริด ทีมที่ลุ้นแชมป์ ลา ลีกา กับเราโดยตรง ตรงกันข้ามกับการเข้ามาของ คูมัน เขามาพร้อมกับความจริงจังมากกว่าเดิม มาพร้อมแนวคิดสำหรับทีม และสโมสร ผมคิดว่ามันคือการแต่งตั้งที่ดี แต่มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับ นักเตะใหม่ และนักเตะดาวรุ่ง ภายในทีม กับสถานการณ์ในฤดูกาลนี้ แต่พวกเขาก็ยังอยู่ขั้นตอนของการพัฒนาตนเอง”
ในช่วงเวลาที่ เมสซี่ ประกาศขอย้ายทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือหนึ่งสโมสรที่แสดงความชัดเจนในการอยากได้ตัว เมสซี่ มาร่วมงานด้วย โดยเฉพาะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เคยทำงานด้วยกันมาแล้ว
“ผมได้คุยกับ เป๊ป เกี่ยวกับเรื่องราวภายในสโมสร และเมืองแมนเชสเตอร์ มันมีอะไรบ้างที่นั่น แต่ไม่ได้หมายความว่า ผมจะกลับไปทำงานร่วมกันอีกครั้ง เราไม่ได้คุยกันในครั้งสุดท้ายที่เราได้คุยกัน กวาร์ดิโอล่า เป็นหนึ่งในคนที่ดีที่สุด ในเรื่องของการเตรียมความพร้อมของทีม ทั้งเรื่องการเล่นเกมรุก และเกมรับ เล่นอย่างไรให้ทีมชนะ ผมคิดว่าหากไม่นับ กวาร์ดิโอล่า ก็คงเป็นหลุยส์ เอนริเก้ ที่ซึ่งเข้ามาสู่ทีม และสอนอะไรมากมายให้กับผม และหลายเรื่องมันคือ เรื่องใหม่ ที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน”
ท้ายที่สุดแล้ว เมสซี่ ก็ยอมรับว่าในช่วงเวลาที่เขาเหลือสัญญากับ บาร์เซโลน่า อีกประมาณครึ่งปี ก่อนที่เขาจะกลายเป็น นักเตะ ไม่มีค่าตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งมันไม่ง่ายเลยสำหรับเขา ในการที่จะตัดสินใจในอนาคตของตนเอง
“ผมอยากบอกว่า มันไม่ง่ายเลยสักนิดเดียว ในการตัดสินใจอำลาสโมสรแห่งชีวิตของผม มันไม่ง่ายเลย แม้ว่าจะย้ายไปที่ไหนก็ตาม ครอบครัวของผมก็ไม่ได้ต้องการออกจากที่นี่ แต่ผมก็รู้สึกได้ดว่า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน สำหรับตัวผมเอง สำหรับสโมสร วัฎจักรนี้มันสิ้นสุดลงแล้วเช่นกัน”
ลิโอเนล เมสซี่ กับ บาร์เซโลน่า โดยกำลังเข้าสู่ฤดูกาลที่ 17 ของตนเอง ในฐานะของ นักเตะ บาร์เซโลน่า ชุดใหญ่ ซึ่งเขาได้ประเดิมสนามเป็นครั้งแรก ในฤดูกาล 2004-2005 และเวลานี้เขาคือ กัปตันทีมของ บาร์เซโลน่า คนปัจจุบัน โดยลงเล่นไปแล้วทั้งหมด 749 เกม ทำไปทั้งหมด 644 ประตู กับ 283 แอตซิสต์