ข่าวการตัดสินใจขอยกเลิกสัญญาของ เมซุต เออซิล (34 ปี สัญญาถึงกลางปี 2023) กลายเป็นแรงกระเพื่อมในกระแสข่าวรอบดึกของวันนี้ เพราะมีกระแสข่าวออกมาว่าเหตุของแห่งยกเลิกในครั้งนี้ของเขา หมายถึงการประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพที่เริ่มต้นไว้เมื่อ 17 ปีก่อนไว้ที่ตรงนี้ทันที
“เทพปรือ” ของแฟนบอลอาร์เซนอล ลงเล่นกับสโมสรอิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ ในตุรกี ซึ่งไม่ใช่ฤดูกาลที่ดีสำหรับเขาเลยสักนิด เมื่อผ่านมาเกินครึ่งฤดูกาลเขาเพิ่งลงเล่นไปเพียง 8 เกม และเป็นตัวจริงไปเพียง 3 เกม กับสโมสรที่เขาเพิ่งย้ายมาร่วมงานด้วยในฤดูกาลนี้
เออซิล เพิ่งผ่านการผ่าตัดใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิตการเล่นฟุตบอลอาชีพ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่หลังซึ่งเป็นหนึ่งในอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับเขามาตลอดเส้นทางอาชีพ และยิ่งเมื่ออายุมากขึ้น อาการบาดเจ็บก็ถามหามากขึ้นจนสุดท้ายมันส่งผลโดยตรงกับเขาในเรื่องของความฟิต โดยมีข้อมูลระบุว่านับเฉพาะอาการบาดเจ็บหลังเพียงอย่างเดียว เขาพลาดการเล่นมากเกิน 30 เกมตลอด 4 ปีและทำให้เขาตัดสินใจผ่าตัดเพื่อหวังให้ทุกอย่างดีขึ้น และนั่นทำให้เขาใช้เวลาพักฟื้นนานถึง 2 เดือน และต้องมาเข้าสู่การเรียกความฟิตของตนเองอีกประมาณเกือบหนึ่งเดือนรวมแล้ว 3 เดือนนิด ๆ ที่เขาไม่ได้ลงสนามเลย จนกระทั่งกลับมาลงเล่นในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา และลงเล่นในเกมล่าสุดที่บุกพ่าย เคเซริสปอร์ 1-0 นี่คือเกมแรกของเขาในฐานะตัวจริงในเกมลีกฤดูกาลนี้ แถมลงเล่นได้แค่ 45 นาทีก็โดนเปลี่ยนตัวออก ก่อนที่จะมีข่าวออกมาเกี่ยวกับการอำลาสนามที่ยังคงต้องรอว่า “จริง” หรือไม่
นับจากออกจากอาร์เซนอลในช่วงเดือนมกราคม 2021 เออซิล ย้ายไปเล่นฟุตบอลในตุรเคีย กับสโมสรเฟห์เนบาเช่ ซึ่งเริ่มต้นด้วยความตื่นเต้นของแฟนบอล และสุดท้ายจบลงด้วยความน่าผิดหวัง เมื่อ เออซิล รวมถึง โอซาน ตูฟาน เพื่อนร่วมทีมมีปัญหาทะเลาะรุนแรงกับ อิสมาลี่ คาร์ทาล ผู้จัดการทีมในเวลานั้น และทำให้เขาถูกแบนยาว ก่อนตัดสินใจยกเลิกสัญญากันในช่วงปิดฤดูกาลที่แล้ว และย้ายมาเล่นกับอิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ ในเวลาต่อมา
ก่อนหน้านี้ ด๊อกเตอร์ เออคุต โซกัต เอเยนต์ของเออซิล ก็เคยกล่าวเป็นนัย ๆ ว่า เออซิล เองมีความคิดเรื่องการอำลาวงการฟุตบอลบ้าง หลังจากยอมรับว่าตัวเขาเองก็ไม่ต้องการลงเล่นกับทีมไหนอีกแล้วนอกจาก เฟห์เนบาเช่ ซึ่งหากใครจำกันได้ เออซิล ในวันที่ย้ายไปเล่นที่นั่น เขาได้รับการต้อนรับดุจวีรบุรุษ ในขณะที่นอกสนาม เออซิล ผู้นับถือศาสนาอิสลาม ก็เป็นที่ชื่นชมของเหล่าแฟนบอลเสมอมา เช่นเดียวกับตัวนักเตะก็ชื่นชอบวิถีชีวิตที่นี่เป็นอย่างมากในฐานะของคนที่มีเชื้อสายตุรเคีย เพียงแต่ว่าทุกอย่างมันไม่เป็นไปตามที่หวัง
“ผมคิดว่าเขาจะไปลงเล่นฟุตบอลกับสใมสรไหนอีก ผมมองไม่เห็นเลยนะ มันควรเป็นที่เฟห์เนบาเช่ เท่านั้นแหละ เขาอาจจะเข้าสู่วงการอีสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ลงเล่นเป็นตัวเองในฐานะของนักกีฬาอีสปอร์ต ซึ่งเขาเองก็ทำได้ดี กับเกมฟอร์ทไนท์ ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้ามันจะเป็นแบบนั้น เขามีทีมของเขาเองชื่อ M10 Esports และเขาคือหนึ่งในทีม มีบ้านที่พร้อมสำหรับการเล่นเกมในเยอรมัน เขาชอบฟุตบอล ชอบเล่นเกมฟีฟ่า และฟอร์ทไนท์” โซกัต กล่าว
เออซิล บนวัย 34 ปี ไม่ได้อยู่ในช่วงที่ดีที่สุดในการเล่นฟุตบอลอีกแล้ว เขาผ่านการลงเล่นกับ ชาลเก้ 04 สโมสรแรกที่เขามองเห็นสนามแข่งผ่านทางโรงเรียนของเขาในวัยเด็ก และฝันว่าสักวันหนึ่งเขาจะกลายเป็นนักเตะของ “ราชันสีน้ำเงิน” เขาก็ได้สมหวังดังใจ ต่อมาเขากลายเป็น “ราชันชุดขาว” กับเรอัล มาดริด หนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ตามมาด้วยการเป็น “กันเนอร์ส” กับอาร์เซนอลที่เขามีช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดในระดับทีมชุดใหญ่กับสโมสรแห่งนี้ ที่ทำให้เขาได้รับความรักอย่างมากมายตั้งแต่วันแรกจวบจนวันสุดท้ายของการเป็นนักเตะที่นั่น ได้ย้ายมาเล่นกับเฟห์เนบาเช่ อีกหนึ่งทีมที่เขาหลงรัก และแน่นอนที่สุดเขาเคยผ่านการเป็นแชมป์โลกกับทีมชาติเยอรมัน ประเทศที่เขาบางครั้งก็เป็นดั่งเทวา บางเวลาก็เป็นดั่งซาตาน ในความเห็นของเขา จากที่มาของวลี “ผมเป็นเยอรมันเมื่อเราเป็นผู้ชนะ แต่ผมเป็นผู้อพยพเมื่อเราพ่ายแพ้” พร้อมการอำลาทัพอินทรีเหล็กอย่างน่าเสียดาย
นอกสนามฟุตบอล ชีวิตของเออซิล เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายที่หลายคนยังคงจำได้ เขามีโปรเจคต์ที่ชื่อว่า Bigshoe ซึ่งช่วยเหลือเด็กผู้ยากไร้ หรือในช่วงโควิด-19 ที่เขาออกมาช่วยเหลือสังคมในย่านลอนดอนเหนือกับการบริจาคอาหารให้คนยากไร้ รวมถึงที่มีข่าวว่าเขายินดีมอบเงินจำนวนหนึ่งเป็นเงินเดือนให้กับคนสวมมัสคอต “กันเนอร์สเซารัส” มัสคอตของสโมสรให้เดินหน้าต่อไป หลังจากต้องออกจากงานในช่วงเวลาที่ไวรัสระบาดทั่วโลก
นอกจากนี้การทำธุรกิจเครื่องประทินผิวแบบออแกนิคร่วมกับ มาติเยอ ฟลามินี่ เพื่อนซี้ที่เคยร่วมเล่นกันที่อาร์เซนอล รวมถึงการมีร้านค้าและอีกหลายอย่างภายใต้แบรนด์ M10 ของเขา และยังไม่รวมถึงการถือหุ้นในสโมสรฟุตบอล เนกาซ่า ในประเทศเม็กซิโก เรียกว่าชีวิตของเขามีอะไรที่ถูกปูทางรอชีวิตหลังการเล่นฟุตบอลเอาไว้มากมาย รองรับเขาอยู่แล้วเรื่อยมา ยังไม่รวมถึงเรื่องของการเป็นกระบอกเสียงให้กับชาวมุสลิมทั่วโลกที่ในหลายครั้ง เสียงของเขาในโลกออนไลน์ก็ดังไปทั่ววงการฟุตบอล
ดังนั้นถึงตรงนี้ หาก เออซิล จะประกาศการอำลาวงการฟุตบอลทันที ไม่รอหมดสัญญา ซึ่งกำลังจะหมดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไร…แค่ตกใจ และใจหายเล็กน้อย เพราะกับวงการนี้เขาไม่มีอะไรต้องเสียใจหรือยี่หระมันอีกต่อไปแล้ว เมื่อมันไม่มีใจ การจบเรื่องราวก็คือทางเลือกที่เหมาะสม
บนวัย 34 ปี เส้นทางของฟุตบอลจบลงแล้ว แต่เส้นทางชีวิตยังเพิ่งเข้าสู่ช่วงกลางเรื่องราวเท่านั้น และบทใหม่ของชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป มันก็ยังคงน่าติดตามอยู่เหมือนเดิมนั่นละ