หลังจากปล่อยให้ข่าวออกมาสักระยะหนึ่งในที่สุดก็เป็นความจริงแล้ว สำหรับการกลับมาสู่ พรีเมียร์ ลีก อีกครั้งในรอบ 10 ปีของ ปาทริค วิเอร่า (45 ปี สัญญาถึงกลางปี 2024) กับการรับงานคุมทีม คริสตัล พาเลซ สโมสรในพรีเมียร์ ลีก ร่วมกรุงลอนดอน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขาดอีกเพียง 9 วันจะครบวันที่เขาประกาศอำลาการเป็น นักเตะ อาชีพ โดยเขาเลิกเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นสโมสรสุดท้ายในวันที่ 14 กรกฎาคม 2011 หรือว่าเหมารวมว่า 10 ปีแล้วที่ “เดอะ ปั๊ต” เลิกเล่นฟุตบอล และเข้าสู่วงการงานโค้ช โดยเริ่มต้นในส่วนของงาน อะคาเดมี่ ฟุตบอล ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนตามด้วยทีมเยาวชนของสโมสร และก้าวไปเป็นนายใหญ่เต็มตัวครั้งแรกในสโมสร นิวยอร์ค ซิตี้ เอฟซี สโมสรซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ของทีม “เรือใบสีฟ้า” ในเมเจอร์ ลีก สหรัฐอเมริกา ในปี 2016 ก่อนที่อีกสองปีต่อมาจะกลับสู่วงการฟุตบอลยุโรปด้วยการคุมทีม นีซ ใน ลีก เอิง ฝรั่งเศส ประเทศที่ทำให้เขากลายเป็น นักเตะ แชมป์โลก และแชมป์ยุโรป ซึ่งเป็นงานล่าสุดที่เขาคุมทีมได้ประมาณ 2 ฤดูกาลครึ่งก็โดนปลดออกจากทีม หลังจากผลงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ก่อนที่เขาจะพักงานไปราว ๆ ครึ่งปี ซึ่งช่วงระหว่างนั้นเขามีข่าวเป็นส่วนหนึ่งของอดีต นักเตะ อาร์เซนอล ร่วมกับ เดนนิส เบิร์กแคมป์ และ เธียร์รี่ อองรี ในการสนับสนุน ดาเนียล เอ็ก หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Spotify ขอซื้อหุ้นสโมสรอาร์เซนอล จาก สแตน โครเอนเก้ ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา
วิเอร่า เป็นหนึ่งในอดีต นักเตะ ที่เข้าสู่วงการโค้ช ไล่เลี่ยกับ แฟรงค์ แลมพาร์ต, เวย์น รูนีย์ หรือว่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด รวมถึงอีกหลายคนที่รุ่นราวคราวเดียวกัน แม้ว่าจะยังไม่ประสบความสำเร็จใด ๆ ในแง่ของถ้วยรางวัล แต่ก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์มากพอตัว และนั่นตรงกับทางเลือกของ คริสตัล พาเลซ ที่อยากได้พอดี
“อินทรีแก้ว” คริสตัล พาเลซ ประกาศแยกทางกับ รอย ฮอดจ์สัน วัย 73 ปี หลังจากคุมทีมมา 4 ปี และ “ปู่รอย” ยังไม่มีการยืนยันว่าจะ อำลาวงการคุมทีมหรือไม่ แต่สำหรับ คริสตัล พาเลซ พวกเขาเลือกสายเลือดใหม่เข้ามารับช่วงต่อแทน
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ทางเลือกแรกของ คริสตัล พาเลซ แต่ก็เป็นทางเลือกที่สามารถตกลงกันได้ บนเป้ามายที่ บอร์ดบริหาร ต้องการให้ทีมเป็นทีมที่มีสัดส่วนของ นักเตะ อายุน้อยเข้ามามากขึ้น จากที่หลายปีที่ผ่านมา ค่าเฉลี่ยอายุนักเตะค่อนข้างสูงมาก โดย วิเอร่า ในการคุมทีมเขามีระบบที่ใช้งานบ่อยครั้งในระบบ 4-1-4-1 ที่สามารถปรับมาเป็น 4-2-3-1 ได้ด้วย
งานแรกของ วิเอร่า กับ คริสตัล พาเลซ นั้นคือเรื่องของการต่อสัญญา นักเตะ ในทีมหลายคน พาเลซ มีนักเตะมากถึง 14 คนที่หมดสัญญาเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งมีชื่อของทั้ง พาทริค ฟาน ฮานโฮลต์, มามาดู ซาโก้, สกอตต์ แดน, เจฟฟรีย์ ชลูปป์ หรือว่า แอนดรอส ทาวน์เซ่น รวมอยู่ในนั้นด้วย
นอกจากนี้ วิเอร่า ยังคงรอคอย นักเตะ หลายคนกลับมาจากภารกิจทีมชาติ ไม่ว่าจะเป็น คริสติยอง เบนเตเก้ (เบลเยี่ยม) เป็นต้น รวมถึงจะไม่มี เอเบเรชี เอเซ่ และ เนธาน เฟอร์กูสัน สองนักเตะที่เจ็บยาวว่าจะอย่างไรต่อไป โดยที่ หัวใจสำคัญที่สุดของทีมคือ วิลฟรีด ซาฮา ซึ่งมีข่าวย้ายออกแทบทุกฤดูกาล ในปีนี้เขาจะอยู่กับทีมต่อไปหรือไม่ ในขณะที่สัญญาจะหมดลงในกลางปี 2023
ซึ่ง วิเอร่า คงต้องเริ่มต้นจัดการตรงนี้เป็นอันดับแรกว่า ใครจะได้อยู่ต่อ หรือใครจะหาทีมใหม่ได้เลย เพราะ พวกเขามีทั้ง นักเตะ ที่หมดสัญญาแล้วมากเกินไป ครั้นจะเก็บไว้ทั้งหมด นักเตะ ก็มากเกินกว่าที่เก็บไว้ เพราะต้องเสริม นักเตะ ใหม่เข้ามาด้วย และแน่นอนว่า สตีฟ แพร์ริช ประธานสโมสรของ คริสตัล พาเลซ ก็เตรียมงานนี้ไว้รอแล้ว
“เรามีการเตรียมทำอะไรหลายอย่างในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ แน่นอนมันคือการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดร่วมกับ ปาทริค และเราจะมีการนำ นักเตะ หน้าใหม่เข้ามาหลายคนเพื่อช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จ”
นับเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่อีกครั้งของ พาเลซ หลังจากที่ในปี 2017 พวกเขาเคยลองใช้งานกุนซือหนุ่มอย่าง แฟรงค์ เดอ บัวร์ เข้ามารับงานแล้ว ผลออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ หลังจากคุมทีมเพียงไม่กี่เกม ก็โดนปลดออก จนต้องนำ รอย ฮอดจ์สัน กลับมาทำงานด้วย ขณะที่ วิเอร่า เองก็นับเป็นความท้าทายใหม่ของเขา ในเวทีเดิมที่ห่างหายไปนาน 10 ปี แม้จะมีการออกสื่อพูดคุยถึง พรีเมียร์ ลีก อยู่บ่อยครั้งก็ตาม แต่ก็อย่างที่คนเคยกล่าวไว้ว่า พูดง่ายกว่าทำ เสมอ ไม่เชื่อลองถาม แกรี่ เนวิลล์ หรือ รอย คีน ดูได้ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า
ขอต้อนรับกลับบ้าน ปาทริค สงครามบทใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว