เส้นทางสายขรุขระแห่งความพยายามของ “เอดูอาร์ เมนดี้”

     เขาไม่สามารถหางานในวงการฟุตบอลได้ และตัดสินใจเดินเข้าสู่กระบวนการของการเป็นคนว่างงาน และมองหางานใหม่ แน่นอนระหว่างหางานใหม่ เขาก็กลับไปที่ เลอ อาฟร์ เพื่อขอลงซ้อมทีมด้วยในแบบที่ตนเองไม่ได้มีชื่อลงทะเบียนแข่งขันใด เขาลงซ้อมเพราะต้องการรักษาความฟิต และจังหวะในการเล่นเท่านั้น

     หนึ่งปีผ่านไป “โอกาส” ครั้งใหม่มาถึง เมื่อปลายสายหนึ่งโทรเข้ามาหาเขา เท็ด ลาร์วี่ อดีตกองกลางของ เชอร์บูร์ก เพื่อนเก่าของเขาติดต่อเข้ามาบอกว่า เขาได้คุยกับ โดมินิค เบอนาโตวิช เพื่อนของเขาซึ่งทำงานโค้ชให้กับสโมสร โอลิมปิก มาร์กเซย์ เกี่ยวกับ เมนดี้ ทำให้สุดท้าย เมนดี้ ได้เข้าไปทดสอบความสามารถกับ “โอแอม”

     “มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก จังหวะลงตัว โอแอมกำลังมองหานายทวารมือสาม หรือว่ามือสี่ในทีม พอ ลาร์วี่ โทรมาหาผม บอกเรื่องเกี่ยวกับ เมนดี้ ผมก็คิดว่าน่าสนใจ เลยได้คุยกับ เมนดี้ และบอกเขาให้มาทดสอบความสามารถ เขาดีใจมากที่ผมติดต่อหาเขา” เบอนาโตวิช กล่าว

     เมนดี้คว้าโอกาสของเขาอย่างสุดตัว และสร้างความประทับใจอย่างยิ่งให้กับ เบอนาโตวิช สุดท้ายก็มีการเซ็นสัญญากับเขา พร้อมกับการส่งเขาลงเล่นในทีมสำรองของ โอแอม พ่วงด้วยตำแหน่งนายทวารมือสี่ของสโมสร

     “เขาเต็มที่มากกับงานของเขา ถ้าเราบอกว่า 8 โมงเช้าเจอกัน เขาจะไม่ทำให้คุณเสียเวลารอเขา ผลงานก็ดี สิ่งที่ขาดไปคือโอกาสในการลงเล่นเท่านั้น ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่ได้ลงสนามระดับอาชีพสักที สุดท้ายผมอยากเซ็นสัญญาเขาเข้าทีม มาร์กเซย์ หนึ่งปี แต่มาร์กเซย์ เป็นสโมสรที่มีความซับซ้อนมาก สุดท้ายการเซ็นสัญญาไม่เกิดขึ้น”

     ด้วยความที่จะเรียกว่า เอ็นดู และอยากให้โอกาสกับ เมนดี้ แม้การเซ็นสัญญากับ มาร์กเซย์ จะไม่เกิดขึ้น แต่ เบอนาโตวิช ก็แนะนำ เมนดี้ ให้กับ ไรม์ สโมสรใน ลีก เดอซ์ ดิวิชั่นสองของฝรั่งเศส ซึ่งตกลงรับตัวเขาไปเล่นด้วย จากมือสี่ที่มาร์กเซย์ กลายมาเป็นมือสองที่ไรม์ ความจริงเข้าใกล้ไปอีกขั้น จนกระทั่ง นายทวารมือหนึ่งของทีมโดนไล่ออกระหว่างเกมที่พบกับ อาเมียงส์ ฝันการเล่นระดับอาชีพครั้งแรกของ เมนดี้ ก็เริ่มขึ้น แม้ว่ามันจะมาหาเขาตอนอายุ 23 ปี ช้าไปหน่อย แต่เขาก็ไม่ปล่อยให้มันหลุดมือ

     เมนดี้ กลายเป็นมือหนึ่งของทีมอย่างต่อเนื่อง ไรม์ เลื่อนชั้นมาเล่นในลีก เอิง ในปี 2018 โดย เมนดี้ คือมือหนึ่งเก็บ 19 คลีนชีต จาก 38 เกม กลายเป็น นายทวารฟอร์มเยี่ยมของลีกรอง ที่ผู้คนเริ่มให้ความสนใจ รวมถึง เอฟซี ปอร์โต้ และ คริสตอฟ โลลิคอน โค้ชนายทวารของเชลซี

     เขาลงเล่นกับ ไรม์ ในลีก เอิง แบบเต็มฤดูกาล 38 เกมรวด ทีมจบอันดับ 8 ในลีก เอิง ส่วนเขาเก็บคลีนชีตได้มากถึง 14 เกม ติดท๊อป 3 ของลีก ในการไม่เสียประตู แน่นอนผลงานเปล่งปลั่งขนาดนี้ ไรม์ เล็กเกินไปสำหรับเขาเสียแล้ว

     การเซ็นสัญญากับ แรนส์ เกิดขึ้นในช่วงปิดฤดูกาล เขากลายเป็น นักเตะ มีค่าตัวอยู่ที่ 4 ล้านยูโร จาก 3 ปีที่แล้ว เขาไม่มีค่าตัวแม้เพียง หนึ่งยูโร แต่ตอนนี้เขากลายเป็นมือหนึ่งของทีม และมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้ แรนส์ จบฤดูกาลที่มีปัญหาเรื่องไวรัส โควิด-19 ระบาด ด้วยการไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก