จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (31 ปีสัญญาถึง มิถุนายน 2023) กัปตันทีม ลิเวอร์พูล กลายเป็นข่าวน่าสนใจทันที หลังจากที่เขายังไม่สามารถตกลงสัญญาใหม่จากสโมสร
ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ซึ่ง ณ เวลานี้ ประเทศอังกฤษ กำลังปรับชีวิตเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับไวรัสนี้กันต่อไป สโมสรฟุตบอลก็เริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติกันทีละนิด แม้ว่าคงไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว แต่ชีวิต และแผนงานของแต่ละทีมก็ยังคงเดินหน้าต่อไป
ลิเวอร์พูล ซึ่งนำโดย ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ด ผู้อำนวยการกีฬาของสโมสร ลิเวอร์พูล เริ่มดำเนินการในเรื่องของการต่อสัญญาใหม่ นักเตะ หลายคน หนึ่งในนั้นคือ อลิสซอน เบคเกอร์ (28) นายทวารทีมชาติบราซิล ซึ่งคาดว่าจะเซ็นยาวกันจนถึงปี 2026 นอกนั้นก็มีการเปิดการเจรจากับ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ (30), โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ (29) รวมถึง ซาดิโอ มาเน่ (29) ไปบ้างแล้ว
มองในกลุ่มคนที่สัญญาหมดในกลางปี 2022 เจมส์ มิลเนอร์ (35) มีโอกาสเป็นไปได้ทุกทางทั้งต่อสัญญาใหม่เพิ่มอีกหนึ่งปี, หมดสัญญาปล่อยฟรี และเลิกเล่น ด้วยวัยเช่นเขาทุกอย่างเป็นไปได้หมด ส่วนที่เหลือ ทั้ง อาเดรียน (34), ลอริส คาริอุส (28), ดิวอค โอริกี (26) และ เบน วู้ดเบิร์น (21) พวกนี้บางคนหมดอนาคตไปแล้ว บางคนสำรอง ดูแล้วมีโอกาสไม่ได้รับสัญญาใหม่กันทั้งหมด และอาจจะย้ายออกในช่วงตลาดรอบนี้ เพื่อไม่ให้ ลิเวอร์พูล ไม่ได้อะไรกลับมาจากพวกเขาเลย หากปล่อยให้ถึงเดือนมกราคม 2022
อย่างไรก็ตามยกเว้น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ แม้ว่าดีลจะไม่ถึงกับล่ม แต่ความต้องการของสโมสร และ นักเตะ ยังหาบทสรุปกันไม่ลงตัว โดยเฮนเดอร์สัน วัย 31 ปี กำลังอยู่ในช่วงการพักผ่อน หลังจบภารกิจยูโร 2020 กับทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเป็น ทัวร์นาเมนต์ ที่ “เฮนโด้” หลุดเป็นตัวสำรองของ คัลวิน ฟิลลิปส์ และ ดีแคลน ไรซ์ ซึ่งทำผลงานได้อย่างโดดเด่น
เฮนเดอร์สัน อยู่กับ ลิเวอร์พูล มาตั้งแต่ปี 2011 จากสโมสรซันเดอร์แลนด์ ในยุคของ เคนนี่ ดัลกลิช ที่กลับมาคุมทีมรอบที่สอง และก็เป็นตัวหลักมาโดยตลอด โดยมีเพียงปี 2015 ซึ่งเขาเป็นกัปตันทีมของ ลิเวอร์พูล ต่อจาก สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่เขาบาดเจ็บหนักไปพักใหญ่จนลงเล่นในลีกเพียง 17 เกม และล่าสุดก็คือในฤดูกาลที่ผ่านมา “เฮนโด้” บาดเจ็บอีกครั้ง และลงเล่นไปเพียง 21 เกมเท่านั้นใน พรีเมียร์ ลีก นอกนั้นเขาลงเล่นมากกว่า 50 % ในลีกทั้งหมด ผ่านการเล่นมากกว่า 300 เกมให้กับทีม และเป็นกัปตันทีมคนแรกของ ลิเวอร์พูล ที่ได้ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ ลีก
สาเหตุที่การเจรจาของ เฮนเดอร์สัน มีปัญหามีด้วยเหตุผลสองเรื่องสำคัญ 1. อายุที่มากกว่า 30 ปี 2. อาการบาดเจ็บ โดยเฉพาะเรื่องของอายุ นั้นเป็นส่วนสำคัญมากในเรื่องของสัญญา
กลุ่มเฟนเวย์ สปอร์สต กรุ๊ป หรือ (เอฟเอสจี) ของ จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ มีนโยบายในเรื่องเกี่ยวกับ การพัฒนา นักเตะ เยาวชนสายเลือดใหม่เข้ามาสู่ทีม เหมือนกับเคสของ จอร์นิจิโอ ไวด์นัลดุม ที่ไม่สามารถตกลงสัญญาใหม่ได้ จนสุดท้ายเสียเขาไปอย่างไม่มีค่าตัว และย้ายไปร่วมงานกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เรียบร้อยในฤดูกาลนี้
ลิเวอร์พูล เริ่มที่จะมองหาทางเลือกใหม่ในเรื่องของ นักเตะ เยาวชนเข้ามา ซึ่งตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง พวกเขาเข้าชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก สองครั้งในสามปี และคว้าแชมป์ได้หนึ่งสมัย เช่นเดียวกับการสิ้นสุดการรอคอย 30 ปี ด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ รวมถึงการก้าวไปสู่จุดสูงสุดกับการคว้าแชมป์สโมสรโลก
โดย นักเตะ ที่อยู่กับทีมนานที่สุดก็คือ เฮนเดอร์สัน นอกนั้นส่วนมาก นักเตะ เข้ามาตั้งแต่ปี 2015 เสียเป็นต้นไป นักเตะหลายคนนั่นหมายถึงอยู่กับทีมนานประมาณ 6 ปี และนั่นทำให้ นักเตะ หลายคนเริ่มเข้าสู่ช่วงปลายอาชีพของการเล่นกันหลายคน และนั่นจะเป็นปัญหาอย่างแน่นอน หากทีมไม่สามารถหา นักเตะ สายเลือดใหม่ หรืออายุน้อยลงมาแทนที่ แต่จะให้มาแทนที่หลายคนพร้อมกันก็ไม่ได้ จึงต้องใช้วิธีการปรับทีมทีละส่วน เพื่อให้ผลงานของทีมยังคงรักษามาตรฐานได้ด้วย
นักเตะอย่าง เคอร์ติส โจนส์, เนโก วิลเลี่ยมส์ หรือ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ เหล่าหงส์หนุ่มทั้งหลายก็ได้รับการผลักดันขึ้นมาเพื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบทีม เรียนรู้ และรับประสบการณ์จากเหล่า รุ่นพี่ ถูกจับส่งลงสนามเล่นดีบ้าง ไม่ดีบ้าง พลาดบ้าง แต่ นักเตะ ซีเนียร์ ในทีมก็ยังคงช่วยประคองเกมให้รอดไปได้ในแต่ละเกม เช่นเดียวกับการเสริมทีมที่ ลิเวอร์พูล ก็จะเลือก นักเตะ คุณภาพดี อายุน้อย เข้ามาเป็นเป้าหมายหลัก อย่างการได้ตัว อิบราฮิม โกนาเต้ วัย 22 ปี ก็ชัดเจนว่านี่คือ อนาคตระยะยาวอย่างน้อย 5 ปีกับทีม ทดแทน เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ ที่ถึงเวลานั้นก็จะใกล้ครบ 35 ปีเต็มทน
อย่างไรก็ตาม เฮนเดอร์สัน เป็นหนึ่งในคนสำคัญของทีม ไม่ใช่แค่เพราะการเป็นกัปตันทีม แต่เขายังเป็นคนสำคัญในห้องแต่งตัว เป็นคนที่สามารถรวมเพื่อนในทีมได้ แม้กระทั่ง นักเตะ สโมสรอื่น ก็เคารพในตัวเขาไม่น้อย ซึ่งตรงนี้ ลิเวอร์พูล คงต้องทำการบ้านอย่างหนัก ก่อนตัดสินใจว่าสุดท้ายแล้ว เฮนเดอร์สัน ควรจะยื่นสัญญาเพื่อเก็บเขาไว้ต่อไปหรือไม่ เช่นเดียวกับการต้องเตรียมการในการปล่อย นักเตะ อีกหลายคนที่จะไม่ใช้งาน หรืออยู่ในสภาพตัวสำรองให้ได้เช่นกัน
เฮนเดอร์สัน และ ลิเวอร์พูล ยังคงมีเวลาอีกหนึ่งฤดูกาลเป็นอย่างน้อยในการพูดคุยกัน หากไม่มีสโมสรใดยื่นข้อเสนอเข้ามาในช่วงนี้ แต่สำหรับ เฮนเดอร์สัน ชัดเจนมานานตั้งแต่ปี 2018 แล้วว่า เขาอยากอยู่กับ ลิเวอร์พูล จนกระทั่งเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ
“ไม่มีที่ไหนที่ผมจะรักในการลงเล่นฟุตบอลเท่ากับที่ลิเวอร์พูลอีกแล้ว ผมต้องการอยู่ที่นี่ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
ลิเวอร์พูล ล่ะคิดเห็นอย่างไร…รอติดตามกันต่อไปครับ
Copyright © 2019 UFA6556 แทงบอลออนไลน์ มั่นคง ปลอดภัย อันดับหนึ่งเมืองไทย | All right reserved.