30 ปีพรีเมียร์ ลีก พวกเขาอยู่ไหนกันบ้าง [Part1]

ฤดูกาล 2022-2023 เป็นอีกหนึ่งฤดูกาลของพรีเมียร์ ลีก ที่ยังน่าตื่นเต้นอยู่เสมอในวาระครบรอบ 30 ปีแห่งการเปลี่ยนชื่อจาก ดิวิชั่นหนึ่งอังกฤษ มาเป็น พรีเมียร์ ลีก ฟุตบอลลีกจากเกาะอังกฤษก็โด่งดังไปทั่วโลก

ในฤดูกาล 1992-1993 กลายเป็นฤดูกาลที่กลายเป็นตำนานแห่งจุดเริ่มต้นอย่างช่วยไม่ได้ และมันก็มีภาพจำที่หลายคนได้เห็นอยู่กับการเชิญตัวแทนนักเตะของทั้ง 22 ทีม [จนถึงฤดูกาล 1995-1996 จะลดจำนวนทีมเหลือเพียง 20 ทีมแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน] มาถ่ายภาพร่วมกันเพื่อเป็นการต้อนรับการแข่งขันเดิมในชื่อใหม่นี้

ผ่านมาสามทศวรรษพอดี เรามาดูกันหน่อยครับว่า 22 คนในภาพเหล่านี้ เขาคือใครและใครกันบ้างที่คุณยังคงจดจำเขาได้

หมายเหตุ: จะเรียงตามตำแหน่งการยืนของผู้เล่นในภาพเริ่มจากแถวบนจากซ้าย

4คนแรกแถวบน

เดวิด เฮิร์ส [เชฟฟิลด์ เว้นสเดย์]

กองหน้าระดับตำนานของทีมที่ซึ่งมีดีกรีทีมชาติอังกฤษมาแล้ว ลงเล่นกับทีมมาจนถึงปี 1997 และก็ย้ายไปเล่นกับเซาธ์แธมป์ตันจนถึงปี 2000 เขาเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพที่นั่น ก่อนจะกลับมารับงานโค้ชให้กับเชฟฟิลด์ เว้นสเดย์

ลี ชาร์ป [แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด]

ปีกสุดหล่อเวลานั้นอายุแค่ 21 ปี เขาเฟี้ยวทั้งหน้าตา และลีลาในสนาม แต่หลังจากได้แชมป์พรีเมียร์ ลีก สามสมัย เขาก็เลือกย้ายไปเล่นกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด แต่ก็เจอกับอาการบาดเจ็บรบกวนอย่างหนัก สุดท้ายชีวิตพลิกผันกลายเป็นนักเตะพเนจรไปทั่วลงเล่นแบบสโมสรละปี บางสโมสรก็ไม่ถึงปี สุดท้ายจบการเล่นฟุตบอลในปี 2004 กับ การ์ฟอร์ท ทาวน์ สโมสรในลีกล่าง หลังจากนั้นเขาก็สู่วงการสื่อมวลชน หลายรายการมาก แต่ก็มีปัญหาเรื่องการเงินอยู่พอสมควร ทุกวันนี้เรายังคงจะได้เห็นเขาในโลกออนไลน์อยู่บ้าง และเขามีธุรกิจบาร์ของตนเองอยู่ในสเปน ซึ่งเขาตัดสินใจย้ายไปใช้ชีวิตที่นั่น

โทนี่ ดาลีย์ [แอสตัน วิลล่า]

ปีกอีกคนที่ได้ชื่อว่าผ่านทีมชาติอังกฤษมาแล้ว ณ เวลานั้นที่ถ่ายภาพนี้เขาอายุประมาณ 22 ปี กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มสดมาก เขาติดทีมชาติอังกฤษไปเล่นในยูโร 1992 รอบสุดท้าย ได้แชมป์ ลีก คัพ กับแอสตัน วิลล่า ซึ่งเป็นแชมป์เดียวตลอดชีวิตการเล่นฟุตบอลของเขา ก่อนย้ายไปเล่นกับวูลฟ์ส, วัตฟอร์ตไปจนถึงทีมระดับล่างอบ่าง ฟอเรสต์ กรีน โรเวอร์ส ที่เป็นทีมสุดท้ายของเขาในปี 2002

หลังจากเลิกเล่นเขาไปเรียนเกี่ยวกับงานโค้ชด้านฟิตเนส และก็ทำงานกับสโมสรฟุตบอลหลายสโมสร ก่อนที่สุดท้ายจะผันตัวมารับงานเป็น โค้ชฟิตเนสส่วนตัวในยิมแห่งหนึ่งในบ้านเกิด

วินนี่ โจนส์ [เชลซี]

โจนส์ กับสีเสื้อของเชลซี อาจจะไม่เป็นภาพจำของเขาเท่ากับสมัยเล่นกับ วิมเบิลดัน ที่เขาลงเล่นถึงสองช่วงเวลาตลอดอาชีพของเขา เพราะเขาเล่นกับเชลซีแค่ปีเดียวในฤดูกาล 1991-1992 พอมาเป็นพรีเมียร์ ลีก หลังจากถ่ายภาพนี้ได้ไม่นานนักเขาก็ย้ายกลับไปเล่นกับวิมเบิลดัน และไปสร้างเรื่องราวในฐานะของผู้นำ “เครซี่แก๊งค์” ไว้มากมายจนสุดท้ายเลิกเล่นกับ ควีนสพาร์ค เรนเจอร์ส ในปี 1999 หลังจากนั้นชีวิตของเขาก้าวไปสู่อีกเส้นทางนั่นคือวงการบันเทิงในระดับฮอลลีวู้ด ที่เขาเล่นทั้งภาพยนตร์ และซีรีส์หลายเรื่องด้วยกัน ทุกวันนี้ก็ยังคงมีงานของเขาให้เราได้เห็นกันอยู่เรื่อย ๆ

ถัดมา ลิเวอร์พูล อิปสวิช เซาธ์แธมป์ตัน และ แบล็กเบิร์น

มาร์ค ไรท์ [ลิเวอร์พูล]

แนวรับหงส์แดงตอนนั้นอายุ 29 ปีแล้ว เขาลงเล่นกับลิเวอร์พูลเป็นทีมสุดท้ายของชีวิตกับการเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพตอนปี 1998 หลังผ่านเกมมากกว่า 400 เกมตลอดเส้นทางอาชีพ และทีมชาติอังกฤษอีก 45 เกม หลังจากนั้นเขาเลือกไปรับงานคุมทีมในลีกรอง เส้นทางการคุมทีมของเขาไม่สวยหรูเท่าไรนัก และทุกวันนี้ก็ไม่ได้คุมทีมแล้ว คุณยังได้เจอเขาตามกิจกรรมต่าง ๆ ของพรีเมียร์ ลีก รวมถึงกับทางสโมสรลิเวอร์พูล

จอห์น วาร์ค [อิปสวิช ทาวน์]

กองกลางหนุ่มวัย 25 ปีในเวลานั้นลงเล่นกับทัพม้าขาวจนถึงปี 1997 และเขาเลิกเล่นด้วยวัย 39 ปี! ในฐานะของนักเตะที่อยู่กับสโมสรมากถึง 3 ช่วงเวลาตลอดการเล่นฟุตบอล 22 ปีของเขา ในฐานะกองกลางที่ต้องบอกว่าเป็นจอมถล่มประตูคนหนึ่ง วาร์ค มีชื่อในทำเนียบดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของสโมสรเป็นลำดับสาม และเคยได้ชื่อว่าเป็นนักเตะลิเวอร์พูลมาแล้วด้วยกับการลงเล่นกับทีมนานถึง 4 ปี โดยเขาผ่านการได้แชมป์ทั้งกับสองสโมสรมาเพียบ รวมถึงเคยได้ชื่อว่าเป็นดาวยิงสูงสุดของยูฟ่า คัพ ในฤดูกาล 1980-1981 ที่ปีนั้นอิปสวิช ทาวน์ คว้าแชมป์ได้อีกต่างหาก

หลังจากเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ เขายังคงเล่นฟุตบอลระดับสมัครเล่นเป็นครั้งคราว ได้รับการยกย่องให้เป็นตำนานของอิปสวิส ทาวน์ และเป็นที่รักของเหล่าแฟนบอลที่ยังคงจำวันคืนอันงดงามในยุค 80 อันรุ่งเรืองของพวกเขาได้ดี

ทิม ฟลาว์เวอร์ส [เซาธ์แธมป์ตัน]

ณ วันที่ถ่ายภาพนี้ เคียงข้างกับ ทิม เชอร์วู้ด ของแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ที่ยืนข้างกันโดยที่ ฟลาวเวอร์ส ไม่รู้หรอกว่าอีกหนึ่งปีต่อมาพวกเขาสองคนจะกลายเป็นเพื่อนร่วมทีมกันในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก สมัยแรก และสมัยเดียวของสโมสรในปี 1994-1995 ที่ส่งให้ทีมชุดนั้นถูกยกขึ้นหิ้งไปเรียบร้อยในฐานะประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของวงการฟุตบอล เขาเลิกเล่นในปี 2003 และเข้าสู่การคุมทีมข้างสนาม ปัจจุบันเขาทำงานกับสโมสร สแตรทฟอร์ด ทาวน์

ทิม เชอร์วู้ด [แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส]

กัปตันทีมแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ชุดแชมป์พรีเมียร์ ลีก ในปี 1994-1995 ผ่านช่วงเวลาแบบขึ้นสุดลงสุดกับทีมมาตลอดทั้งการได้แชมป์ไปจนถึงการตกชั้น เขาย้ายไปเล่นกับสเปอร์สในปี 1999 ก่อนจะย้ายออกไปเล่นกับพอร์ทสมัธ และโคเวนทรี ซิตี้ เป็นสโมสรสุดท้ายในปี 2005 หลังจากนั้นเขาไปเรียนงานโค้ช ควบคู่กับการทำงานสื่อมวลชน และสุดท้ายก็ได้มาลองคุมทีมสเปอร์ส และแอสตัน วิลล่า ซึ่งกับทีมหลังเขาได้คุมทีมลงเล่นในเกมเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศมาแล้ว แต่ก็จบด้วยความผิดหวังในเกมชิงดำ ปัจจุบันเขาไม่ได้รับงานอะไรเกี่ยวกับฟุตบอล แต่ยังคงอยู่ในวงการสือมวลชนอยู่

เอียน ไบร์ทเวลล์ [แมนเชสเตอร์ ซิตี้]

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในยุคที่ต้องบอกว่าพวกเขาเป็นทีมกลางตาราง แต่ไบร์ทเวลล์ก็มีความสุขกับการเล่นให้กับทัพ “เรือใบสีฟ้า” เพราะเขาคือนักเตะเยาวชนของสโมสรที่ก้าวมาสู่ชุดใหญ่และเล่นกับทีมมากกว่า 12 ปี เขาอยู่กับทีมจนถึงปี 1998 ก็ย้ายออกจากทีมไป และสุดท้ายเลิกเล่นฟุตบอลในปี 2006 กับทีมแมคเคิ่ลฟิลด์ ทาวน์ ปัจจุบัน เขาทำงานกับ บีบีซี ในเมืองแมนเชสเตอร์ บ้านเกิดที่เขารักและใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตอยู่ที่นี่

เอียน บัตเตอร์เวิร์ท [นอริช ซิตี้]

หากใครที่มองว่า นอริช ซิตี้ ในยุคนี้เป็นพวกทีมหนีตกชั้นทุกปีแล้วจะคิดว่า บัตเตอร์เวิร์ท อยู่ในทีมแบบนั้นต้องบอกว่าพลาดมหันต์ เพราะในยุคต้นทศวรรษ 90 นอริช ซิตี้ คือทีมลุ้นแชมป์ ลีก และพวกเขาไปเขย่าเวทียุโรปมาแล้วนักต่อนัก บัตเตอร์เวิร์ท อยู่กับนอริชนานถึง 8 ปี เป็นสโมสรที่เขาอยู่ด้วยนานที่สุด ก่อนที่สุดท้ายจะไปเลิกเล่นในปี 1998 กับทีมที่ชื่อว่า ค็อบ แรมเบอร์ส หลังจากนั้นก็รับงานคุมทีมกันต่อ แต่สุดท้ายแล้ว บัตเตอร์เวิร์ท เลือกไปเอาดีทางด้านงานโค้ชเบื้องหลังมากกว่า และเคยผ่านงานกับทีมชาติอังกฤษชุดเล็กมาแล้วด้วย

ฮันส์ ซีเกอร์ส [วิมเบิลดัน]

นายทวารดัตซ์แมน ผู้ข้ามมาเล่นฟุตบอลอังกฤษตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษที่ 80 ก่อนย้ายมาเล่นกับ วิมเบิลดันในปี 1988 ที่ซึ่งเขาอยู่กับทีมมาถึง 8 ปี ช่วงชีวิตการเล่นฟุตบอลของเขาไม่มีอะไรน่าจดจำมากนัก แต่กลับกลายเป็นเรื่องที่เขาถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในการล้มบอล แม้สุดท้ายจะเคลียร์ตนเองได้ แต่ก็ทำให้ชื่อเสียงของเขามัวหมองไปไม่น้อยจากคดีความที่ยาวนานหลายปี หลังจากเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ เขาเลือกรับงานเป็นโค้ชผู้รักษาประตู และยังคงยึดอาชีพนี้มาจนถึงทุกวันนี้

โปรดติดตามกันต่อใน part 2