ufabet ทีเด็ด บอล วันนี้ ราคา บอล

Ronaldo : Homecoming

     เป็นบทความที่ต้องบอกว่า “ไฟต์บังคับ” ไม่เขียนถึงไม่ได้อย่างแท้จริง สำหรับการตัดสินใจ “Home Coming” ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (36 ปี) กับปฏิบัติการ 8 ชั่วโมงสะท้านโลก นำพาเขาจาก ตูริน ประเทศอิตาลี กลับมาที่ แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ อีกครั้ง หลังออกจากทีมไปในปี 2009

 

     12 ปีที่แล้ว เขาลงเล่นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปทั้งหมด 292 เกม 118 ประตู และ 69 แอตซิสต์ ไม่รวมถึง ลีลาและประโยชน์ในสนามมากมายที่ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลตลอด 6 ฤดูกาลที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด

 

     การกลับมาในครั้งนี้ของเขาต้องบอกว่าเกิดขึ้นเร็วที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอล เป็นดีลใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในรอบสิบปี และแน่นอนเป็นหนึ่งในดีลที่สร้าง “ผลกระทบเชิงบวก” อย่างมากมายเป็นวงกว้างตลอดหนึ่งวันที่ผ่านมา

 

     ฤดูกาลที่ผ่านมาของ โรนัลโด้ นับเป็นช่วงเวลาที่ไม่สมหวังเท่าไร ทั้งในระดับสโมสรที่ได้แค่แชมป์ โคปปา อิตาเลีย เพียงรายการเดียว แต่ในลีกพวกเขาหลุดไปไกลถึงอันดับที่ 4 ในเซเรีย อา ทั้งที่มาตรฐานของเขายังคงยอดเยี่ยมในเรื่องของการผลิตสกอร์ (44 เกม 36 ประตู 4 แอตซิสต์)

 

     การกลับมาของ มักซ์ อัลเลกรี สู่ยูเวนตุสอีกครั้ง มาพร้อมกับเป้าหมายในการสร้างทีมใหม่ เพื่ออนาคตข้างหน้าของ ยูเวนตุส แต่มันก็ไม่ง่ายเลย ไม่สิต้องบอกว่า มันไม่มีอะไรง่ายอยู่แล้ว แต่งานนี้มันยากกว่าเดิม เมื่อ โควิด-19 เข้ามาเปลี่ยนทั้งโลกฟุตบอลให้ไม่เหมือนเดิม พวกเขาไม่อาจจะหาเงินได้เท่าเดิมแบบที่เคยผ่านมา และมีภาระหนี้สินที่ต้องบริหารจัดการ หากต้องการสร้างทีมใหม่ ก็ต้องจัดการสิ่งที่มีให้แปรเปลี่ยนเป็นเงิน หรือการลดภาระค่าใช้จ่ายออกจากทีม

 

     ด้วยวัย 36 ปี โรนัลโด้ คือ นักเตะ ที่มีค่าเหนื่อยสูงสุดที่ของ เซเรีย อา เขารับค่าเหนื่อยฤดูกาลละ 31 ล้านยูโร ในสัญญา 4 ปีที่เซ็นกันเอาไว้ จนถึงมิถุนายน 2022 และเป็นภาระก้อนใหญ่ที่ ยูเวนตุส ต้องการปลดออกเพื่อเดินหน้าต่อไป

 

     อายุที่มากขึ้น ค่าเหนื่อยที่สูงลิ่ว ภาวะการเงินที่สุดจะฝืดเคือง โค้ชอยากสร้างทีมใหม่ หลังความล้มเหลวในฤดูกาลล่าสุด มันก็มีเหตุผลมากพอที่ ยูเวนตุส กับ โรนัลโด้ ต้องแยกทางกัน กอปรกับความสำเร็จที่หากไม่นับ แชมเปี้ยนส์ ลีก โรนัลโด้ ก็ได้มาหมดแล้วในอิตาลี ทุกอย่างก็ลงตัว

 

แต่จะไปที่ไหนล่ะ

สองสโมสรที่เรียกว่า ศักยภาพการเงินพร้อม คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ / เปแอสเช

     แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เปแอสเช คือสองสโมสรที่เรียกว่า ศักยภาพการเงินพร้อม และแน่นอนความสำเร็จตลอดสิบปีที่ผ่านมาก็บ่งบอกว่านี่คือช่วงรุ่งเรืองของพวกเขา

 

     แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องการกองหน้าตัวเป้าคนใหม่ แทนที่ของ เซร์คิโอ อเกวโร่ พวกเขาพลาดหวังกับการได้ตัว แฮร์รี่ เคน แน่นอนแล้ว อย่างน้อยก็ในฤดูกาลนี้ หากการมาของ โรนัลโด้ เกิดขึ้น มันก็ถือว่าเติมเต็มช่องว่างนั้นได้อย่างลงตัว

 

     เปแอสเช เซ็นสัญญากับ ลิโอเนล เมสซี่ ที่เรียกว่าเป็นดีลสะท้านโลกเมื่อสองสัปดาห์ก่อน และก่อนหน้านั้นพวกเขาเพิ่งต่อสัญญากับ เนย์มาร์ จูเนียร์ แต่กำลังจะเสีย คิลิยัน เอ็มบั๊บเป้ ออกจากทีมไป หากได้ โรนัลโด้ ไปเสริมทัพ มันคงเป็นอะไรที่สุดยอด

 

     เปแอสเช ออกมายืนยันว่าพวกเขาไม่อยู่ในการซื้อขายครั้งนี้ และมุ่งไปที่การเคลียร์ดีลของเอ็มบั๊บเป้ กับ เรอัล มาดริด ที่ต้องบอกว่าเผ็ดร้อนมากในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ก่อนข่าวการย้ายทีมของ โรนัลโด้ จะเกิดขึ้น

 

     ขณะที่อีกหนึ่งทีมเก่าอย่าง เรอัล มาดริด ก็ออกตัวแต่แรกแล้วว่า พวกเขาไม่มีความคิดจะนำพา โรนัลโด้ กลับไปเล่นในสเปน พวกเขามองหา อนาคตสายเลือดใหม่อย่าง เอ็มบั๊บเป้ เป็นทางเลือกแรก และเป็นแผนที่วางกันมาแบบข้ามปี แม้สโมสรจะไม่เคยบอก แต่ก็รับรู้ได้ในวงกว้างว่า เรอัล มาดริด เลือกใคร

 

     27 สิงหาคม 2021 ข่าวการย้ายทีมของโรนัลโด้ ชัดเจนมากยิ่งขึ้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือเต็งหนึ่งแบบหนึ่งเดียว ที่จะได้เขาไปร่วมงานด้วย ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ดังลั่นโลกออนไลน์ จากเหล่า “ทัพแดง” ที่ว่า พวกเขาไม่ต้องการ ไม่คาดหวัง และ “กูคงเกลียดมึงแน่” หากได้เห็นภาพของ โรนัลโด้ เลือกหักหาญน้ำใจพวกเขาด้วยการย้ายไปสู่ทีมที่พวกเขาเรียกว่า “เพื่อนบ้านที่น่ารำคาญ” ในคำจำกัดความของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยกล่าวไว้

 

     “เรารู้ว่าเราคือมืออาชีพ แต่การที่เคยเป็น นักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาก่อน สิ่งที่อย่าหาทำคือการย้ายไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้” โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กล่าวเอาไว้ในช่วงการแถลงข่าวกับสื่อ เกี่ยวกับประเด็นการย้ายของ โรนัลโด้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ โรนัลโด้

     แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมเดียวที่มีข่าวกับ โรนัลโด้ หลังข่าวออกมาคอนเฟิร์มว่า “โด้ย้ายแน่” ศักดิ์และศรีของพวกเขา เวลานี้ดีพอที่ โรนัลโด้ จะย้ายไปร่วมงานด้วย ติดอยู่อย่างเดียวคือ เขาเคยทอดกาย ถวายหัวใจให้อสรูมาแล้วเมื่อปี 2003 โดยมีการยืนยันออกมาจากสื่ออย่าง ดิ แอตเลติก ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีความคิดที่จะเจรจานำตัว โรนัลโด้ กลับมาร่วมงานกันอยู่ในใจเสมอ แต่พวกเขาไม่คิดว่า ยูเวนตุส ต้องการปล่อยตัว นักเตะ ออกมา แต่สุดท้ายเมื่อมันเกิดขึ้น พวกเขาก็ไม่รีรอที่จะเดินเรื่องพา โรนัลโด้ กลับบ้าน

 

     แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถตกลงในรายละเอียดส่วนตัวต่าง ๆ กับทางยูเวนตุส รวมถึงนักเตะได้หมดแล้ว เหลือเพียง โรนัลโด้ บินมาอังกฤษเท่านั้น เรื่องก็จบ แต่มันก็ดันไม่จบเมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาสู่ดีลนี้

 

     ฆอร์เก้ เมนเดส “ซูเปอร์เอเยนต์” ผู้ดูแล โรนัลโด้ ถูกระบุว่ามีการคุยกับหลายสโมสรในเรื่องของ โรนัลโด้ และแน่นอน เขาเลือก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนคุยกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่เมื่อการเจรจามันไปต่อไม่ได้ เมนเดส ก็เลือกคุยกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตกลงใจว่าจะนำมาร่วมทีม ข่าวออกมาแบบนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน และนี่คือความชาญฉลาดของเอเยนต์คนนี้ ที่นำพาสิ่งที่ต้องการ และดีที่สุดให้กับลูกค้าเบอร์หนึ่งของเขา

 

     ในแง่ของความสำเร็จ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในทศวรรษที่ผ่านมาพวกเขาเหนือทุกทีมในอังกฤษ และแน่นอนเหนือกว่า แมนชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่หาตัวแทนแบบไร้รอยต่อจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่ได้แม้แต่คนเดียว รวมถึง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็ด้วยเช่นกัน

 

     การเซ็นสัญญากับ โรนัลโด้ สู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเป็นการตอกย้ำในเรื่องนี้ว่าพวกเขาคือ “Best of England” ณ เวลานี้ ทั้งผลงานความสำเร็จต่อเนื่อง 1 ทศวรรษ หรือการเซ็นสัญญากับ นักเตะ ที่เก่งที่สุดคนหนึ่งของโลก แม้จะอายุถึง 36 ปี อย่าง โรนัลโด้ เข้าทีมได้สำเร็จ แม้ว่า เขาคนนี้จะเป็นอดีตปีศาจแดงมาก่อนก็ตาม และนั่นคือเรื่องที่ ยูไนเต็ด “ไม่มีวันยอมรับได้”

 

     แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นหนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จในแง่ของการเงิน และการตลาด พวกเขายังคงมีแฟนบอลสายเลือดอสูรมากมาย และว่ากันว่าคือสโมสรที่มีแฟนบอลมากที่สุดในโลก แม้ว่านับจากการอำลาของ “เฟอร์กี้” พวกเขาจะไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ ลีก อีกเลยก็ตาม แต่พวกเขาไม่ใช่ทีมที่ไม่มีศักยภาพทางการเงิน และ ณ เวลานี้ พวกเขาก็สร้างทีมใหม่ขึ้นมาเพื่อการคืนบัลลังก์ให้ได้อีกครั้ง

 

     มีการเปิดเผยจากสื่อว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คือหนึ่งในคีย์สำคัญของดีลนี้ เฟอร์กี้ บนวัย 79 ปี เป็นคนโทรหาสายตรงถึง โรนัลโด้ ด้วยตนเองในการคุยกับหนึ่งใน “ลูกชาย” ของเขา ในการเลือกกลับ “บ้าน” มากกว่าไปอยู่กับ “คนข้างบ้าน” และมันมีผลอย่างยิ่งในการเลือกครั้งนี้

 

     “ถ้าเลือกย้ายไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทุกสิ่งที่ทำมาตลอดกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่มีอะไรหลงเหลือเลย” นี่คือหนึ่งในวรรคทองคำที่คนทั่วไปอ่านแล้วก็เข้าใจได้ทันที ถึงผลที่ตามมาหาก โรนัลโด้ เลือกสีฟ้ามาก่อนสีแดง แห่งแมนเชสเตอร์

การ “กลับบ้าน” ครั้งนี้มันจะยิ่งใหญ่

     ท้ายที่สุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาสู่เวทีการเจรจาแบบเต็มตัว จากความช่วยเหลือโน้มน้าวใจกันอย่างเต็มที่ทั้งจากสโมสร เหล่านักเตะโดยเฉพาะ บรูโน่ เฟร์นานเดส ที่ออกตัวชัดเจนว่า “น้องอยากให้พี่มาอยู่ด้วยกัน” หรืออย่างอดีตนักเตะอย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ ปาทริซิ เอฟร่า ที่เรียกว่าคุยส่วนตัวชวนรุ่นน้องกลับบ้าน และสำคัญที่สุดคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เลือกที่จะถอนตัวออกไปเอง หลังการมาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งในเรื่องนี้ตามความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนมองว่า ซิตี้ ก็ยอมรับในจุดที่ว่าเมื่อ ยูไนเต็ด เข้ามา ความสัมพันธ์ของทีม กับ โรนัลโด้ มันเป็นความสัมพันธ์ที่แข็งแรงมากกว่าที่พวกเขาจะฝืนสู้ต่อไป บนข้อเท็จจริงที่ว่า โรนัลโด้ เองก็ไม่ใช่เป้าหมายแรกของพวกเขาเช่นกัน

 

     ในส่วนของรายละเอียดค่าตัวของ โรนัลโด้ ตัวเลขออกมาจากหลายสื่อตรงกันกับตัวเลข 23 ล้านยูโร แบ่งออกเป็นค่าตัว 15 ล้านยูโร และ Add-on อีก 8 ล้านยูโร โดยโรนัลโด้จะเซ็นสัญญา 2 ปี ที่เหลือคือการรอให้ โรนัลโด้ กลับมาจากการลงเล่นเกมทีมชาติในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ให้เสร็จสิ้น การเปิดตัวต้อนรับการ “คืนสู่เหย้า” ของเขาก็คงมีขึ้นอย่างเอิกเกริกที่สุดครั้งหนึ่ง บนความสุขของสาวกปีศาจแดง ที่ดูเพียงการขยับเขยื้อนของโลกออนไลน์ ก็ชัดเจนแล้วว่านี่คือ “ข่าวที่ดีที่สุด” ของพวกเขา มากกว่าการได้สตาร์ค่าตัวแพงคนใดในโลก

 

     การเข้ามาของเขาจะส่งผลในเรื่องของ “กำลังใจ” “รายได้” และ “โอกาส” ในการลุ้นแชมป์ลีกอย่างเต็มตัวที่สุดนับจากปี 2013 เป็นต้นมา กับการเสริมทัพที่จัดหนักที่สุดในรอบหลายปี ทั้งแนวรุก-แนวรับ พวกเขาพร้อมแล้ว และถ้าพวกเขาสามารถทำได้มันได้สำเร็จ

 

การ “กลับบ้าน” ครั้งนี้มันจะยิ่งใหญ่ และสุขสมอย่างที่สุดแล้ว

Ads ทีเด็ด บอล เต็ง วันนี้ ฟุตบอล วันนี้