ตลาดการซื้อขายเดือนสิงหาคม 2021 จบลงไปเกือบสมบูรณ์แล้ว หลังจากลีกใหญ่ปิดตลาดไปทั้งหมดแล้ว ยกเว้นบางลีกที่ยังเปิดอยู่จนถึงในช่วงกลางสัปดาห์หน้าเช่น โปรตุเกส, รัสเซีย หรือว่า ตุรกี เป็นต้น
อย่างไรก็ตามในวันสุดท้ายของตลาดการซื้อขาย เกิดดีลใหญ่กับการย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า สู่ แอตเลติโก มาดริด ของ อองตวน กรีซมันน์ (30 ปี สัญญาถึงกลางปี 20222) หลังจากที่เขามีสองปีที่ไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าที่ควร กับการย้ายทีมที่มีมูลค่ามากถึง 120 ล้านยูโร ในปี 2019 แต่ ณ เวลานี้ กรีซมันน์ จะมีค่าตัว 40 ล้านยูโรทันที หาก แอตเลติโก มาดริด ต้องการเซ็นสัญญาถาวรในช่วงจบฤดูกาลนี้ เรียกว่าบาร์ซ่า ขาดทุนย่อยยับในเวลาไม่ถึงสามปี หากดีลถาวรเกิดขึ้น
กรีซมันน์ ตกเป็นข่าวการย้ายทีมมาระยะหนึ่งแล้ว หลังจากวิกฤตทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ บาร์เซโลน่า พวกเขาจำเป็นต้องตัดลดรายจ่ายออกไปมากมายหนึ่งในนั้นคือการต้องปล่อยตัว ลิโอเนล เมสซี่ ออกจากทีมที่กลายเป็นเรื่องที่ดังที่สุดหนึ่งเรื่องของตลาดการซื้อขายรอบนี้
แรกเริ่มเดิมที่ บาร์เซโลน่า เสนอเกี่ยวกับการแลกตัว กรีซมันน์ กับ ซาอูล นิเกซ กองกลางทีมชาติสเปนของทีมตราหมี แต่สุดท้ายการเจรจาไม่มีความคืบหน้า และ ซาอูล ณ วันนี้คือนักเตะ ใหม่ของเชลซีเรียบร้อย โดยเมื่อกรีซมันน์ ย้ายไปแอตเลติโก มาดริด ทีมตราหมีก็เสีย ซาอูล ไปยังเชลซี ขณะที่บาร์เซโลน่า ก็ได้ตัว ลุค เดอ ยองก์ กองหน้าทีมชาติเนเธอร์แลนด์เข้ามาแทนที่ ซึ่งทั้งหมดเป็นดีลแบบยืมตัวทั้งหมด โดยที่ เซบีย่า ต้นสังกัดของ เดอ ยองก์ มีการเซ็นสัญญากับ ราฟา เมียร์ หัวหอกดีกรีทีมชาติสเปน ชุดโอลิมปิก เกมส์ 2020 มาจาก วูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส
บาร์เซโลน่า : ต้องการปล่อยตัวเพื่อลดเรื่องค่าใช้จ่ายที่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับพวกเขา
กรีซมันน์ : ไม่มีความสุขกับผลงานของตนเอง และสถานการณ์ที่บาร์เซโลน่า ยิ่ง เมสซี่ ย้ายออกจากทีมก็ยิ่งทำให้เขามีความคิดย้ายออกจากทีม
แอตเลติโก มาดริด : นำโดย ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ เป็นคนแจ้งไปยังบอร์ดบริหารของทีมว่าต้องการ นักเตะ กลับมาร่วมงานกันอีกรอบ และเมื่อ ซาอูล ต้องการย้ายออกไปหาความท้าทายใหม่เรียบร้อยก็เป็นอันลงตัว
กรีซมันน์ จะสวมเสื้อหมายเลข 8 ของ ซาอูล ในฤดูกาลนี้ให้กับ แอตเลติโก มาดริด ขณะที่หมายเลข 7 ยังคงเป็นของ เจา เฟลิกซ์ เจ้าหนูมหัศจรรย์ชาวโปรตุเกส ซึ่งเวลานี้ยังคงมีปัญหาบาดเจ็บ และผลงานของเขาก็สถานการณ์คล้ายกับ กรีซมันน์ ที่บาร์เซโลน่า คือย้ายมาด้วยค่าตัวมหาศาล แต่ผลงานไม่น้อยนิดเมื่อเทียบกับค่าตัว โดยแม้ว่า แอตเลติโก มาดริด จะยืนยันมาตลอดว่าพวกเขาไม่มีความคิดจะปล่อยตัวกองหน้าดาวรุ่งวัย 21 ปีคนนี้ออกจากทีมก็ตาม แต่การเสริมทัพครั้งนี้จะส่งผลโดยตรงกับ เฟลิกซ์ แน่นอน และทีมยังมีทั้ง หลุยส์ ซัวเรซ เป็นตัวหลัก และมาเธอุส คุนญ่า กองหน้าทีมชาติบราซิลชุดแชมป์โอลิมปิก เกมส์ 2020 เป็นอีกคนที่เข้ามาใหม่ในหน้าร้อนนี้…สถานการณ์ไม่เป็นใจให้กับ เฟลิกซ์ เท่าไรนัก แต่ก็ต้องติดตามกันต่อไป เมื่อ ลา ลีกา กลับมาลงเล่นอีกครั้งในช่วงกลางเดือนนี้
ในขณะที่ บาร์เซโลน่า เองก็ต้องยอมรับสภาพไปตามที่เป็นกับการบริหารงานที่ผิดพลาดของ โจเซป บาร์โตเมว ประธานสโมสรคนก่อน ที่เรียกได้ว่าเจอสาปแช่งกันเละ เพราะต้นเหตุมาจากการนำทีมบริหารจากเขาเป็นหลัก และการเข้ามาของ โจน ลาปอร์ต้า ก็เป็นเหมือนกับการเริ่มต้นด้วยการมาเคลียร์ปัญหาเสียมากกว่าการพัฒนาทีม เพราะถึงวันนี้ยังมีนักเตะอีกหลายคนทั้ง ฟิลิเป้ คูตินโญ่, อุสมาน เดมเบเล่ ที่ลงทุนไม่ต่ำกว่าคนละ 100 ล้านยูโร แต่ผลงานไม่เข้าเป้าทั้งสองคน และทีมยังปล่อยตัวไม่ได้ รวมถึง มิราเล็ม ปรานยิช และ ซามูเอล อุมติตี้ ที่คนแรกไม่ได้ใช้งานเลย นับจากย้ายมาจาก ยูเวนตุส ส่วนรายหลังกลายเป็นกองหลังจอมเจ็บไปแล้ว
การขายของพวกเขาก็นับว่าเป็นช่วงที่เกิดการขายรายย่อยออกจากทีมค่อนข้างเยอะ พวกเขาเสียทั้ง เอเมอร์สัน รอยัล แบ็คชาวบราซิลไปให้กับ สเปอร์ส ทั้งที่พวกเขาวางไว้เป็นอนาคตของสใมสร เช่นเดียวกับ จูเนียร์ ฟีร์โป้ ที่ย้ายมาเล่นในอังกฤษกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมก็ปล่อยออกมาด้วยเหตุผลในเรื่องของการเงินเช่นกัน ไปจนถึงอีกหลายคนที่สามารถขายได้ บาร์ซ่า ก็พร้อมคุยด้วย
นับเป็นสถานการณ์ที่ยากแก่การทำใจ และเป็นวิบากกรรมของ บาร์ซ่า อย่างแท้จริง ในปีเดียวกันที่พวกเขาต้องเสียคนสำคัญที่สุดอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ พร้อมกับการเจอกับสถานการณ์ทางการเงินที่หนี้สินล้นพ้นตัว ทำให้พวกเขาสูญเสียอะไรไปมากมาย จากการบริหารงานผิดพลาดเพียงไม่กี่ปี แต่เพิ่มเติมด้วย โควิด-19 เช่นนี้
เรียกว่างานนี้เสียทั้งตัว เจ็บทั้งใจ แถมหนี้ยังอีกบานสำหรับ บาร์เซโลน่า ในปี 2021 นี้ และดูท่าจะต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่าพวกเขาจะกลับมาแข็งแกร่งในเรื่องของการเงินได้อีกครั้ง