สองประตูของ แฮรี่ เคน (28 ปี สัญญาถึงกลางปี 2024) ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ทำไปแล้ว 176 ประตูในพรีเมียร์ลีก
267 เกม 176 ประตู เป็นสถิติที่น่าทึ่งสำหรับเคน และก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะที่ยิงประตูใน พรีเมียร์ ลีก ได้มากที่สุดอันดับ 6 แซงหน้า เธียร์รี่ อองรี (258 เกม 175 ประตู) ไปเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้เป้าหมายต่อไปอยู่ไม่ไกล
ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ ลีก 29 ปี นับจากมีการเปลี่ยนชื่อมาในฤดูกาล 1992-1993 มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ยิงได้มากกว่า 200 ประตู นั่นคือ อลัน เชียเรอร์ [441 เกม 260 ประตู] และ เวยน์ รูนีย์ [491 เกม 208 ประตู] โดย ณ เวลานี้ใน 10 อันดับแรกของตารางดาวซัลโวสูงสุดของพรีเมียร์ ลีก เคน เป็นนักเตะคนเดียวที่ยังคงลงเล่นอยู่ ที่เหลืออำลาวงการไปหมดแล้ว โดยคนล่าสุดคือ เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่เพิ่งอำลาอาชีพในช่วงต้นฤดูกาลจากปัญหาเกี่ยวกับหัวใจเต้นผิดปกติ
เรียกว่างานนี้ไม่ต้องแข่งกับใครแล้ว ทุกอย่างอยู่ที่ตัวของเขาเพียงคนเดียว เช่นเดียวกับอนาคตของเขาที่ยังคงไม่แน่ชัดต่อไป
ต้นฤดูกาลที่ผ่านมา เคน เคยตัดสินใจยื่นขอย้ายทีมอย่างเป็นทางการมาแล้วหนึ่งครั้ง ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับความสำเร็จ ซึ่งสุดท้ายหลังจากปล่อยให้เรื่องไม่แน่นอนมาหลายสัปดาห์ เขาก็ตัดสินใจอยู่กับทีมต่อไป ด้วยเหตุผลอยากประสบความสำเร็จกับสเปอร์ส และไม่อยากทำร้ายจิตใจเหล่า “ยิดโด้” ในการอำลาทีม (พร้อมกับเบื้องหลังการปฏิเสธข้อเสนอจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึง 4 ครั้งในตลาดรอบเดียวของ สเปอร์ส) แต่มาถึงตรงนี้ สเปอร์ส และ เคน กลับมาสู่ “ลูปเดิม” อีกครั้ง เมื่อเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ฤดูกาลนี้ พวกเขาว่างเปล่าแน่นอนแล้วอีกหนึ่งปี เหลือเพียงการทำอันดับไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก เท่านั้นที่ยังคงเป็นเป้าหมายที่ทำให้ 12 เกมที่เหลือต่อจากนี้ยังมีความหมาย
มองในเรื่องของศักยภาพของ เคน ไม่มีข้อสงสัยอะไรให้แคลงใจ เคน รักษามาตรฐานตนเองดีทุกปี ถ้าไม่นับฤดูกาล 2013-2014 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกที่เขาลงเล่นแบบเต็มตัวในพรีเมียร์ ลีก กับ สเปอร์ส นับจากนั้นเขาการันตีไม่ต่ำกว่า 15 ประตูในพรีเมียร์ ลีก ทุกฤดูกาล 7 ปีติดต่อกัน ซึ่ง 3 ใน 7 คือดาวซัลโวสูงสุดของลีกในแต่ละฤดูกาล และในปีนี้แม้จะเพิ่งทำไป 10 ประตู แต่ก็ดูผลงานแล้วยังไงก็น่าจะไม่พลาดเข้ามาตรฐานเดิมของตนเอง แต่สิ่งที่มันยังขาดหายไปคือ ความสำเร็จ ในแง่ของแชมป์ สวนทางกับ อายุงานของตัวเองที่ก็มากขึ้นทุกวัน อีกประมาณ 4 เดือนเขาจะเข้าสู่วัย 29 ปีแล้ว
มองในแง่ของปรารถนาของเคน แน่นอนในแง่ของทีม คนที่ถูกสโมสรอาร์เซนอล ปฏิเสธในการให้ไปต่อในทีมเยาวชนปืนใหญ่ ก่อนเลือกคว้าโอกาสด้วยการมาเข้าร่วมทีมเยาวชนของสเปอร์ส ใช้ความ “ผิดหวัง” มาเป็น “แรงผลักดัน” เชิงบวกให้ตัวเองก้าวขึ้นมาเป็นแถวหน้าของวงการฟุตบอล เขาอยากยิงประตูอาร์เซนอลให้ได้ก็ทำได้แล้ว อยากพาทีมมีอันดับสูงกว่าอาร์เซนอก็ทำได้แล้ว แต่การยังไม่มีแชมป์ก็ยังเป็นปมในใจที่อาจจะคล้ายกับการที่ ลิโอเนล เมสซี่ ไม่เคยได้แชมป์ในระดับชาติ จนเพิ่งมาปลดล็อคในปีที่ผ่านมากับ โคปา อเมริกา และปีนี้ เคน ก็เลือกให้โอกาสตนเอง และสเปอร์ส ได้ลองอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สำเร็จ
ในแง่ของปรารถนาเป้าหมายส่วนตัว เขาชัดเจนว่า 260 ประตูที่ อลัน เชียเรอร์ สร้างเอาไว้ เขาอยากเป็นผู้ทำลายมัน และนับแบบเรียลไทม์ เขาเหลือ 84 ประตูให้ไล่ตามกันต่อ ซึ่งก็อย่างที่บอกด้านบน เขาคือคนเดียวที่ยังลงเล่น และใกล้เคียงสถิติที่สุดแล้ว ถ้าวันที่เขาเลิกไป ก็คงต้องรอกันอีกอาจจะเป็นหลักทศวรรษเพื่อจะมาหาคนที่เข้ามาใกล้เคียงกับสถิตินี้อีก
“ผมมองเห็น เคน ลงเล่นแล้วคิดถึงตัวเอง บางครั้งก็เหมือนได้เห็น เท็ดดี้ เชอริงแฮมอยู่ในนั้นด้วย ผมคิดว่าเขาเป็นนักเตะที่ครบเครื่องมาก และถ้าเขาสภาพร่างกายสมบูรณ์ ผมคิดว่าเขาจะเป็นหนึ่งในคนที่มีโอกาสทำลายสถิติจำนวนประตูในพรีเมียร์ ลีก ของผมลงได้” เชียเรอร์ กล่าวถึงเคน ในปี 2017
อย่างไรก็ตาม เคน ก็ออกมายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า “ความสำเร็จส่วนตัว” เป็นสิ่งที่เขาอยากได้ แต่มันคง “หวานอมขมกลืน” ถ้าสุดท้ายแล้วเขาไม่ได้แชมป์อะไรเลยในรูปแบบของทีมเลยตลอดการเล่นฟุตบอลอาชีพของตนเอง
“รางวัลส่วนตัวมันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว เมื่อวันหนึ่งที่ผมเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ ผมคงไปดูว่าผมได้อะไรบ้างในชีวิต ให้เวลากับมันสักหน่อย แต่เป้าหมายของผมต่อไปคือการคว้าแชมป์กับสโมสรให้ได้ ผมอยากคว้าแชมป์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ทีมจะสามารถไขว่คว้าได้ และเราจะไม่หยุดพยายาม” เคน กล่าวผ่านสื่อในปี 2021 เกี่ยวกับเป้าหมายของฤดูกาลนี้ ซึ่งตอนนี้เขาต้องผิดหวังอีกครั้งแล้ว
มองในแง่ของการย้ายทีมสำหรับเคนก็ยังคงเป็นทางเลือกหนึ่งอย่างแน่นอนในช่วงจบฤดูกาลนี้ อายุสัญญาของเขาเหลือเพียง 2 ปี ณ เวลานี้เขารับค่าเหนื่อยสูงที่สุดของสโมสร ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเงินของสเปอร์ส ที่ยังมีเรื่องหนี้สินของการสร้างสนามใหม่เป็นภาระใหญ่ที่แม้จะมีข่าวออกมาบอกเสมอว่าพวกเขา “เอาอยู่” แต่การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงสองปีที่ผ่านมา สโมสรใหญ่แค่ไหนก็สะเทือนทั้งนั้น และแน่นอน สเปอร์ส ก็ต้องโดนด้วยไม่มากก็น้อย ท่ามกลาง “สัญญาณ” มากมายจากวงการฟุตบอลที่ว่า ตลาดการซื้อขายรอบต่อไปจะเป็นตลาดของกองหน้า ที่จะมีนักเตะชั้นยอดหลายคนในตำแหน่งนี้ พร้อมโยกย้ายไปสู่สโมสรใหม่ และมีสโมสรหลายสโมสรวางแผนเสริมทีมในตำแหน่งนี้เช่นกัน หนึ่งในนั้นคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่อาจจะลองกลับมาลองอีกสักครั้งก็ยังมีความเป็นไปได้
อย่างไรก็ตามการที่ สเปอร์ส เลือก อันโตนิโอ คอนเต้ เข้ามารับงาน แม้จะเซ็นสัญญากันเพียง 18 เดือน แต่ก็ดูเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับพวกเขา เช่นเดียวกับที่ เคน ยอมรับว่าเขาตื่นเต้น และหวังไว้มากว่า กุนซืออิตาเลี่ยน จะเข้ามาเปลี่ยนเส้นทางของ สเปอร์ส ให้พุ่งชนความสำเร็จได้สักที
“ใบสมัครงานของเขามันบอกถึงประวัติความสำเร็จของเขาอยู่แล้ว ทุกคนทราบถึงความสำเร็จที่เขาทำมาแล้ว และเคารพในการทำงานของเขา การเข้ามาของเขาผมหวังไว้เหลือเกินว่าเขาจะช่วยยกระดับทีม และพัฒนาเราไปข้างหน้า เช่นเดียวกับที่เราทุกคนต้องพยายามทำอย่างเต็มที่ในการทำให้ได้แบบที่เขาต้องการ”
12 เกมที่เหลือต่อจากนี้ สำหรับ สเปอร์ส นอกจากจะเป็นการตัดสินอนาคตของสโมสร เรื่องของรายได้ที่จะเข้ามาในปีหน้า รวมถึงอนาคตที่จะได้เลือกอีกครั้งว่า “เคน” จะให้โอกาสตัวเองกับ สเปอร์ส ต่อไปอีกหนึ่งปี หรือลองให้โอกาสกับทีมอื่นบ้างเพื่อเป้าหมายของตนเองในอนาคต
6 อันดับดาวยิงสูงสุดของพรีเมียร์ ลีก
อลัน เชียเรอร์ 260 ประตู
เวย์น รูนีย์ 208 ประตู
แอนดี้ โคล 187 ประตู
เซร์คิโอ อเกวโร่ 184 ประตู [นักเตะต่างชาติที่ยิงได้มากที่สุดในพรีเมียร์ ลีก]
แฟรงค์ แลมพาร์ด 177 ประตู
แฮร์รี่ เคน 176 ประตู [คนเดียวในทำเนียบที่ยังคงลงเล่นฟุตบอลอาชีพ]