ตลาดการซื้อขายของพรีเมียร์ ลีก ในฤดูกาลนี้เข้าสู่ช่วงเดือนสุดท้ายกันแล้ว กับการซื้อขายรอบใหญ่ที่สุดของฤดูกาลที่จะเป็นการเสริมทัพของแต่ละทีม ก่อนจะลุยกันยาว ๆ ไปจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน 2022 และต้องหลีกทางให้กับฟุตบอลโลกที่กาตาร์
ประเมินจากสถานการณ์จำนวนเกมแล้วในช่วงต้นฤดูกาลลากยาวไปจนถึงพักเบรคฟุตบอลโลก จะต้องลงเล่นกันประมาณ 22-23 เกม สำหรับสโมสรที่มีฟุตบอลยุโรปนัดกลางสัปดาห์ ต้องลงเล่น แบ่งออกเป็น พรีเมียร์ ลีก 15 เกม ฟุตบอลยุโรปในรอบแบ่งกลุ่มครบ 6 เกมเรียบร้อย และ 1-2 เกมในคาราบาว คัพ ดังนั้นเฉลี่ยแล้วต่อสโมสรที่เล่นบอลยุโรปจะต้องเล่นประมาณ 7 เกมต่อเดือน ดังนั้นทั้งเรื่องของจำนวนผู้เล่น และการหมุนเวียนทีมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากในฤดูกาลนี้ ใครจำนวนผู้เล่นน้อยเสียเปรียบมากในปีนี้
ปีที่ผ่านมาหากจะมองหาสักทีมมีเรื่องวุ่นวายมากที่สุด เชลซีคือหนึ่งในนั้น โดยเฉพาะเรื่องนอกสนามที่มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของสโมสร หลังเกิดกรณีพิพาท และกลายเป็นสงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครน นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงมากมาย โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมเชลซี คือหนึ่งในคนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง และนำมาซึ่งการขายทีมออกไป ก่อนที่สุดท้ายหลังการเสนอราคา และแผนงานบริหารทีม สุดท้าย ท๊อดด์ โบห์ลี่ กลายเป็นเจ้าของสโมสรคนใหม่ด้วยวงเงิน 2,500 ล้านปอนด์ และเงินลงทุนทำทีมอีก 1,750 ล้านปอนด์ในช่วงเวลา 10 ปีนับจากนี้
สำหรับการเปลี่ยนแปลงแล้วเป็นเรื่องปกติสำหรับทุกวงการ “การเปลี่ยนแปลงคือนิรันดร์” ทุกอย่างหนีไม่พ้น องค์กรยิ่งใหญ่แค่ไหน การเปลี่ยนแปลงยิ่งแรงเท่านั้น อาณาจักรเชลซี “ผลัดแผ่นดิน” และมาพร้อมกับการปรับเปลี่ยนมากมาย โดยเฉพาะการซื้อขายที่ เจ้าของทีมลงมาดูการใช้เงินของทีมด้วยตนเอง จนกว่าจะหาคนทำงานที่เขาเชื่อมั่น และไว้ใจได้มาทดแทน
เชลซี เป็นหนึ่งในสโมสรที่มีการขยับตัวช้าที่สุดทีมหนึ่งในปีนี้ แต่การซื้อขายของพวกเขาก็คึกคักที่สุดของตลาดเช่นกัน “สิงโตน้ำเงินคราม” เป็นหนึ่งในทีมที่เสียผู้เล่นตัวหลักไปหลายคนในตลาดรอบนี้ และยังคงมีอีก 1-2 คนที่อาจจะต้องลาทีมไปด้วยในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะในส่วนของแนวรับที่ต้องบอกว่างานนี้มียกเครื่องกันใหม่หมด
แนวรุกพวกเขาเสีย โรเมลู ลูกากู ที่งอแงอยากย้ายกลับไปอิตาลีใจแทบขาด สุดท้ายก็สมหวัง เชลซี ปล่อยกลับไปเล่นกับ อินเตอร์ มิลาน ในแบบยืมตัว ดีลนี้ราคา 115 ล้านยูโรที่ลงทุนไป แฟนบอลเชลซีอาจต้องเตรียมใจพวกเขาอาจจะต้องขาดทุนยับเมื่อพลาดซื้อนักเตะแพง แต่เขาดันไม่มีใจเล่นให้กับทีม ส่วนแนวรับ พวกเขาเสียทั้ง อันโตนิโอ รูดิเกอร์ และ อันเดรียส คริสเตนเซ่นไปแบบไม่มีค่าตัว และกำลังจะเสีย แบ็คอย่าง เซซาร์ อัสปิลิกวยต้า หรือ มาร์กอส อลอนโซ่ คนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคนก็เป็นได้ ตราบใดที่ตลาดยังไม่จบทุกอย่างยังเป็นไปได้
การเสริมทีมของพวกเขาเป็นไปอย่างล่าช้า จากการเคลียร์เอกสารหลักฐานในการเทคโอเวอร์สโมสรที่กินเวลานาน และสุดท้ายเมื่อพวกเขาเริ่มต้นกระโจนเข้าตลาดการซื้อขาย ดีลแรกอย่างราฟินญ่า ก็พลาดเสียท่าให้กับคนไม่มีใจอีกครั้ง เมื่อนักเตะอยากย้ายไปบาร์เซโลน่ามากกว่าเชลซี จนสุดท้าย ลีดส์ ก็ต้องจำใจยอมปล่อยนักเตะไปเล่นในสเปน ทั้งที่ เชลซี เสนอเงินค่าตัวให้มากกว่า เช่นเดียวกับ ฌูลส์ กุนเด้ แนวรับเซบีย่าที่เชลซีตามตัวมานานนับปี พวกเขาก็ยังโดนคนไม่มีใจหักอกอีกครั้ง และก็ยังเป็นบาร์เซโลน่าทีมเดิมที่ได้ใจนักเตะ
อย่างไรก็ตามพวกเขาได้ตัวของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เข้ามาเสริมริมเส้นที่เล่นเป็นกองหน้าได้ด้วย รวมถึง คาลิดู คูลิบาลี่ แนวรับเซเนกัล ที่แม้ว่าจะอายุมากถึง 31 ปีแล้ว แต่ก็ต้องบอกว่าทั้งสองดีลเป็นดีลที่เสริมแกร่งได้โดยตรงให้ทีม และพวกเขายังคงไม่หยุดง่าย ๆ เมื่อพวกเขาตกเป็นข่างกับทั้ง เวสลีย์ โฟฟาน่า (21 ปี) ของเลสเตอร์ และ มาร์ค คูคูเรลล่า (24 ปี) แบ็คสเปนของไบร์ทตัน มาร่วมงานด้วยเพิ่มเติม โดยทั้งสองคน เชลซี ก็ไม่ยี่หระในเรื่องของราคาค่าตัว พวกเขาพร้อมสู้ราคาเพื่อให้ได้มาซึ่งนักเตะ
โฟฟาน่า แนวรับฝรั่งเศสของเลสเตอร์ ซิตี้ เพิ่งต่อสัญญาถึงกลางปี 2027 กับทีมเมื่อสามเดือนที่แล้ว มาวันนี้เขาถูกตั้งค่าตัว 80 ล้านปอนด์ จากระยะสัญญาที่เหลือ + ทีมไม่อยากขายออกมา ถ้าเชลซีอยากได้ก็วางเงินมา แน่นอน เลสเตอร์ ก็กล้าขายเช่นกัน ถ้าได้ราคานั้นจริง ดีลนี้จะเป็นการเสริมทีมที่ตรงจุดของเชลซี
คูคูเรลล่า แบ็คชาวสเปนที่ปล่อยของด้วยผลงานระดับท็อปในปีที่แล้วกับไบร์ทตัน เป็นที่สนใจของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มายาวนานแต่สุดท้ายการเจรจากลับไม่คืบหน้าด้วยปัญหาเรื่องค่าตัว สุดท้ายกลายเป็นเชลซีที่พร้อมจ่ายในราคาระดับ 50 ล้านปอนด์ขึ้นไป และทำให้ดีลนี้พวกเขากำลังจะมีชัยอีกหนึ่งดีลซึ่งหากทั้งสองดีลหากสามารถปิดดีลกันได้จะทำให้เชลซีกลายเป็นทีมที่ใช้เงินเสริมทัพมากที่สุดในลีกปีนี้ไปโดยทันที
จากมุมคนภายนอกผู้ไม่ได้มอบความรักให้เชลซี นี่คือการซื้อขายที่บ้าคลั่งมากครั้งหนึ่งของพวกเขา แต่ก็เป็นการลงทุนที่ไม่ได้เป็นการลงทุนแบบไร้ทิศทางเสียทีเดียว ตรงกันข้าม กลับเป็นการเสริมทีมที่ตรงจุด แม้ว่าจะต้องจ่ายแพงมากกว่าที่ควรเป็นก็ตามในหลายดีล
โธมัส ทูเคิ่ล นิยมชมชอบการเล่นกองหลังตัวกลางสามคนมาบ่อยครั้งในฤดูกาลที่ผ่านมา เช่นเดียวกับบางเกมที่เลือกใช้งานแบ็คโฟร์สลับตามแท็คติกของทีม ซึ่งการเสียกองหลังตัวหลักไปถึงสองคน และควานหากองหลังเพิ่มเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ เชลซี เสริมทัพมาแล้วหลายคน พวกเขากำลังปรับลดอายุของทีมลง และวางโครงสร้างทีมใหม่ทั้งหมด
คาร์นีย์ ชูควูเมก้า [18 ปี], กาเบรียล สโลนิน่า [18 ปี], โอมาริ ฮัทชิสัน [18 ปี], เอ็ดดี้ บีซ [18 ปี] คือเหล่านักเตะอีกกลุ่มหนึ่งที่ย้ายมาเล่นกับเชลซีในปีนี้ ชูควูเมก้า คือหนึ่งในนักเตะที่ขึ้นมาเล่นกับ แอสตัน วิลล่า ชุดใหญ่ได้แล้วในปีที่ผ่านมา ขณะที่ สโลนิน่า ก็เป็นนายทวารอเมริกันที่ฟอร์มแรง แววดีถึงขั้นที่ว่า เรอัล มาดริด เคยอยากได้ตัวมาแล้ว และพวกเขาในกลุ่มนี้ในอนาคตจะมีบทบาทมากขึ้นในทีมเชลซีอย่างแน่นอน โดยเฉพาะ ชูควูเมก้า ที่พวกเขาจ่ายถึง 20 ล้านปอนด์ เพื่อดึงมาร่วมงานด้วย เพื่อเป็นตัวแทนระยะยาวของ เอนโกโล่ กองเต้า หรือว่า จอร์จินโญ่ ที่อายุมากขึ้นทุกที
มองแล้วกับการซื้อขายในรอบนี้ แม้ว่าเชลซีจะออกตัวช้าไปสักหน่อย ผิดหวังไปก็เยอะ แต่ก็ดูแล้วการซื้อขายรอบนี้พวกเขาน่าสนใจมากทีเดียว และยังคงไม่น่าจะจบลงเพียงเท่านี้เสียด้วย เมื่อกองหน้าตัวเป้าคนใหม่ของพวกเขายังไม่มาถึง เช่นเดียวกับการปล่อยตัวผู้เล่นยังคงต้องมีต่อไป หลายคนเตรียมรอย้ายออก หลายคนอยู่ในช่วงการตัดสินใจ และอีกหลายคนจะมีอนาคตต่อไปกับทีมแน่นอน
เชลซีปีนี้ยังคงอันตรายไม่เปลี่ยน…และอาจจะยิ่งอันตรายยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำไป