ตุลาคม 2020 เดือนที่มีอะไรหลายอย่างมากมาย ในประเทศของเรานะครับ ช่วงนี้เป็นช่วงปลายปีที่เรียกว่า ฝนตกหนักบ้าง แดดออกบ้าง แต่ปัญหาภายในประเทศของเรา ยังคงคุกรุ่น และก็ไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อไร รอติดตามกันต่อไป ในฐานะของ ประชาชนคนหนึ่ง
ไล่อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ วงการฟุตบอล มาเพื่อหาเรื่องราวมาบอกเล่ากันในวันนี้ ก็ดันไปสะดุดกับเรื่องราวนี้ ที่ผมคิดว่า แฟนบอลหลายท่านจะยังคงไม่ลืม แม้ว่ามันจะผ่านมานานแล้วก็ตาม กับเหตุการณ์ “บีชบอล” เป็นเหตุ ในเกมระหว่าง ซันเดอร์แลนด์ พบกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 17 ตุลาคม 2009 หรือเมื่อ 11 ปีที่แล้ว
แน่นอนหลายคนจำกันได้ว่า ดาร์เรน เบนท์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ณ.เวลานั้น ยิงประตูได้จากการที่เขายิง แล้วบอลดันไปแฉลบ “บอลชายหาด” ที่มีการโยนลงมาจากแฟนบอลของ ลิเวอร์พูล ซึ่งอยู่ด้านหลังประตู ในเกมนั้น และทำให้เกิดเปลี่ยนทิศ บอลเข้าประตูไป กลายเป็นเรื่องขำขัน ของแฟนบอล ณ.เวลานั้น แต่คงไม่ใช่กับแฟนบอลของ ลิเวอร์พูล อย่างแน่นอน เพราะมันกลายเป็นประตูชัย ในเกมนั้น เสียด้วย
“ว่ากันตามจริงเลยนะ ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรกับประตูนั้น ผมไม่ได้ตั้งใจที่ยิงจะให้ไปโดน ลูกบอลชายหาดลูกนั้นด้วย พอบอลมันยิงไปโดน และเปลี่ยนทาง เข้าประตูไป ทุกอย่างมันก็แค่นั้นล่ะ ผมต้องการแค่นั้น ไม่ได้คิดว่า เฮ้ย ยิงโดนบอลชายหาดเข้า ผมคิดแค่ว่า ยิงได้และมันกลายเป็นประตู มันคืออีกหนึ่งประตูในชีวิต นักเตะ อาชีพ ของผม แต่กลายเป็นหนึ่งในประตูที่ทำให้ผมได้รับการจดจำมากที่สุด” ดาร์เรน เบนท์ กล่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว
“ในช่วงพักครึ่งเวลา กรรมการมาถามผมว่า ผมยิงบอลไปโดน ลูกบอลชายหาด หรือเปล่า ผมเลยตอบเขากลับไปว่า น่าจะเป็นแบบนั้นนะ กรรมการดูกังวลมาก ผมคิดว่าเขาคงคิดได้ว่า เขาผิดพลาดแล้วในการตัดสิน แต่อย่างที่บอก เวลานั้นผมเห็นมันเป็นประตู ผมก็วิ่งไปฉลองประตู มันเป็นประตูหนึ่งประตูของผม”
ใครไม่เคยชม ประตูนี้มาก่อน แนะนำดูตามลิงก์นี้ได้เลย
อย่างไรก็ตาม วันนี้เราไม่ได้มาคุยกันเรื่องของ “บีชบอล”และผลของมัน แต่เราจะมากล่าวถึงเรื่องราวของ บุคคล ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และ “ใครคือคนโยน บอลชายหาด ลูกนั้นลงไป” จนเกิดเรื่องราว ที่กลายเป็นหน้าหนึ่งของ ประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ ลีก จนถึงวันนี้
เปเป้ เรน่า นายทวารทีมชาติสเปน ซึ่งเวลานั้นลงเล่นกับ ลิเวอร์พูล และเสียประตูจากจังหวะดังกล่าว กล่าวยอมรับแบบเซ็งสุดขีด กับประตูที่ประหลาดที่สุดครั้งหนึ่งที่เขาเสียประตู
“ใครเป็นคนเอาบอลชายหาดไปไว้ตรงนั้น (วะ)” เรน่า เคย ทวิตข้อความพร้อมภาพประกอบในเกมนั้น ที่เขายังคงเซ็งกับการเสียประตู ดังกล่าว
สุดท้ายแล้วเรื่องราวนี้มีการเฉลยกันในเวลาต่อมา ว่าแท้จริงแล้ว ใครที่เป็นคนโยน บอลชายหาดนี้ลงไป
คัลลัม แคมป์เบลล์ เด็กหนุ่มวัยเพียง 16 ปี ณ.เวลานั้น ถูกระบุว่า เขาเป็นคนสุดท้ายที่สัมผัส บอลชายหาด ที่มีตราสโมสร ลิเวอร์พูล ก่อนบอลจะลอยลงไปในสนาม ก่อนเกมการแข่งขัน และมันก็อยู่ในสนามอย่างนั้น ไม่มีใครคนไหน คิดที่จะเคลียร์บอลนั้นออกไป บอลก็กลิ้งไปตามแรงลม จนมันเข้าไปยังเขตโทษของทางฝั่ง ลิเวอร์พูล จนกระทั่งถึงนาทีที่ 5 ซึ่งเป็นจังหวะยิงประตูของ เบนท์ จนกลายเป็นประตูในที่สุด
นักเตะ ลิเวอร์พูล หลายคนเข้าไปโวยวายกับกรรมการเกี่ยวกับ การเสียประตูในลักษณะดังกล่าว แต่สุดท้ายแล้ว กรรมการ และไลน์แมนต่างปรึกษากัน ก่อนให้มันเป็นประตู และจบเกมด้วยชัยชนะ ของ ซันเดอร์แลนด์ 1-0
“ผมเป็นแฟนบอลของลิเวอร์พูล และมันคือฝันร้ายของผม และร้ายยิ่งกว่านั้น เมื่อภาพการสัยประตูนั้น มันอยู่ในโลกออนไลน์จนถึงวันนี้ ผมได้เห็นมันครั้งแล้วครั้งเล่า ผมไม่สามารถแก้ไข อะไรมันได้ ช่วงนั้นผมไม่เป็นอันทำงานเลย กับเรื่องนี้ ผมเสียใจมาก ที่มีส่วนที่ทำให้ทีมต้องแพ้” แคมป์เบลล์ กล่าวอย่างผิดหวังกับสิ่งที่เขาก่อขึ้น และกลายเป็นเรื่องราว
“แม่ของผม บอกกับผมว่า มันไม่ใช่ความผิดของผม และเธอพยายามทำให้ผมเชื่อเช่นนั้น กรรมการ ควรจะไม่ตัดสินใจมันกลายเป็นประตู ผมหวังว่า แฟนบอล จะให้อภัยกับผม และเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ผมขอโทษ”
“ภาพในโทรทัศน์ มันทำให้ผมกลายเป็นคนที่เหมือนตั้งในโยนบอล ลงไปในสนาม และทำให้มันเกิดการยิงบอลไปใส่มัน ทั้งที่มันไม่ได้เป็น เช่นนั้นเลยสักนิด ไม่ใช่เลย”
“แต่ในความเป็นจริงแล้ว ในขณะที่เกมการแข่งขันยังไม่เริ่มต้นขึ้น ทีมกำลังลงสนาม เพื่อเตรียมลงทำการแข่งขัน บอลชายหาดลูกนั้น ไม่ใช่ของผม ผมไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยซ้ำ มันมีการโยนเล่นกันบนสแตนด์ ของแฟนบอลลิเวอร์พูล และมันก็เด้งไปเด้งมาไปทั่ว จนสุดท้ายบอลมันก็ลอยมาทางผม และผมก็เพียงแค่ทุบบอลมันไป จนบอลมันลอยตกลงไปในสนาม และสุดท้าย “ลม” มันก็พัดมันเข้าไปพื้นที่ของสนาม”