เสียงเพลงของ “เยอร์เก้น โลคาเดีย”

     โลคาเดีย วัย 26 ปี ระบุว่า เรื่องความสนใจในด้านดนตรี มันเกิดขึ้น ตั้งแต่ช่วงปี 2016 สมัยลงเล่นกับ พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น เขาเจอกับปัญหาบาดเจ็บหนัก ปีนั้นเขาลงเล่นไป 15 เกม ทั้งฤดูกาล ชีวิตแทบจะหยุดนิ่งกับเรื่องฟุตบอลไปเลย

     “อาการบาดเจ็บขาหนีบ ทำเอาผมหงุดหงิดมาก ตอนนั้นผมไม่ได้ทำอะไรเลย จนกระทั่งวันหนึ่งเพื่อนผมมาเยี่ยมผม เขาเป็นโปรดิวเซอร์เพลง ก็เอาเรื่องเกี่ยวกับการทำเพลงของเขา มาเล่าให้ผมฟัง ว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง มันสนุกอย่างไร”

     “ตอนแรกผมก็ไม่สนใจเท่าไร แต่พอฟังไปสักพักผมก็อยากลอง จนสุดท้ายเครื่องคอมพิวเตอร์บ้านผม ก็มีโปรแกรมการสร้างเสียงเพลงเรียบร้อยแล้ว ระหว่างที่บาดเจ็บ ผมก็แต่งเพลงไปเรื่อย ลองผิดลองถูก เรียนรู้การทำงานของโปรแกรม ไปมากลายเป็นว่า ผมชอบมันมาก สักพัก เพื่อนคนเดิมของผมเห็นว่าผมน่าจะทำได้ เขาก็เลยชวนผมทำเพลงกันดู”

     “ผมคิดอยู่นานเกี่ยวกับเรื่องนี้ และสุดท้ายผมก็เลือกที่จะทำมันอย่างจริงจัง เริ่มที่จะเรียนรู้มันจากที่ไม่รู้อะไรเลย มีเพื่อนคอยให้คำแนะนำ และทำมันอยู่นานมาก”

     ท้ายที่สุดแล้วในปี 2017 เขาก็มีซิงเกิ้ลเป็นของตนเอง ร่วมงานกับ ดีเจ ดิโปล และ เมเจอร์ ลาซาร์ ซึ่งเป็นดีเจ และนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน มาเป็นพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำ

     “Take Off” กลายเป็นซิงเกิ้ลแรกในชีวิตของเขา กับแนวดนตรี Dance ที่เขาชอบ เรียกว่าเปิดในผับต้องเต้นตามกันได้ออกมา หลังจากนั้นก็มีอีกหลายเพลงตามมา จนกระทั่งมีการออกมินิอัลบั้มที่ชื่อว่า “Purple Art EP” ออกมาในปี 2018 ซึ่งมีด้วยกัน 5 เพลง

“แรกเริ่มผมเริ่มต้นทำเพลงเกี่ยวกับเพลงแดนซ์ เพลงสไตล์ ที่คุณมักจะต้องเปิดกันตามเทศกาลเพลง หลังจากนั้นผมก็เริ่มนำสไตล์เพลงแนว อาร์แอนด์บี กับแดนซ์ มารวมกัน และผมคิดว่านี่ละแนวเพลงที่ผมชอบ หลังจากนั้นผมก็ทำมันเรื่อยมา” โลคาเดีย กล่าว

“5AM” กลายเป็นผลงานล่าสุดของเขาในปี 2019 ที่ผ่านมา เป็นเพลงที่เขาแต่งขึ้นโดยใช้เวลาในการทำนานถึง 2 ปี

“ผมไปถ่ายทำมิวสิคนี้ใน แอลเอ ตามด้วย มาลิบู มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก”

     จากชีวิตที่เสียงเพลง เป็นเพียงความบันเทิงในการรับฟัง กลายเป็นเพื่อนคลายเหงาในวันที่บาดเจ็บ มาจนถึงวันนี้ มันกลายเป็นเส้นทางใหม่ในชีวิตที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ทั้งนี้ผลงานด้านงานเพลงของ โลคาเดีย ก็ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่เขาก็ไม่ได้มองว่า มันเป็นเรื่องใหญ่อะไรนัก เพราะฟุตบอลยังคงเป็นเป้าหมายหลักของชีวิตเขาอยู่ดี

     “มันรู้สึกดีมากนะ ที่ได้ทำอะไรอย่างตั้งใจ ที่ผมสามารถลงเล่นฟุตบอลไปด้วยด้วย หลังจากการซ้อม กับการแข่งขันจบลง ผมกลับมาบ้าน ผมก็พร้อมจะพักผ่อนกับการทำเพลง ฟังเพลงที่คุณชื่นชอบ”

     เรียกว่าวันไหนเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ เราคงไม่แปลกใจถ้า โลคาเดีย จะมีงานทำต่อไปในเส้นทางดนตรี เพราะตอนนี้อ่านจากสัมภาษณ์ของเขา เราก็สัมผัสได้ว่าเขา “หลงรัก” มันเข้าแล้ว!

     ทั้งนี้ โลคาเดีย ยังคงมีสัญญากับ ไบร์ทตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน จนถึงกลางปี 2022 ต้องมารอติดตามกันต่อไปว่า เมื่อ “ความสนใจ”ในการทำงานของเขา มีการเปลี่ยนแปลง เขาจะทำอย่างไรให้ทั้งสองเรื่องเป็นไปด้วยดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ฟุตบอล ซึ่งเป็นอาชีพหลักของเขา โดยผลงานของเขากับ ซินซินนาติ นับจากย้ายมาร่วมงานด้วยในเดือน กุมภาพันธ์ 2020 ก็ต้องบอกว่ายังไม่น่าประทับใจ เมื่อมีโอกาสลงสนามไปทั้งหมด 15 เกม ทำได้เพียง 1 ประตูเท่านั้น