อิวาน กาซิดิส ผู้บริหารหนุ่มชาวแอฟริกาใต้ ผู้มีประสบการณ์ในวงการฟุตบอล โดยเขาทำงานกับ เมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ สหรัฐอเมริกา ในช่วงก่อตั้งลีกในปี 1994 หลังจบฟุตบอลโลกบนแผ่นดินอเมริกา และทำงานกับที่นั่นจนกลายเป็น ผู้มีบทบาทสำคัญในการวางโครงสร้าง และแผนธุรกิจการตลาดของลีก รวมถึงยังเคยทำงานร่วมกับสมาคมฟุตบอลเม็กซิโก และทัวร์นาเมนต์อย่าง คอนคาเคฟ โกลด์ คัพ มาแล้ว ก่อนที่จะตกลงมารับงานกับ อาร์เซนอล ในเดือนพฤศจิกายน 2008 และมาร่วมงานกันอย่างเป็นทางการ 1 มกราคม 2009 โดย กาซิดิส กับ เดนนิส รู้จักกันในช่วงฟุตบอลโลก 1994 นั่นเอง อย่างที่บอกไป เดนนิส ไปใช้ชีวิตในอเมริกาอยู่ช่วงหนึ่ง
วันสุดท้ายของการซื้อขาย 2009 การเจรจายังไม่สรุปเรื่องเกี่ยวกับค่าตัว แต่ อาชาวิน หากต้องการย้ายให้ทัน การตรวจร่างกายต้องพร้อมแล้ว เพราะอาร์เซนอล ต้องการมั่นใจ 100 % ว่าสภาพร่างกายของเขาสมบูรณ์พร้อม
“มันเป็นการตรวจร่างกายที่ยาวนาน 4-5 ชั่วโมง มันเป็นการตรวจร่างกายที่โคตรนาน นานที่สุดเท่าที่ผมทำงานเอเยนต์มาเลยล่ะ” เดนนิส กล่าว
การตรวจร่างกายจบลงเรียบร้อย ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ค่าตัวยังไม่สรุป ค่าเหนื่อยยังไม่สรุป และเวลาเหลืออีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ทุกอย่างทำได้เพียงแค่รอคอยเท่านั้น
เวลาเดินถอยหลังไปทีละนิด อาชาวิน กับความฝันในการย้ายมาเล่นนอกรัสเซีย ไม่มีครั้งไหนใกล้กว่านี้อีกแล้ว หากหลุดลอยไปอีก ไม่รู้จะต้องรออีกเมื่อไร แต่แล้วการรอคอยที่เปล่าประโยชน์ ก็สิ้นสุดลง เมื่อ “ตัวละครลับ” ออกมาแล้ว
หนึ่งสัปดาห์ก่อนตลาดการซื้อขายจะปิด “เดวิด ดีน” อดีตรองประธานสโมสร อาร์เซนอล ได้รับการติดต่อจาก จอน สมิธ แห่ง เอฟเอเอ เพื่อขอให้ดีนช่วยในเรื่องนี้ โดย ดีน คือบุคคลที่ชักชวน อลิสเชร์ อุสมานอฟ เข้ามาซื้อหุ้นของอาร์เซนอลในปี 2007 นั่นเอง ซึ่ง อุสมานอฟ เกิดในโซเวียต (แต่เขาเป็นชาวอุสเบกิสถาน หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต) โดยอุสมานอฟ มีตำแหน่งใน กาซพรอม ด้วย และ ดีน รับปากว่าจะช่วยคุยกับ อุสมานอฟ ให้ และเขาก็มาทัน มาทันเวลาแบบเฉียดฉิว
เวลานับถอยหลังอีกไม่กี่ชั่วโมงตลาดปิด เดนนิส ยังมีการคุยกับ ประธานสโมสร เซนิตฯ, ผู้อำนวยการสโมสรเซนิตฯ เพื่ออัพเดตสถานการณ์ แต่แล้วก็มีอีกสายติดต่อเข้ามาระบุว่า
“ดิฉันเป็นเลขาของคุณอุสมานอฟ คุณอุสมานอฟต้องการคุยกับคุณ”
“เดนนิส คุณมั่นใจใช่ไหมว่า อาชาวิน อยากลงเล่นกับ อาร์เซนอล” อุสมานอฟ กล่าว
“แน่นอนครับ เขาอยู่กับเราที่นี่คุณต้องการคุยกับเขาไหมครับ” เดนนิส ตอบกลับ
“ไม่ล่ะ มันเป็นเรื่องระหว่างเราสองคน ผมแค่อยากมั่นใจว่า อาชาวิน ต้องการเล่นกับเรา และผมจะต่อสู้เพื่อช่วยให้เขาได้ย้ายทีม แต่คุณการันตีได้ไหมว่าเขาจะประสบความสำเร็จกับอาร์เซนอล” อุสมานอฟ ตอบกลับมา
“ผมไม่สามารถการันตีอะไรที่ผมไม่รู้ได้หรอกครับ” เดนนิส ตอบ
“ตอบได้แย่มาก แต่เอาเถอะ ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจได้ว่า เขาจะเป็น “กันเนอร์ส” ในวันนี้”
“ฟ้ามาโปรด” นั่นคงเป็นความคิดของ เดนนิส แลชเตอร์
อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่า อาชาวิน กับชีวิตในเซนิตฯ นั้นเขาเป็นเหมือนกับมหาเศรษฐีในคราบนักฟุตบอลอาชีพก็ไม่ผิดนัก เพราะเขาได้รับการดูแลอย่างดี แต่การย้ายมาเล่นยังต่างประเทศ มันก็เหมือนกับความฝัน ที่มีราคาที่ต้องจ่าย มีสิ่งที่ต้องแลกมา
อย่างแรกคือ โบนัสหลายอย่างที่ เซนิตฯ พร้อมจ่าย และต้องจ่ายให้ อาชาวิน ประมาณ 2.2 ล้านปอนด์ ซึ่งถึงตรงนั้นเขาเตรียมใจทิ้งมันแล้ว เพื่อให้การย้ายทีมเกิดขึ้น
อย่างที่สองคือเรื่องของ ค่า “น้ำหมึก” จำนวน 2 ล้านปอนด์ ซึ่ง เซนิตฯ เรียกร้องเงินคืนจาก อาชาวิน ตอนต่อสัญญาใหม่กับสโมสร ซึ่งเรื่องนี้
สุดท้ายแล้ว อิวาน กาซิดิส ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับดีล และจบลงด้วยว่าเงินส่วนนี้ อาร์เซนอล จัดการให้ด้วย เพื่อให้ดีลจบ โดยจะใส่เข้าไปรวมกับค่าตัวนักเตะด้วย [เท่ากับว่า อาร์เซนอล จ่ายเงินค่าน้ำหมึกให้ อาชาวิน แทนที่ เซนิตฯ ต้องจ่ายเงินโบนัสให้อาชาวิน สรุป อาร์เซนอล จ่ายเงิน 13 ล้านปอนด์ + 2 ล้านปอนด์ [ค่าน้ำหมึกที่อาชาวินต้องจ่ายคืน] รวมแล้ว 15 ล้านปอนด์] เมื่อรวมกับรายละเอียดปลีกย่อยอื่นที่สามารถเคลียร์กันได้ ทุกอย่างก็น่าจะจบลงด้วยดี ดีลก็น่าจะเกิดขึ้นได้แล้ว
หากใครจำกันได้ในช่วงปี 2009 กับการย้ายทีมครั้งนี้ มีข่าวออกมาว่า “เครื่องแฟกซ์” มีปัญหาทำให้เอกสารของ เซนิตฯ มีปัญหา ทำให้เกิดความล่าช้าเกิดขึ้น ซึ่งถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แม้แต่ตัว เดนนิส เองก็ไม่ทราบเหตุที่แน่ชัด แต่ไม่ว่าจะอะไรก็ตามแต่ สุดท้ายแล้ว เอกสาร และการยื่นเรื่องทุกอย่างจบลงได้ทันเส้นตาย อาชาวิน กลายเป็น นักเตะ ของ อาร์เซนอล จนได้ในที่สุด
“ผมจำได้ว่าทุกอย่างจบลงกันแบบเรียบร้อย สมบูรณ์ ตอนเกือบ 7 โมงเช้า เคน แฟลร์ โทรหาผม และบอกกับเราว่า พาเขามาที่ออฟฟิศของเขาได้เลย”
อาชาวิน กลายเป็น นักเตะ อาร์เซนอล อย่างเป็นทางการ สิ้นสุดเส้นทางความพยายามของ เดนนิส แลชเตอร์ ที่ใช้เวลายาวนานเกือบ 2 ปี ฝันของ อาชาวิน กลายเป็นจริงแล้ว!!