เรื่องราวของ “นักฟุตบอลที่รวยที่สุดในโลก” Part 1

     โบลคิอาห์ เกิดในกรุงลอส แองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในครอบครัวของชาวบรูไน ผู้ซึ่งเขามีศักดิ์เป็นหลานของ สุลต่านบรูไน ผู้มีทรัพย์สินมากกว่า สองแสนล้านปอนด์

     ตามข้อมูลที่ทราบมาเขาย้ายมาใช้ชีวิตในประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ยังเด็ก และมีความสนใจในวงการฟุตบอล เขาลงเล่นกับสโมสร นิวบิวรี่ ซึ่งเป็นสโมสรที่อยู่ใกล้กับโรงเรียนของเขา

     ช่วงชีวิตของเขาในวัยเด็ก เกิดมาบนความหรูหรา และร่ำรวย พ่อเขาเขา เจ้าชาย เจฟรีย์ โบลคิอาห์ เคยสร้างความฮือฮาด้วยการจ่ายเงิน 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐจ้าง ไมเคิล แจ็คสัน ราชาเพลงป๊อปผู้ล่วงลับมาเล่น คอนเสิร์ตส่วนตัว ฉลองวันเกิดตนเองมาแล้ว เช่นเดียวกับการที่มีภาพลักษณ์ของความเป็นเพลย์บอยเต็มตัว กับการมีภรรยา 5 คน และบุตรธิดาอีก 18 คน แน่นอน ฟาอิค คือหนึ่งในนั้น อย่างไรก็ตาม “พ่อ” ก็ให้สิทธิ์ในการใช้ชีวิตของลูกของเขาทุกคน และฟาอิค ก็เลือกที่จะเข้าวงการฟุตบอล

     “ผมโตมาในประเทศอังกฤษ ซึ่งฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยม และผมก็เริ่มเล่นมาตั้งแต่เด็ก ผมคิดว่าตัวเองเป็นคนรักกีฬามากคนหนึ่ง และฟุตบอลก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ผมเล่นมาโดยตลอด และศึกษาเรื่องราวของมันอย่างจริงจัง”

     ฟาอิค โบลคิอาห์ เริ่มต้นการเล่นฟุตบอลกับสโมสรฟุตบอลที่ชื่อว่า วูลตัน ฮิลล์ อาร์ไกล์ ซึ่งเป็นสโมสรในหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ ก่อนที่ย้ายไปเล่นกับสโมสร นิวบิวรี่ สโมสรฟุตบอลใกล้กับโรงเรียนของเขา และนั่น..ทำให้เรื่องราวของความเป็น พระญาติในราชวงศ์บรูไน เป็นที่รู้จักในวงการฟุตบอลเป็นครั้งแรก

     “ตอนแรกที่ ฟาอิค ส่งเอกสารมาให้กับเรา เขาระบุว่ามาจาก วูลตัน ฮิลล์ ซึ่งตอนแรกมันเป็นโรงแรมมาก่อน แต่ตอนหลังพวกเขาซื้อมา และปรับให้มันกลายเป็นบ้าน ก็แน่ล่ะว่าพวกเขาคือส่วนหนึ่งของราชวงศ์บรูไน ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้ปิดบังอะไร แต่สิ่งที่น่าประทับใจสำหรับผมคือ พวกเขาไม่แสดงท่าทีหยิ่ง ตรงกันข้ามกลับมีความสุภาพ และถ่อมตนอย่างยิ่ง ฟาอิค ก็เหมือนเด็กคนหนึ่งทั่วไป เขาไม่ได้ทำให้สิ่งรอบข้างเขาทำให้เขาเกิดความแตกต่าง” พอล มอร์แกน อดีตผู้จัดการทีมเยาวชนของ นิวบิวรี่ กล่าว

     “เดนนิส วัลเลซ ซึ่งเคยเป็นนักบาสเก็ตบอลอาชีพมาก่อน เป็นญาติกับครอบครัวนี้ มีลูกชื่อ อูกาสยา ซึ่งสนิทกับ ฟาอิค และก็เล่นฟุตบอลด้วยกัน ทุกครั้งที่มีซ้อมฟุตบอล พวกเขาจะขับรถแวนสีดำ มาส่งเด็กทั้งสองคน พร้อมกับ อาหารมากมาย สำหรับแบ่งปันให้กับนักเตะในทีมทุกคน และเท่าที่ผมทราบ พวกเขาสองคนถูกส่งเรียนรู้ทั้งการศึกษา และกีฬาอย่างจริงจัง ผมคิดว่ามันเป็นการฝึกสอน ปลูกฝัง แนวคิดให้พวกเขาเติบโตขึ้นมา เมื่อมีเป้าหมายอยากทำอะไรให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตนเองต้องการ”

     ชีวิตของ ฟาอิค และ อูราสกยา เริ่มต้นขึ้นที่ นิวบิวรี่ แต่ก็อยู่ได้เพียงหนึ่งปีเท่านั้น เมื่อพวกเขาสองคนได้รับความสนใจจาก “นักบุญแดนใต้” เซาธ์แธมป์ตัน เชิญ ฟาอิค ซึ่งเวลานั้นลงเล่นเป็นกองหน้า และ อูราสกยา เล่นเป็นกองกลาง ไปร่วมทีมเยาวชนด้วย

     “ผมคิดว่า ฟาอิค เป็นนักเตะที่มีความเร็ว และมีทักษะที่ดี แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเล่นแบบไม่เห็นแก่ตัว ซึ่งเรื่องสุดท้ายนี่ล่ะ ที่ผมคิดว่า เซาธ์แธมป์ตัน อยากได้ตัวเขา พวกเขาอยากได้นักเตะที่นำทีมได้ แต่ก็เล่นเพื่อทีมได้ด้วยเช่นกัน ฟาอิค เป็นเด็กแบบนั้น และนั่นทำให้เขาได้รับความรักจากเพื่อนร่วมทีมของเขา”