ด้วยวัย 22 ปี มิทเชล เดนนิส เบิร์กแคมป์ กลับมาสู่อังกฤษ แผ่นดินที่เขาเกิดอีกครั้ง เขาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่นานถึง 7 ปี ก่อนย้ายกลับไปยัง เนเธอร์แลนด์ ตามพ่อซึ่งเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพกับอาร์เซนอล
การย้ายมาสู่ วัตฟอร์ต ของ มิทเชล ไม่ต่างจากการกลับบ้าน เพราะสนามซ้อมของ วัตฟอร์ต กับ อาร์เซนอล อยู่ติดกัน
“มันเป็นความรู้สึกแบบเดิมที่คุ้นเคย จากที่ผมเคยมาสนามซ้อมอาร์เซนอล ร้านค้า เซนต์บิวรี่ ที่ผมเคยซื้อของสมัยเด็ก ก็ยังอยู่ที่เดิม โรงเรียน ที่ผมเคยอยู่ก็ยังอยู่ มันเหมือนกับการกลับบ้านอีกครั้งมาก เพราะผมคิดเสมอว่าผมมีความเป็นอังกฤษ มากกว่าเป็น ดัตซ์ ผมรักวัฒนธรรม และบรรยากาศของอังกฤษ” มิทเชล กล่าว หลังการย้ายทีมสู่ วัตฟอร์ต เกิดขึ้น
เดนนิส เบิร์กแคมป์ มีลูกทั้งหมด 4 คน โดย เอสเตเล่ เบิร์กแคมป์ ลูกสาวคนโต ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่อาศัยอยู่ใน อังกฤษ โดยเธอเป็นแฟนสาวของ ดอนนี่ ฟาน เดอ บีค กองกลางทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และย้ายมาอยู่ด้วยกันในช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา โดย ฟาน เดอ บีค คือหนึ่งในลูกศิษย์ของ เบิร์กแคมป์ สมัยที่ยังคงเป็น นักเตะ เยาวชนของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม
“ในปีแรกที่ผมเข้าไปทำงานเป็น โค้ช ของอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ดอนนี่ ก็อยู่ในทีมของผม ตอนนั้นเขาอายุ 11 ไม่ก็ 12 ปี และผมก็ติดตามดูพัฒนาการของเขามาตลอด เขาเป็น นักเตะ ที่มีความสามารถ เป็นคนที่กห้าวหาญ ดังนั้นเมื่อวันหนึ่ง พวกเขาตัดสินใจคบกัน มันทำให้ผมเชื่อได้ว่า เขาจะสามารถดูแล และปกป้องเธอได้แน่นอน” เบิร์กแคมป์ กล่าวถึงลูกสาวคนโตของเขา
นอกจาก เอสเตเล่ และ มิทเชล เดนนิส เบิร์กแคมป์ ยังมีลูกสาวอีกสองคน นั่นก็คือ ยาสมิน และ แซฟฟร่อน ซึ่งทั้งสองก็เกิดในลอนดอน โดยทั้งคู่เลือก เส้นทาง ที่ต่างออกไปจากฟุตบอล ด้วยการเลือกเล่นกีฬา ฮอคกี้ น้ำแข็ง และมีผลงานโดดเด่นจนกลายเป็น นักกีฬาทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ และผ่านการลงเล่นใน ทัวร์นาเมนต์ระดับชาติมาแล้ว
ครอบครัวของเบิร์กแคมป์ กำลังเติบโตขึ้น และต่างมีเส้นทางเป็นของตนเอง เช่นเดียวกับ เบิร์กแคมป์ ที่ก็ยังคงรู้สึกว่าตนเอง ยังอยากที่จะทำงานต่อไป
“ผมยังคงมีแรงปรารถนาในการที่จะทำงานในสนามฟุตบอลอีกครั้ง ร่วมกับทีมงาน และนักเตะในทีม ได้เป็นส่วนหนึ่งของ สโมสรฟุตบอลอีกครั้ง เช่นเดียวกับการได้อยู่บ้าน และมีความสุขกับชีวิต ผมมีแนวทางการทำงานที่อยากจะเป็น หรือถ้าสุดท้ายผมกลับไปทำงานกับ อาร์เซนอล หรือจะเป็นสโมสรอื่นก็ตาม ผมก็ยังไม่แน่ใจ แต่ในเวลานี้ ครอบครัวของผมก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงชัดเจน ส่วนผมคิดว่า อนาคตผมมีโอกาสที่จะไปทำงานต่างประเทศ และน่าจะเป็น อังกฤษ และทำงานในตำแหน่งที่ผมจะได้ทำงานในสิ่งที่เป็นตัวตนของผมอีกครั้ง”
อย่างไรก็ตามในช่วงปี 2019 เบิร์กแคมป์ ได้พบกับ เอียน ไรท์ ผ่านทางรายการหนึ่ง ที่ เอียน ไรท์ เป็นพิธีกรรายการ โดย “ไรท์ตี้” เดินทางมาหาเบิร์กแคมป์ ที่บ้านใน อัมสเตอร์ดัม และหลังการถ่ายทำ ก็มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับ มิทเชล เบิร์กแคมป์
“เอียน มาคุยกับผมเกี่ยวกับมิทเชล และถามว่าทำไมไม่ให้ เขาไปลองหาประสบการณ์ในการเล่นฟุตบอลที่อังกฤษ ดูบ้างล่ะ ทำไมไม่ไปลองที่อาร์เซนอล นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการที่ มิทเชล ได้รับการเรียกตัวไปทดสอบความสามารถที่ อาร์เซนอล ในฤดูกาลที่แล้ว (2019-2020)”
โดยในช่วงที่ไวรัส โควิด-19 ระบาด ทุกลีกในยุโรปมีการพักการแข่งขัน รวมถึงในเนเธอร์แลนด์ เบิร์กแคมป์ ตัดสินใจให้ มิทเชล ลงซ้อมเป็นการส่วนตัวกับเขา ก่อนที่ มิทเชล จะไปทดสอบฝีเท้ากับ อาร์เซนอล ในช่วงปลายปี
“ด้วยอายุของเขา (22 ปี) ทำให้ อาร์เซนอล ไม่สนใจที่จะเก็บเขาไว้ต่อในทีมเยาวชน เพราะเขาทำได้ดีในช่วงการซ้อมกับทีมได้ดีมาก สำหรับผมนั่นคือ สิ่งสำคัญที่ได้เห็นว่าเขาสามารถรับมือ กับการเล่นในระดับสูงได้”
การทดสอบความสามารถกับ อาร์เซนอล จบลงด้วยการที่ มิทเชล ไม่ได้รับสัญญาถาวร ก่อนที่จะได้ไปลงเอย กับ วัตฟอร์ต ซึ่งทีมตกชั้นไปเล่นในระดับ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
“อาร์เซนอล กับ วัตฟอร์ต มีความสัมพันธ์ที่ดีมาตลอด เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน รวมถึงมี นักเตะ หลายคนของทั้งสองสโมสร เคยทำงานกับสองทีมนี้ โอเมอร์ ริซ่า และ เกรแฮม สแต็ค ทั้งสองคนเคยเป็น นักเตะ เยาวชนของ อาร์เซนอล โดยเฉพาะ สแต็ค คือ นายทวาร ในช่วงยุคไร้พ่ายของทีมปืนใหญ่ ตอนนี้ทั้งสองคนทำงานเป็นโค้ชของทีมเยาวชน วัตฟอร์ต ส่วน สตีฟ โบลด์, เอดู รวมถึงเอียน ต่างก็ยังแวะเวียนเข้ามาที่ อาร์เซนอล โดย มิทเชล ได้ลงทดสอบความสามารถกับ วัตฟอร์ด และผลตอบรับที่ออกมาเป็นไปในเชิงบวก หลังจากทดสอบฝีเท้าจบลง ทุกอย่างก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่พอตลาดการ ซื้อขาย รอบล่าสุด พรีเมียร์ ลีก มีกฎใหม่ หลังการ “เบร็กซ์อิท” (BREXIT) ที่ซึ่งจะมีการวัดผลคะแนนเกี่ยวกับการอนุมัติ นักเตะ ต่างชาติเข้ามาเล่นในอังกฤษ และมันก็ไม่ง่ายสำหรับเขาในการย้ายมา แต่สุดท้ายทุกอย่างก็จบลงด้วยดี วัตฟอร์ต พอใจกับผลงานของเขา ส่วน มิทเชลก็สนใจย้ายมาร่วมงาน และมันก็จบลงด้วยดี ส่วนตัวผมมองว่า ลูกชายผมมีโอกาสที่ยอดเยี่ยมในครั้งนี้”
อย่างไรก็ตาม มิทเชล เบิร์กแคมป์ กับ วัตฟอร์ด เซ็นสัญญากันในระยะเวลา 6 เดือน และหากผลงานเป็นที่น่าพอใจ ก็จะพิจารณาสัญญาใหม่ในอนาคต แต่ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บ ทำให้กว่าเขาจะได้ลงสนามก็ต้องรอเวลาผ่านไปนานหนึ่งเดือน ในเกมระดับอายุต่ำกว่า 23 ปี ซึ่งพบกับ ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส
เส้นทางของเขาเริ่มต้นขึ้นแล้ว กับ ประเทศที่เขาเกิด
โปรดติดตามตอนต่อไป