หากจะพูดถึงกองหน้าที่ร้อนแรงที่สุดในฤดูกาลนี้ ชื่อของ เออร์ลิง เบร้าส์ ฮาแลนด์ อาจจะอยู่โผของความยอดเยี่ยมตลอดหนึ่งฤดูกาลครึ่งของเขา กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนต์ และตลาดการซื้อขายรอบที่จะถึงนี้ เราคงได้อ่านเรื่องข่าวการย้ายทีมของเขาจนเอียน
อย่างไรก็ตามหากมองในเรื่องของมาตรฐานความสม่ำเสมอในการลงเล่นแล้วชื่อของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (32 ปี สัญญาถึงกลางปี 2023) ยอดหัวหอกทีมชาติโปแลนด์ของ บาเยิร์น มิวนิค จัดว่าเป็นกองหน้าที่ผลงานสม่ำเสมอที่สุดในรอบ 10 ปี ของวงการฟุตบอลยุโรป และบุนเดสลีกา เยอรมัน โดยเฉพาะในบุนเดสลีกา ซึ่งเข้าสู่ฤดูกาลที่ 11 ของเขาแล้ว นับจากย้ายจาก เลอ พอซนาน สโมสรในบ้านเกิดในปี 2010
ตลอด 11 ปีที่ผ่านมานับจาก นับจากเปิดตัวใน บุนเดสลีกา กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนต์ ในฤดูกาล 2010-2011 มีเพียงฤดูกาลแรกเท่านั้นที่เขาทำประตูได้ไม่ถึงสองหลัก หลังจากนั้นมา 10 ปีต่อติดกันที่เขาทำประตูแบบรัวไม่หยุดมาอย่างต่อเนื่อง และกำลังใกล้คว้ารางวัล รองเท้าทองคำ หรือดาวซัลโวสูงสุดของลีก เป็นสมัยที่ 6 จาก 11 ปีที่ลงเล่น และเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกันที่คว้ารางวัลนี้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามความร้อนแรงของ “เลวาน” ในฤดูกาลนี้ ต้องบอกว่าพิเศษสุด แม้ในแง่ของผลงานของทีมจะค่อนข้างน่าผิดหวัง กับการพลาดการป้องกันแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปเรียบร้อยแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่พลาดแชมป์ บุนเดสลีกา สมัยที่ 9 ติดต่อกัน พร้อมกับเป็นแชมป์สมัยที่ 30 ของสโมสร ซึ่งจะได้รับ “ดาว เกียรติยศ” ดวงที่ 5 บนอกเสื้อในฤดูกาลหน้า เป็นสโมสรที่ได้รับเกียรติยศดังกล่าว
ขณะที่ เลวานดอฟสกี้ ผลงานอย่างยอดเยี่ยม เขาลงเล่นไปแล้ว 38 เกม ทำไปทั้งหมด 46 ประตู ในทุกรายการ ขณะที่ใน บุนเดสลีกา ลงเล่นไปแล้ว 27 เกม ทำไปทั้งหมด 39 ประตู สูงที่สุดเท่าที่ เลวานดอฟสกี้ ทำเอาไว้ในลีกตลอด 11 ฤดูกาล
สถิติที่ เลวานดอฟสกี้ สร้างขึ้นในฤดูกาลนี้ ทำให้เขาต้องการอีกเพียง 1 ประตู เขาจะทำสถิติ สถิติยิงประตูมากที่สุดใน บุนเดสลีกา ในหนึ่งฤดูกาลของ แกร์ด มุลเลอร์ ยอดตำนานดาวยิงของบาเยิร์น มิวนิค และ ทีมชาติเยอรมัน ซึ่งทำได้ 40 ประตู ในฤดูกาล 1971-1972 ที่อยู่มายาวนานถึง 50 ปี โดย เลวานดอฟสกี้ เหลือโอกาสอีก 2 เกมสุดท้ายในฤดูกาลนี้ เพื่อเทียบเท่า และ ก้าวข้ามสถิติของ “แดร์ บอมเบอร์”ตรงนี้ไปให้ได้ ซึ่งเหยื่อของการล่าประตูอีกสองสโมสรที่เหลือในฤดูกาลนี้คือ ไฟร์บวร์ก และ เอ้าสบวร์ก
“เลวาน เป็นคนที่มีคุณภาพอย่างยิ่งในเรื่องการทำประตู เรากำลังพูดถึงกองหน้าระดับโลก กองหน้าของเรา สำหรับผมแล้วเขาคือกองหน้าที่อันตรายที่สุดในกรอบเขตโทษ ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ทุกฤดูกาล เขายิงมากกว่า 25 ประตูให้ทีมได้เสมอ และครั้งนี้เขากำลังจะยิงครบ 50 ประตู ได้เป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน และสำหรับสถิติของ แกร์ด มุลเลอร์ ที่ทำไว้ต่อฤดูกาล เขาจะกลายเป็นเจ้าของสถิติใหม่อย่างแน่นอน เราทุกคนมั่นใจอย่างยิ่ง” ฮันซี่ ฟลิค นายใหญ่คนปัจจุบันของ บาเยิร์น มิวนิค กล่าว
อย่างไรก็ตามเป้าหมายสูงสุดกับการเป็นดาวยิงสูงสุดอันดับหนึ่งของ บุนเดสลีกา ยังคงต้องห่างไกลอยู่มาก จาก อันดับหนึ่งอย่าง แกร์ด มุลเลอร์ อีกเช่นกัน ซึ่ง มุลเลอร์ ทำไว้ที่ 427 เกม 365 ประตู กับ 14 ปี ในบุนเดสลีกา กับบาเยิร์น มิวนิค เพียงสโมสรเดียว (มุลเลอร์ ลงเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค ทั้งหมด 15 ฤดูกาล โดยฤดูกาลแรกลงเล่นในลีกสองของเยอรมัน) ซึ่งถ้าดูตามระยะสัญญาที่เหลืออยู่ อีกสองปี ต้องบอกว่างานหินอย่างมาก สำหรับดาวยิงโปลิช ในการก้าวไปเป็นเบอร์หนึ่งของการถล่มประตูในวงการฟุตบอลเยอรมัน
โดย ณ เวลานี้ เลวานดอฟสกี้ ลงเล่นใน บุนเดสลีกา ไปแล้ว 348 เกม ทำไปทั้งสิ้น 275 ประตู (ทั้งจาก ดอร์ทมุนต์ และ บาเยิร์น มิวนิค) เป็นอันดับสองในลิสต์นี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับหลักไมล์ 300 ประตู มีโอกาสเป็นไปได้สูงมาก และจะเป็นคนแรกในรอบกว่า 40 ปี ต่อจาก มุลเลอร์ ที่ยิงได้ถึงหลัก 300 ประตู
สำหรับ บาเยิร์น มิวนิค กับ เลวานดอฟสกี้ เข้าสู่ฤดูกาลที่ 7 ร่วมกัน และเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด ทั้งในแง่ของชื่อเสียง และความสำเร็จที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย เลวานดอฟสกี้ เข้ามาสู่ทีมในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และเป็นกองหน้าหมายเลข 1 ของสโมสรนับจากนั้นเป็นต้นมา
7 แชมป์บุนเดสลีกา ตลอด 7 ฤดูกาลติดต่อกัน 4 แชมป์ เดเอฟเบ โพคาล 1 แชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิล์ด คัพ และ 1 ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ความสำเร็จในระดับสโมสรได้รับการเติมเต็มซึ่งกันและกันจนครบ เหลือเพียงรางวัลส่วนตัวอย่าง บัลลง ดอร์ ที่ปีนี้เขามีลุ้นเต็มตัว หลังจากปีที่แล้ว งดการแจกรางวัลดังกล่าว เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัส โควิด-19
ที่เหลือต่อจากนี้กับสัญญาอีกสองปี ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะมีการพูดคุยสัญญาใหม่หรือไม่ แต่ที่แน่นอนคือ ณ เวลานี้ บาเยิร์น มิวนิค ยังคงเชื่อมั่นกับเขาอย่างเต็มเปี่ยม และตอกย้ำมันด้วยการที่พวกเขา ไม่มีข่าวอย่างจริงจังในการล่าตัว เออร์ลิง เบร้าส์ ฮาแลนด์ ในตลาดการซื้อขายรอบที่จะถึงนี้ เพราะพวกเขามี เลวานดอฟสกี้ อยู่ภายในทีมแล้วนั่นเอง