ufabet ทีเด็ด บอล วันนี้ ราคา บอล

ลาร์ส & สเวน : เกิดวันเดียวกัน เล่นฟุตบอลด้วยกัน และเลิกเล่นพร้อมกัน

     สุดสัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์สุดท้ายของฟุตบอลหลายลีก รวมถึง บุนเดสลีกา เยอรมัน ซึ่งชัดเจนไปแล้วว่า บาเยิร์น มิวนิค ได้ฉลองแชมป์กันอีกปี ใครเป็นสาวกเสือใต้ นี่ เฮจนเสียงแหบแห้งบ่อยมาก แต่เชื่อเถอะ ความสำเร็จแบบนี้ตะเบ็งจนคอแตกมันก็มีความสุข ยินดีกับพี่เสือ และแฟนของพี่เสือด้วย พร้อมกับลุ้นว่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงโปแลนด์ จะ “ยืนหนึ่ง” เป็นดาวยิงคนแรกในบุนเดสลีกา ที่ทำคนเดียวเกิน 40 ประตูได้หรือไม่ ในเกมสุดท้ายของฤดูกาลนี้

 

     แต่บทความนี้เราไม่ได้มาพูดคุยเกี่ยวกับ บาเยิร์น มิวนิค แต่เราจะมาโฟกัสไปที่สโมสร ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในเกมที่พวกเขาจะออกไปเยือน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนต์ ในเกมส่งท้ายฤดูกาลนี้ เพราะนี่จะเป็นเกมสุดท้ายของ ฝาแฝดดีกรีทีมชาติเยอรมัน “ตระกูลเบนเดอร์” ลาร์ส & สเวน บนวัยเพียง 32 ปี โดย สเวน เบนเดอร์ (ทีมชาติเยอรมัน 7 เกม) เป็นนับเป็นพี่ชายของลาร์ส เบนเดอร์ (ทีมชาติเยอรมัน 19 เกม)

พวกเขาสองคนเกิดวันที่ 27 เมษายน

     พวกเขาสองคนเกิดวันที่ 27 เมษายน 1989 เริ่มต้นการเล่นฟุตบอลพร้อมกัน กับสโมสร ทีเอสวี บราเนนเบิร์ก ก่อนที่สุดท้ายจะมาเข้าสู่วงการฟุตบอลอาชีพอย่างจริงจังกับสโมสร 1860 มิวนิค และขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ในปี 2006 ก่อนที่ทั้งสองคนแยกสโมสรกันในปี 2009

 

  • ลาร์ส ย้ายไปเล่นกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น จวบจนวันสุดท้ายของการเล่นฟุตบอลรวมแล้ว 12 ปีกับทีม
  • สเวน เลือกย้ายไปเล่นกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนต์ และคว้าความสำเร็จมาตลอด 8 ปี ก่อนจะย้ายกลับมาร่วมงานกับ ลาร์ส อีกครั้งในปี 2017 ที่ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

 

     ในเกมสุดท้ายของพวกเขาสองคน ลาร์ส เบนเดอร์ ได้รับเกียรติในการเป็นกัปตันทีม และได้รับการยกย่องจากสโมสรให้เป็น “กัปตันเกียรติยศตลอดกาล” ของสโมสร ในฐานะของนักเตะที่รับใช้สโมสรมาอย่างยาวนาน โดยเป็น นักเตะคนที่ 7 ของสโมสรต่อจาก รูดิเดอร์ โวลบอร์น, คาร์สเทน ราเมโลว์, อูลฟ์ เคียร์สเท่น, แบนด์ ชไนเดอร์, ไซม่อน โรลเฟส และ สเตฟาน คีสลิงก์

 

     “ทุกคนรู้ว่าเราสองคนเต็มที่กับฟุตบอลของเราเสมอในทุกวัน ความเต็มที่คือสิ่งแรกที่เราต้องการจากตัวเราเอง น่าเสียดายที่ ถึงวันนี้ความยากมันมากขึ้นเรื่อย ๆ จากปัญหาเกี่ยวกับสภาพร่างกาย และอาการบาดเจ็บ ซึ่งมั่นมีแต่จะเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน”

 

     “การตัดสินใจเลิกเล่น มันก็ไม่มีอะไรมาก ไม่ได้ง่ายในการตัดสินใจ เพราะมันคือการแยกทางกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดี และยาวนาน ทีมมีแผนงานสำหรับอนาคต และเราสองคนอยู่ในแผนนั้นด้วย”

การตัดสินใจยุติบทบาทการเป็น นักเตะ

     การตัดสินใจยุติบทบาทการเป็น นักเตะ อาชีพของพวกเขา เกิดจากความต้องการของพวกเขาสองคน ในเมื่อพวกเขาโตมาด้วยกัน เริ่มเล่นฟุตบอลด้วยกัน อยู่ทีมเดียวกัน แยกทางกัน และกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง ท้ายที่สุดแล้ว มันคงดีถ้าได้เลิกเล่นฟุตบอลพร้อมกัน และพวกเขาประกาศข่าวนี้ออกมาในช่วงปลายปี 2020

 

     “เราได้เล่นฟุตบอลด้วยกันมาตลอด สิ่งเดียวที่เสียใจที่สุด คงเป็นการพลาดแชมป์ร่วมกัน ปีที่แล้วเราเข้าชิง เดเอฟเบ โพคาล เราอยากชนะรายการนี้เพื่อ เลเวอร์คูเซ่น และแน่นอนเพื่อตัวเราสองคนด้วย น่าเสียดายที่มันไม่เกิดขึ้น เราได้ลงเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีกด้วยกัน หัวเราะ ร้องไห้ ไปพร้อมกัน มันเหลือเชื่อมากที่เราสองคนโชคดีเช่นนี้กับการได้ทำอะไรร่วมกันมายาวนาน กับฟุตบอล ผมอยากขอบคุณเหลือเกิน”

 

     “เรากำลังจะได้มีโอกาสบอกลาแฟนบอลในเกมสุดท้าย มันคงมีพี่น้องไม่กี่คู่หรอกที่ได้ทำอะไรแบบนี้ มันคงเป็นอะไรที่พิเศษมาก และเต็มไปด้วยอารมณ์ร่วม แต่มันจะไม่มากพอในการเปลี่ยนใจเราสองคนได้หรอก”

 

     เกมสุดท้ายในการเยือน ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค จะเป็นการกลับไปยัง ดอร์ทมุนต์ เมืองที่ สเวน เบนเดอร์ ใช้เวลายาวนานถึง 8 ปีกับสโมสร คว้าแชมป์มาแล้วทุกรายการในประเทศ รวมถึงการได้ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2013

 

     “มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก เหมือนผมได้ลงเล่นในเกมสุดท้ายที่สนามเป็นคนคุ้นเคยกันสำหรับผม แต่ผมไม่ได้คิดอะไรมากเท่ากับการที่จะได้ลงเล่นกับ ลาร์ส เป็นเกมสุดท้ายในฐานะของ นักเตะ อาชีพ การเจอกับ ดอร์ทมุนต์ คือเรื่องที่เพิ่มความรู้สึกนี้ให้ยอดเยี่ยมเข้าไปอีก ช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมได้คิดถึงเรื่องอะไรมากมาย ช่วงเวลาเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ที่เราสองคนเล่นด้วยกันที่ 1860 มิวนิค มันคือช่วงเวลาที่พวกเราภูมิใจ เรายังคงเป็นแฟนบอลของทีม เราคือ สิงโต (สิงโตคือส่วนหนึ่งของตราสโมสร 1860 มิวนิค) สัตว์ที่มีความงดงามที่สุดเสมอของพวกเรา”

 

     “เราคิดถึงช่วงเวลาที่เราแยกทีมกันลงเล่น และเจอกันในฐานะของคู่แข่ง เราคือพี่น้องกันนอกสนาม ในสนามเราเต็มที่กับการทำงาน เพราะเราคือมืออาชีพ การได้ย้ายมาที่ เลเวอร์คูเซ่น ได้ร่วมงานกับ ลาร์ส อีกครั้ง มันคือสิ่งที่ทำไปตามความรู้สึก และโอกาส ผมอยู่กับ ดอร์ทมุนต์มา 8 ปี ไม่ง่ายเลยในวันที่ผมใส่เสื้อ เลเวอร์คูเซ่น ไปยืนต่อหน้ากำแพงสีเหลือง (The Yellow Wall กลุ่มแฟนบอลอันลือลั่นของดอร์ทมุนต์) แต่ในทางกลับกัน ผมได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากพวกเขา ขอบคุณที่รัก และเข้าใจในการย้ายทีมของผม”

จาก ลาร์ส ถึง สเวน

 

     “ก่อนอื่นเลย สเวน ประสบความสำเร็จมากกว่าผมในเรื่องของถ้วยรางวัล ในแง่ของความเป็นพี่น้องกัน ผมมองว่ามันคือแชมป์ของครอบครัวของเรา ผมคิดแบบนี้เช่นเดียวกับน้องสาวของเรา รวมถึงพ่อกับแม่ เขาเป็นคนที่พัฒนาการเล่นฟุตบอลได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นหนึ่งในกองกลางตัวรับที่เก่งที่สุดคนหนึ่ง ติดทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่ มีโมเมนต์แห่งความทรงจำมากมาย”

 

จาก สเวน ถึง ลาร์ส

 

     “เขาคือนักเตะที่อุทิศการเล่นฟุตบอลเพื่อทีม หนึ่งในนักเตะเพียงไม่กี่คนในยุคนี้ ที่จะลงเล่นกับสโมสรเดียวยาวนาน และกำลังจะจากไปในฐานะของ ตำนานสโมสร ผมเสียดายที่เขาไม่ประสบความสำเร็จในระดับสูงสุด มันน่าเสียดายในมุมของผม ส่วนหนึ่งผมมาเลเวอร์คูเซ่น เพราะผมอยากช่วยให้ เลเวอร์คูเซ่น และลาร์ส ประสบความสำเร็จให้ได้ และเช่นเดียวกันมันก็เป็นแรงขับดันให้กับผมเช่นเดียวกันในการทำงานท้าทายนี้ ไปพร้อมกับสนับสนุน ลาร์ส เสมอ และจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป ฟุตบอลบางครั้งมันไม่ได้สมหวังดังใจเราทุกอย่าง แม้ว่าให้ตายเถอะ เราจะทุ่มเทลงไปจนหมดแล้วก็ตาม แต่เมื่อจบลง อะไรคือสิ่งสำคัญในความทุ่มเทเหล่านั้น เราเหลืออะไรให้คนจดจำเราได้บ้าง ลาร์ส จะถูกผู้คนจดจำว่าคือ นักเตะที่ทุ่มเทให้กับ เลเวอร์คูเซ่น มากแค่ไหน เพื่อให้ทีมไปถึงเป้าหมายให้ได้ แม้ไม่ประสบความสำเร็จ แต่สิ่งที่เขาทำ จะได้รับการจดจำตลอดไป”

 

     “เราสองคนไม่ได้เสียใจอะไรกับการตัดสินใจ แต่เราก็จะไม่ลืมช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในสนามฟุตบอล เพราะมันคือความสุขในทุกนาทีของชีวิตเราสองคน เรามาถึงบทบาทสุดท้ายของเรื่องราวแล้วกับ เลเวอร์คูเซ่น และเราอยากให้มันจบลงอย่างงดงามที่สุดให้ได้ หลังจากนั้นพวกเราจะกลับบ้านของเรา ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และเป็นส่วนตัวที่สุดในแบบที่เราต้องการ ส่วนที่เหลือให้อนาคตเป็นคนบอกก็แล้วกัน”

 

ขอให้โชคดีกับอนาคตข้างหน้านับจากนี้ “พี่น้องเบนเดอร์” #DankeLars #DankeSven

Ads ทีเด็ด บอล เต็ง วันนี้ ฟุตบอล วันนี้