ห่างหายไปนานจาก บทความ “เรื่องเล่าผ่านเสื้อบอล” ไปพอสมควร มาวันนี้ ผู้เขียนมีหนึ่งเรื่องราวมาบอกเล่าให้ได้อ่านกัน กับเรื่องราวของเสื้อฟุตบอล
เสื้อฟุตบอลในยุคนี้ อะไร ๆ ก็ดูจะเป็นแพทเทิร์นไปเสียมากแล้วนะครับ หลังจากที่ แบรนด์ระดับโลกมากมายเข้ามาสู่ธุรกิจนี้ บางทีมเป็นสโมสรใหญ่ก็อาจจะได้รับการออกแบบที่สวยเฉพาะตัวจากผู้ผลิต ในขณะที่บางทีมก็อาจจะได้เสื้อดีไซน์แบบเดียวกัน แค่เปลี่ยนสีเปลี่ยนตราสโมสรเท่านั้น ก็เคยเห็นกันมาแล้ว อย่างไรก็ตาม ครั้งหนึ่งในโลกของฟุตบอล เรามี “เสื้อฟุตบอล” ตัวหนึ่งที่ได้รับการยกย่องจากเหล่าแฟนบอลว่าเป็นหนึ่งในเสื้อที่เรียกว่า “ภาพจำ” ของวงการฟุตบอล เพราะนี่คือเสื้อที่ นักเตะ คนนี้ออกแบบเอง ใช้เอง และมันออกแบบมาเพื่อเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น และเขาเป็นพระเอกของบทความนี้ครับ
ฆอร์เก้ คัมโปส (55 ปี) เจ้าของส่วนสูงเพียง 168 เซนติเมตรได้รับการยกย่องว่าคือนายทวารที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล เม็กซิโก เขาติดทีมชาติมากถึง 130 เกม ตลอด 13 ปี ผ่านการลงเล่นระดับสโมสรอาชีพมากกว่า 400 เกม ลงเล่นมาแล้วทั้งใน เม็กซิโก และ สหรัฐอเมริกา
คัมโปส เริ่มเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก ก่อนเข้าสู่วงการฟุตบอลกับสโมสร พูมาส ในปี 1988 ในฐานะของนายทวารที่มาพร้อมกับลีลาการเล่นนอกเขตโทษที่เป็นเอกลักษณ์ ปฏิกิริยาว่องไว ปราดเปรียว และฟอร์มเซฟที่ไม่ธรรมดา แน่นอนเขาไม่ใช่นายทวารตัวสูง จะบอกว่าตัวเล็กเลยก็ว่าได้ แต่ด้วยศักยภาพที่กล่าวไว้ด้านบน ก็ถูกนำมาทดแทนสรีระร่างกายของเขา และเป็น “สวีปเปอร์ คีปเปอร์” คนแรก ๆ ของวงการฟุตบอล
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งจุดที่ทำให้ คัมโปส ไม่เหมือนใครนั่นคือ เขาไม่ใช่นายทวารเพียงอย่างเดียว ในบางครั้งเขายังสลับตำแหน่งตัวเองไปเล่นกองหน้าก็ทำมาแล้ว โดยเขามีสถิติยิงประตูได้ถึง 35 ประตู ตลอดชีวิตการเล่นของตัวเอง ดังนั้นคุณไม่ต้องแปลกใจถ้าค้น Google แล้วจะเห็นว่าทำไมบางเกม คัมโปส สวมเสื้อหมายเลข 1 บ้าง หมายเลข 9 หรือหมายเลขอื่นบ้าง เพราะเขาเป็นมาแล้วทั้งนายทวาร และกองหน้าในเกมเดียวกันก็เคยมาแล้วอีกเช่นกัน โดยครั้งหนึ่ง การ์ตูนมังงะชื่อดังอย่าง “กัปตันสึบาสะ” เคยสร้างตัวละคร นายทวารเม็กซิโก ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเขาคนนี้มาแล้ว เรียกว่าโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
แต่อีกหนึ่งภาพจำของเขาที่เด่นชัดที่สุดไม่น้อยกว่าผลงานของเขาคือ “เสื้อแข่ง” ของเขา โดยเฉพาะกับทีมชาติเม็กซิโก ที่ต้องบอกว่าใครเห็นก็ว่าแสบตา เพราะสีสันมันจัดจ้านเสียเหลือเกิน ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการออกแบบ เลือกเนื้อผ้า และลงมือทำเองของเขา หรือบางทีก็ให้เพื่อนของเขาเพ้นท์สีลงไปตามต้องการ กับที่มาของสีสัน และลวดลายบนเสื้อ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก ความคิดถึงบ้านของ “โบรดี้” (ชื่อเล่นของ คัมโปส) ที่อยากถ่ายทอดความคิดถึงเหล่านั้นผ่านเสื้อบอลของเขาเอง
“ผมไม่เคยคิดเลยนะว่าสิ่งที่ผมทำ มันจะเป็นที่ชื่นชอบของใครต่อใคร ไม่คิดเลย”
“ผมเป็นคนชอบสีสัน ผมชอบท้องทะเลของเมือง อากาปุลโก้ เมืองที่ผมเกิดในเม็กซิโก ผู้คนมากมายมาที่นี่เพื่อเล่นเซิร์ฟ ผมหลงรักทุกอย่างที่นั่น รักชายหาด หลงรักในท้องทะเล กระดานโต้คลื่น ภาพของเด็กวิ่งเล่นบนชายหาด ผมคิดถึงมัน แต่ผมเลือกที่จะเล่นฟุตบอล และนั่นทำให้ผมต้องจากสิ่งเหล่านั้นมาเพื่อความฝันของตนเอง และผมอยากนำเรื่องราวเหล่านั้นติดตัวผมมาด้วย มันจึงเป็นที่มาของการออกแบบ แต่ผมไม่คิดหรอกนะว่ามันจะเป็นการปฏิวัติวงการเสื้อแข่งอะไร ผมแค่ชอบ ผมก็ทำ ไม่ได้คิดว่าใครจะมาชอบ หรือกลายเป็นที่ต้องการของใครเลยด้วยซ้ำ”
“ผมไม่ใช่ นักออกแบบมืออาชีพอะไรหรอก ผมแค่ชอบออกแบบ ผมมีเพื่อนมีแบรนด์เสื้อผ้าในเมือง อากาปูลโก้ และผมเรียนรู้การออกแบบจากเขา พัฒนามันเรื่อยมา หากคุณมองมัน และรู้สีกว่ามันน่าเกลียดไม่สวยเอาเสียเลยกับดีไซน์ที่ออกมา ผมอยากบอกว่าเชื่อผมเถอะ มันเคยผ่านความน่าเกลียดมากกว่านี้มาแล้ว”
คัมโปส กับ สีสัน กลายเป็นของคู่กัน ในช่วงทศวรรษที่ 80 ถึงกลาง 90 คัมโปส ออกแบบเสื้อ (รวมไปถึงกางเกง) ของตนเองเกือบทุกตัว สีสันแสบตาตามแบบที่เขาชื่นชอบ ชอบมากขนาดที่ว่าต่อมาเจ้าตัวมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตนเอง เพื่อนำมาใส่เอง บางตัวมีการเขียนคำว่า อากาปูลโก้ เมืองบ้านเกิดของตัวเองติดไว้บนเสื้อด้วยก็มี บางตัวก็ลวดลายนับไม่ถูกเลยว่ามีกี่สี แต่ยิ่งใส่ คนก็ยิ่งจำ นานวันไปคนก็ยิ่งชอบ กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนสุดท้ายเมื่อ แบรนด์ระดับโลกเข้ามาสนับสนุนทีมอย่างเช่น ไนกี้ หรือว่า อัมโบร ก็ยังต้องเปิดทางให้เขาได้ออกแบบเสื้อในแบบของเขาเอง และติดตราแบรนด์ของพวกเขาลงสนามไปด้วย
“พอนานวันเข้า กลายเป็นว่าคนกลับชื่นชอบมันมาก หลังเกมทุกเกมผมจะมีคนมาขอแลกเสื้อกับผม แฟนบอลโดยเฉพาะเด็ก ๆ อยากได้เสื้อของผม ผู้เล่นบางคนเอ่ยปากขอเสื้อผมเอาไปให้ลูกของเขา บอกว่าลูกเขาชอบเสื้อของผมมาก ผมเลยให้เสื้อพวกเขาไป และพวกเขาก็ให้เสื้อของเขากลับมา มันจะมีเสื้อบางตัวที่ผมออกแบบเองแล้วชอบมาก ๆ ผมอยากใส่ลงสนาม แต่ก็เลือกจะไม่ใส่มันใส่ลงสนาม เพราะรู้ว่าถ้าผมเอามาใส่ ผมจะโดนขอแลกเสื้อแน่ และผมไม่อยากปฏิเสธใคร ดังนั้นผมเก็บไว้ดูคนเดียวดีกว่า”
สมัยในยุคที่ คัมโปส ลงเล่นเรื่องของเสื้อแข่งยังไม่ได้รับการกำหนดแบบตายตัวแบบทุกวันนี้ เสื้อของเขาจึงผ่านการออกแบบด้วยตนเอง และมีการเอาแบรนด์ของทีมมาติดไว้อีกที ซึ่งสิ่งเหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้อีกแล้วในยุคนี้ และในแต่ละเกม คัมโปส จะมีเสื้อของเขาหลายตัวอยู่ในกระเป๋า และมีความสุขกับการเลือกตัวที่ชอบลงสนาม
“ผมสนุกกับการออกแบบเสื้อนะ สมัยนั้น นักเตะ หรือกรรมการไม่มีใครมาใส่ใจเรื่องพวกนี้เท่าไรด้วย ผมก็แค่มีความสุขกับมัน บางเกมกว่าจะรู้ว่าผมจะใส่เสื้อตัวไหน ผมรู้นาทีสุดท้ายเลยก็มี บางเกมเตรียมมา 2-3 ชุด เปลี่ยนมันระหว่างเกมก็มี ชอบอะไรก็ใส่ลงสนามไป”
อย่างไรก็ตามช่วงปลายทศวรรษที่ 90 กฎระเบียบของการแต่งกายมีมากยิ่งขึ้น คัมโปส ก็ไม่ได้ออกแบบเสื้อแข่งในแนวทางของตนเองอีกต่อไป แต่ทุกสโมสรที่เขาลงเล่นก็จะพยายามนำ “สีสันที่อยู่ในกรอบ” มาให้เขาสวมใส่อยู่เสมอ เท่าที่จะเป็นไปได้ จนกระทั่งเจ้าตัวเลิกเล่นฟุตบอลในปี 2004 โดยยังคงเป็นนายทวารที่ติดทีมชาติเม็กซิโก มากที่สุดจนถึงทุกวันนี้ และแม้ว่า คัมโปส จะเลิกเล่นฟุตบอลไปยาวนานเกือบสองทศวรรษแล้ว แต่สิ่งที่เขาทำไว้กับวงการฟุตบอล และเสื้อแข่งของเขา ยังคงอยู่ในความทรงจำของใครหลายคนเสมอ และจะเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลตลอดไป