วงการฟุตบอลนั้น เป็นหนึ่งในกีฬาที่สโมสรสามารถหารายได้เข้ามาได้หลากหลายช่องทางอย่างมากในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา สโมสรฟุตบอลในระดับชั้นนำของประเทศ สามารถหารายได้จากหลากหลายช่องทาง แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นเหมือนกับ หนึ่งในรายได้หลักของพวกเขานั่นก็คือ “เสื้อฟุตบอล”
ทุกวันนี้ “เสื้อฟุตบอล” เป็นมากกว่าเสื้อแข่งขันในสนาม แต่มันกลายเป็น “วัฒนธรรม และแฟชั่น” ของผู้คนไปแล้ว ในทุกปี แฟนบอลของแต่ละสโมสร หรือว่า นักสะสมเสื้อฟุตบอลทั่วโลก ต่างรอคอยที่จะรอชมเสื้อแข่งรุ่นใหม่ ในแต่ละฤดูกาลแข่งขัน
“ทุกการดีไซน์เสื้อแต่ละตัวของสโมสร มันไม่ใช่แค่เพียงหนึ่ง หรือ สองคนที่เข้ามาทำงานในเรื่องนี้ แต่มันคือคนจำนวนมาก มารวมกัน เพื่อการสร้างสรรค์งาน เช่นเดียวกับ ทีมการตลาดที่ต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับสโมสรฟุตบอล และต้องคำนึงถึงสถานการณ์ทางการตลาดเพื่อให้ได้ “เสื้อฟุตบอล” หนึ่งตัว ที่ตรงใจกับผู้คนที่ไม่ใช่แค่ในประเทศที่ตั้งของสโมสร แต่ต้องเป็นแฟนบอลทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตามดีไซน์ ที่ต้องมี “เรื่องราว” ที่เชื่อมโยงกับสโมสร เพราะทุกการดีไซน์ จุดเริ่มต้นของการออกแบบ เราต้องคิดถึงคนกลุ่มแรกสุดก็คือ “แฟนบอลของสโมสร” นั่นเอง”
“การออกแบบเสื้อฟุตบอล มันเป็นสิ่งท้าทายเราอย่างมาก แต่มันก็คือความท้าทายที่เต็มไปด้วยความภูมิใจ และเต็มใจ เราสามารถใส่ไอเดียแนวคิดใหม่ลงไป บนพื้นฐานของข้อจำกัด และเอกลักษณ์ของแต่ละสโมสร มันเป็นเรื่องของความสมดุลย์” เยอร์เก้น แรงคส์ หัวหน้าทีมออกแบบเสื้อฟุตบอลภายใต้แบรนด์ “อาดิดาส” กล่าว
นักเตะภายในทีม นักเตะใหม่ ความสำเร็จของทีม ไปจนถึง ดีไซน์ของเสื้อ และเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละฤดูกาล มีส่วนกับยอดขายของเสื้อฟุตบอลในแต่ละสโมสรทั้งสิ้น โดยที่ผ่านมา สโมสรฟุตบอลทั่วโลก มีการเปลี่ยนแปลงเสื้อแข่ง ฤดูกาลละ 3 ตัว (Home / Away / 3rd) ปีละสามตัว เรียกว่า ดูดเงินเข้าสโมสรกันอย่างเป็นกอบเป็นกำ ยังไม่รวมถึง “รุ่นพิเศษ” ที่ออกมาตามวาระพิเศษ
จากข้อมูลของเว็บไซต์ SCHOLARLYOA ซึ่งเป็นหนึ่งในเว็บที่รวบรวมข้อมูล สถิติหลากหลายเรื่องราว ได้มีการระบุว่าในช่วง 9 เดือน (มกราคม 2020-กันยายน 2020) มีการระบุว่า เสื้อบอลที่มียอดขายที่ดีที่สุด ในหนึ่งปีคือ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับยอดขายทั่วโลกมากกว่า 1.75 ล้านตัว ในช่วงที่ดีที่สุดของพวกเขา แสดงให้เห็นถึงความนิยมในสโมสรที่ได้ชื่อว่า ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง แม้ว่าผลงานในระยะหลังจะห่างหายไปบ้างในเรื่องของถ้วยรางวัลก็ตาม
ขณะที่ บาเยิร์น มิวนิค ที่ซึ่งเป็นสโมสร ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในฤดูกาล 2019-2020 ที่เป็นฤดูกาลที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล พวกเขาได้แชมป์ทุกรายการ ที่พวกเขามีส่วนร่วม เป็นปีที่สุดยอดสำหรับ “เสือใต้” โดยพวกเขามียอดขายมากกว่า 1.1 ล้านตัว กับปีแห่งความสำเร็จของพวกเขา
โดยมีมีการระบุว่า 10 อันดับสโมสรที่มียอดขายเสื้อบอลมากที่สุดในโลก (จนถึงกันยายน 2019) ประกอบไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสถานการณ์ของโควิด-19 ที่ผ่านมา มีข้อมูลเปิดเผยออกมาว่า เสื้อฟุตบอล มียอดการจำหน่ายที่ลดลง ด้วยเรื่องของสภาพเศรษฐกิจ และการระบาดที่ทำให้ทั้งโลกปั่นป่วน ทำให้หลายแบรนด์ ผู้ผลิต รวมถึงสโมสร ต่างต้องมีการ “ลดราคา”เพื่อระบายสินค้ากันอย่างบ้าคลั่ง ก็ส่งผลต่อยอดขายด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ในอีกด้านหนึ่ง เสื้อฟุตบอล ก็เป็นเหมือนของสะสม ราคาแพง สำหรับกลุ่มคนจำนวนไม่น้อย ที่หลงรัก และชื่นชอบในการสะสมเสื้อฟุตบอล ทำให้เสื้อฟุตบอล กลายเป็นหนึ่งใน ของสะสม ที่มีราคาแพงระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น Replica kit (เสื้อแบบจำหน่ายแฟนบอลทั่วไป), Authentic Shirt (เสื้อแบบนักเตะ) และ Match Worn Shirt (เสื้อที่นักเตะผ่านการใช้งานมาแล้ว) ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันออกไป
โดย Match Worn จะเป็นเสื้อที่ถูกประเมินคุณค่าไว้ในลำดับสูงสุด เนื่องจากเป็นเสื้อที่ผ่านการใช้งานจริงมาแล้ว และในหนึ่งเกมการแข่งขัน มีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น
เสื้อฟุตบอล ก็ไม่ต่างจากของสะสมแบบหนึ่ง ซึ่งก็มีทั้ง “พิมพ์นิยม” และ “ทั่วไป” ซึ่งจะมีผลอย่างมากกับราคา และคุณค่าของเสื้อแต่ละตัวด้วย แต่ต้องขึ้นกับสภาพของเสื้อ (Condition) และไซส์ของเสื้อ ด้วยเช่นกัน