โลรองต์ กอสเซียลนี่ (36 ปี) อดีตกองหลังทีมชาติฝรั่งเศส และอาร์เซนอล ตัดสินใจอำลาวงการฟุตบอลแล้ว หลังจากใช้เวลากับเกมระดับอาชีพมาตลอด 18 ปี ของเขาผู้ผ่านการเล่นระดับชาติมา 51 เกมกับทีมชาติฝรั่งเศส
เป็นการจากลาที่เงียบเหงาไปเสียหน่อย แต่ก็ไม่เท่ากับรอยด่างพร้อยเล็ก ๆ ที่ถูกกล่าวหาโดยกลุ่มแฟนบอล บอร์กโดซ์ อัลตร้า กรุ๊ปที่ชื่อว่า UB87 หนึ่งในกลุ่มแฟนบอลของสโมสรสุดท้ายที่เขาเลือกลงเล่น ว่าเขาได้ทำการกล่าวถ้อยคำเหยียดผิว ร่วมกับ เบอนัวต์ คอสติล นายทวารของทีม หลังเกมที่ บอร์โดซ์ พ่าย มงต์เปลิเยร์ ในเกมลีก เอิง นัดล่าสุด ซึ่งในฤดูกาลนี้ บอร์กโดซ์ อยู่ในอันดับสุดท้ายของตาราง และมีสิทธิ์สูงมากที่พวกเขาจะตกชั้น ซึ่งจะเป็นครั้งแรกนับจากฤดูกาล 1990-1991 ที่พวกเขาร่วงลงไปเล่นใน ลีก เดอซ์
จากเด็กหนุ่มที่เกิดในเมือง ทูลล์ เดินตามรอยความฝันการอยากเป็นนักเตะอาชีพ จนสุดท้ายย้ายมาร่วมงานกับ กองแกงต์ สโมรในระดับลีก เอิง เริ่มต้นอาชีพในปี 2004 และลงเล่นให้กับอีกหลายสโมสร ก่อนย้ายมาร่วมงานกับ อาร์เซนอล ในปี 2010 ซึ่งกลายเป็นสโมสรนอกฝรั่งเศสเดียวที่เขาเคยลงเล่นด้วย และเป็นทีมที่เขาอยู่ด้วยนานที่สุดในชีวิตนักฟุตบอลอาชีพ กับการลงเล่นถึง 9 ปี ใช้ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพภายใต้การคุมทีมของอาร์แซน เวนเกอร์ รวมถึง อูไน อเมรี่ คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ สามสมัยกับทีม และลงเล่นในยูโรป้า ลีก รอบชิงชนะเลิศในปี 2019 เป็นเกมสุดท้ายจาก 353 เกมกับสโมสรจากลอนดอนเหนือ สโมสรที่ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมชาติฝรั่งเศส ที่ผ่านทัวร์นาเมนต์ใหญ่มาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะยูโร 2016 ที่เขาเป็นตัวจริงในรอบชิงชนะเลิศที่แสนเจ็บปวดกับการพ่ายแพ้ในบ้านของตนเองต่อโปรตุเกส แต่ก็ไม่เท่ากับการได้กลายเป็นเพียงผู้ชมในฟุตบอลโลก 2018 ที่เขาจะติดทีมแน่นอน ถ้าไม่เจออาการบาดเจ็บในช่วงท้ายฤดูกาลก่อนหน้านั้นที่ทำให้เขาต้องพักยาว 7 เดือนเต็ม และมันกลายเป็นปมในใจของเขานับจากนั้น เพราะฟุตบอลโลก 2018 คืองานรื่นเริงของฝรั่งเศสกับการคว้าแชมป์โลกสมัยที่สองในประวัติศาสตร์
“ฟุตบอลโลกจะกลายเป็นจุดดำในใจเส้นทางอาชีพของผม อาการบาดเจ็บเป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับ แต่การคว้าแชมป์โลกของฝรั่งเศสคือสิ่งที่ผมยากจะยอมรับมากกว่านั้น ผมเป็นคนเห็นแก่ตัวในเรื่องนี้ เพราะผมบอกตัวเองว่าผมเป็นหนึ่งในคนกลุ่มนั้นได้ เป็นส่วนหนึ่งในการผจญภัยนั้นได้ และผมสามารถคว้ามันมาได้ ความรู้สึกนี้จะอยู่ในมุมหนึ่งของความคิดตลอดชีวิตของผม และไม่มีอะไรจะเอามันออกไปได้ ผมดีใจกับเพื่อนร่วมทีมทุกคนกับความสำเร็จนั้น แต่ผมขมขื่นและไม่สามารถมีความสุขกับการที่ฝรั่งเศสเป็นแชมป์โลกได้แบบที่ชาวฝรั่งเศสหลายสิบล้านคนสามารถทำได้”
กอสเซียลนี่ ย้ายมาร่วมงานกับบอร์โดซ์ในฤดูกาล 2019-2020 เป็นต้นมา เขารู้สึกอยากกลับไปเล่นในฝรั่งเศส อยู่กับครอบครัว และเพื่อนสนิทซึ่งบ้านของครอบครัวเขาอยู่ไม่ไกลจาก บอร์กโดซ์ มากนัก แต่แล้วหลังการลงเล่นเข้าสู่ฤดูกาลที่สาม เขาผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมของสโมสรก็ถูกตัดออกจากทีมในช่วงเดือนมกราคม 2022 ด้วยเหตุผลในเรื่องของผลงาน และเรื่องของค่าแรงที่สูงมากที่สุดคนหนึ่งของทีม โดยเขาไม่มีชื่อลงเล่นอีกเลยมาตลอดตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2022 ที่เป็นตัวสำรองในเกมพบกับโอลิมปิกมาร์กเซย์ซึ่งเขาเป็นตัวสำรองในเกมนั้นจนกระทั่งมาเกิดเรื่องและการออกมาแถลงการณ์พร้อมกับการอำลาอาชีพของตนเองที่เขายืนยันว่าไม่มีการเหยียดผิวใดๆทั้งสิ้นจากตัวของเขาผู้ซึ่งโดยปกติแล้วจะระมัดระวังอย่างยิ่งในเรื่องนี้และในเวลาเดียวกันเขาก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นฑูตสโมสรบอร์กโดซ์
ในช่วงที่มีการตัดสินใจถอดเขาออกจากทีมบอร์กโดซ์ เป็นที่คาดกันว่าเขาจะย้ายออกจากทีมทันที แต่สุดท้ายแล้วการย้ายทีมไม่เกิดขึ้น โดยหลังจากถูกถอดออกจากทีม เขายังอยู่กับทีมต่อไปในสถานะที่ “ไม่ใช่นักเตะ”ของทีม และไปทำงานในส่วนของงานภายในสโมสรเกี่ยวกับการสร้างพาร์ทเนอร์ของสโมสรในระดับนานาชาติ ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นฑูตสโมสรในที่สุด
โดยก่อนหน้านี้ กอสเซียลนี่ กล่าวผ่านสื่ออย่าง เลอ กิ๊บ สื่อในฝรั่งเศสเอาไว้ว่า เขายังจะพยายามต่อไปในการกลับมาลงเล่นฟุตบอลอีกครั้ง ก่อนที่สุดท้ายแล้วเขาจะเปลี่ยนใจ
“ผมคือนักฟุตบอลอาชีพ ดังนั้นปรารถนาแรกสุดคือการลงเล่นฟุตบอล และตามมาด้วยการเป็นตัวอย่างในทีมในฐานะของกัปตันทีม ดังนั้นมันเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับผมกับสิ่งที่เกิดขึ้น การโดนบอกเช่นนี้ก็เหมือนการโดนตบหน้าอย่างแรง แต่ผมคือนักสู้ และผมจะต่อสู้ต่อไป ทำในสิ่งที่ทำให้ผมทำได้เพื่อรักษาการเล่นของตนเองในระดับสูง และช่วยทีมให้มากที่สุดเพื่อผลการแข่งขันที่ดีที่สุด บอร์กโดซ์ ไม่ได้บอกอะไรกับผมมากนัก เพียงแต่บอกว่ามันคือการเปลี่ยนแผนงานของทีม และต้องการหาทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเงิน” กอสเซียลนี่ กล่าวในช่วงต้นเดือนมกราคม 2022
การตัดสินใจครั้งนี้ของเขาครั้งนี้ นับเป็นการตัดสินใจยุติเส้นทางที่เดินมาตลอดมากกว่าครึ่งชีวิตของเขาที่จบลงอย่างเงียบ ๆ หากเทียบกับสิ่งที่เขาทำมาตลอดเส้นทางอาชีพของตัวเอง ทั้งในระดับสโมสร และในนามทีมชาติที่ครั้งหนึ่งเคยก้าวขึ้นไปเป็นตัวหลักของทีมชาติฝรั่งเศสมาแล้ว
ไม่มีการอวยพรใดไม่มีการกล่าวสดุดีไม่มีภาพจำที่ได้โบกมือไปรอบสนามอำลาแฟนบอลมีเพียงข่าวจำนวนหนึ่งที่ประกาศออกมาที่อีกไม่นานก็จะถูกเรื่องราวใหม่กลืนหายไปตามกระแสข่าวของโลกใบนี้
นับจากนี้เส้นทางใหม่ของ โลรองต์ กอสเซียลนี่ ได้เปิดเส้นทางให้กับเขาได้เดินต่อไปข้างหน้าแล้ว ร่องรอยอาการบาดเจ็บตามเนื้อตัว ความชอกช้ำผิดหวังในหัวใจ ความเจ็บปวดบางอย่างมีวันหาย แต่บางอย่างไม่มีวันลืม แต่ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไป พร้อมกับเรียนรู้ ยอมรับ ความผิดหวัง ที่เป็นทั้งครู และคู่แค้น ที่เราทุกคนต้องผ่านความรู้สึกของการได้รับบทเรียน ภายใต้คำถามที่ว่า “ทำไมต้องเป็นเรา” แต่เชื่อเถอะว่าไม่ใช่เราเพียงคนเดียวที่ต้องเจอเรื่องบัดซบหลายเรื่องในชีวิตและในจำนวนผู้คนหลายร้อยล้านคนก็มีหลายล้านคนก้าวผ่านมันมาได้แม้จะไม่เคยลืมมันก็ตามอยู่ที่มุมมองของเรื่องราวที่เกิดขึ้นเราจะมองมันในมุมไหนเท่านั้น
มีความสุขกับวันนี้ และขอให้วันพรุ่งนี้มีความสุขมากกว่าเดิม ขอบคุณมากโลโล่!
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.