กลายเป็นข่าวน่าสนใจทันที เมื่อ บอร์นมัธ สโมสรในระดับเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ตกเป็นข่าวกับ เธียร์รี่ อองรี อดีตกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส และตำนานของสโมสร อาร์เซนอล มาร่วมงานด้วยในฐานะของ ผู้จัดการทีม
“เดอะ เชอร์รีย์” บอร์นมัธ แยกทางกับ เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือหนุ่มที่คุมทีมมานานถึง 8 ปี หลังการตกชั้นในฤดูกาลที่ผ่านมา โดยพวกเขาแต่งตั้ง เจสัน ทินดัลล์ ขึ้นมารับงานคุมทีมแทน ก่อนที่ต้นเดือน กุมภาพันธ์ 2021 พวกเขาแต่งตั้ง โจนานธาน วู้ดเกต เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวของสโมสร โดยมีสัญญากันจนถึงจบฤดูกาลนี้
“การตกชั้น” ของทีมที่เพิ่งร่วงลงมาจาก พรีเมียร์ ลีก โดยมากแล้ว ไม่ควรอยู่ในลีกล่างนานเกินสองปี เพราะทีมจะไม่สามารถรั้ง นักเตะ ระดับพรีเมียร์ ลีก ได้นานเกินกว่านั้น และสุดท้ายทีมจะถูกลดระดับลงไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายการกลับมาเลื่อนชั้นก็จะกลายเป็นเรื่องยาก และต้องนับหนึ่งใหม่ เหมือนที่เวลานี้ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, โคเวนทรี ซิตี้, ซันเดอร์แลนด์, บาร์นสลีย์, ฮัลล์ ซิตี้, โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส หรือว่า วีแกน แอตเลติก ต่างยังคงเวียนว่ายอยู่ใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ลีก วัน หรือบางทีมก็ไปไกลจนถึง ลีก ทู เป็นต้น
ทีมเหล่านี้ต่างกรรมต่างวาระ ด้วยเหตุผลใดก็ตามที แต่สุดท้ายแล้ว พวกเขาไม่สามารถกลับมาสู่ลีกสูงสุดได้ ในระยะเวลาเพียง 1-2 ฤดูกาลหลังการตกชั้น และแน่นอน บอร์นมัธ ก็รู้ดีถึงชะตากรรมที่รอพวกเขาอยู่
ในเวลานี้ ด้วยสถานการณ์ โควิด-19 ที่ระบาดหนักในปีที่แล้ว มาจนถึงปีนี้ พวกเขายังคงอยู่ในสถานภาพที่พอใช้ได้ กับตัวผู้เล่นที่มีอยู่ พวกเขาเสีย ตัวหลักไป 3-4 คน ไม่ว่าจะเป็น ไรอัน เฟรเซอร์ และ คัลลัม วิลสัน (นิวคาสเซิ่ล ทั้งสองคน), นาธาน อาเก้ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) และล่าสุดในตลาดมกราคมที่ผ่านมากับ โจชัว คิง (เอฟเวอร์ตัน) นอกนั้นยังอยู่กันครบ ทั้ง อัสเมียร์ เบโกวิช, เจฟเฟอร์สัน เลอมา, โดมินิค โซลันกี้, เลวิส คุก หรือว่า จูเนียร์ สตานิสลาส และเพิ่มเติมนักเตะใหม่มาอีกบางส่วน ที่เด่นหน่อยก็ แจ็ค วิลเชียร์ เซ็นฟรี เพราะนักเตะบาดเจ็บบ่อยจน เวสต์แฮม ปล่อยออกมา รวมถึง เชน ลอง กองหน้าไอร์แลนด์ ที่ยืมมาจาก เซาธ์แธมป์ตัน
ศักยภาพยังดูดีกว่าหลายสโมสร แต่สิ่งที่ยังไม่โอเค คือผลการแข่งขัน ตอนนี้พวกเขาอยู่อันดับ 6 ในลีก ขณะที่เหลืออีก 16 เกมสุดท้าย ถ้าจบตรงนี้ต้องไปลุ้น เพลย์ออฟ อีกเฮือก แต่มองไปข้างบน พวกเขาตามหลังจ่าฝูง อย่าง นอริช ทีมที่ตกชั้นมาพร้อมกันถึง 12 คะแนน ตามด้วย เบรนท์ฟอร์ด ที่พยายามในการเลื่อนชั้นมาหลายปีแล้ว อยู่ 8 คะแนน ทุกอย่างยังพอเป็นไปได้ โดยเฉพาะ 8 คะแนนที่ตามหลัง “เดอะ บี”
การเข้ามารับงานของ วู้ดเกต ซึ่งมีประสบการณ์คุม มิดเดิ้ลสโบรซ์ มาก่อนหน้านี้ เป็นการแต่งตั้งแบบเร่งด่วน เพราะผลงานก่อนปลด ทินดัลล์ ออกจากตำแหน่ง ทีมแพ้มา 4 เกมรวด และเลือกวู้ดเกต เข้ามาทำงานแทน เนื่องจาก เขาก็เพิ่งว่างงานจากการโดนปลดจาก “เดอะ โบโร่” มาเหมือนกัน ซึ่งการเซ็นสัญญามีระยะเวลาเพียงจบฤดูกาลนี้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม วู้ดเกต คุมทีมมาแล้ว 4 เกม ถือว่าผลงานดี ทีมยังไม่แพ้เลย ชนะ 3 เสมอ 1 แต่ข่าวการมองหา โค้ชใหม่ก็ยังคงมีอยู่ต่อไป
ชื่อของ เดวิด ว๊ากเนอร์ อดีตผู้จัดการทีม ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ และชาลเก้ 04, ปาทริค วิเอร่า ที่เพิ่งออกจาก นีซ เมื่อปลายปีก่อน ก็มีชื่ออยู่ใน แคนดิเดตครั้งนี้ด้วย และแน่นอนที่สุดชื่อของ วู้ดเกต ก็ยังคงได้ลุ้นถ้าผลงานดี ทีมก็อาจยื่นสัญญาระยะยาวให้
ว่ากันตามผลงานระยะหลังทางเลือกที่มีชื่อขึ้นมาในลิสต์ รวมถึง อองรี ทุกคนต่างมี “บาดแผลฉกรรจ์” มาจากการคุมทีมหนหลังสุดด้วยกันทั้งสิ้น
“ติตี้” ณ.เวลานี้ ยังอยู่ในตำแหน่งของ เฮดโค้ชใหญ่ของ มอนทรีอัล อิมแพคส์ สโมสรในประแคนาดา แต่ลงเล่นใน เมเจอร์ ลีก สหรัฐอเมริกา ก่อนหน้านี้ล้มเหลวมาค่อนข้างรุนแรงในการรับงานคุม อาแอส โมนาโก ที่ตอนนั้นต้องบอกว่าช่วงนั้น อองรี ไฟกำลังแรง ของกำลังขึ้น แต่สุดท้ายเอาไม่อยู่ เพราะทั้งเรื่องประสบการณ์ และผลงานที่แย่อย่างมากของ โมนาโก ทำให้อยู่กับทีมสามเดือน กับอีก 11 วัน เขาก็โดนปลดออก โดยคุมทีมไป 20 เกม ชนะ 4 เสมอ 5 แพ้ 11 ซึ่งการโดนปลดครั้งนั้น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของเขาพอสมควร เขาไม่รับงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เลยตลอด 10 เดือน จนกระทั่งมารับงานกับ มอนทรีอัล อิมแพคส์ ในเดือนพฤศจิกายน 2019
หนึ่งฤดูกาลผ่านไป อองรี เจอปัญหาเยอะพอสมควร ทั้งเรื่องของผลงานของทีม ตามด้วยการต้องพักเบรคโควิด-19 แต่สุดท้ายก็ยังพาทีมไปเข้ารอบ เพลย์ออฟ ได้สำเร็จ ก่อนจะพ่ายตกรอบตั้งแต่รอบแรก เช่นเดียวกับ คอนคาเคฟ แชมเปี้ยนส์ ลีก (ทัวร์นาเมนต์สำหรับสโมสรที่ตั้งอยู่ในทวีป อเมริกาเหนือ, อเมริกากลาง และ แคริบเบี้ยน) ทีมจบด้วยการเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย และตอนนี้เขากำลังเตรียมทีมเพื่อลุยฤดูกาลใหม่อีกครั้ง โดยฤดูกาลใหม่จะเริ่มต้นในวันที่ 17 เมษายน 2021
ในช่วงปลายปีที่แล้ว อองรี มีการให้สัมภาษณ์ใหญ่ ซึ่งนาน ๆ อองรี จะออกมากล่าวอะไรสักครั้ง บวกกับสถานการณ์ของโควิด-19 เขายังคงชัดเจนถึงเป้าหมายของเขาไม่เปลี่ยน กับการทำงานกับ มอนทรีอัล ซึ่งเขาอยากมีส่วนร่วมกับทีมในระยะยาว โดยเขาระบุว่ามีหลายทีมในอเมริกา อย่างเช่น ฟิลาเดเฟีย ยูเนี่ยน หรือว่า โคลัมบัส ครูว์ ก็เป็นตัวอย่างของการสร้างทีมที่ต้องการเวลาในการทำทีม
“ด้วยความสัตย์จริง การทำงานในช่วงที่เราไม่สามารถอยู่ใกล้กันได้ ด้วยสถานการณ์ โควิด-19 มันเป็นอะไรที่ยากมาก ใครก็พูดถึงเรื่องผลงานของทีม แต่ผู้คนกลับไม่ได้มองถึงการทำงาน และความยากในการทำงานที่เราต้องเจอ ถ้าปีที่แล้ว เราไม่ได้เล่นเพลย์ออฟ ผมและทีมจะต้องเจอกับคำถามที่ว่า ทำไมแบบนั้นล่ะ ทำไมแบบนี้ล่ะ ทีมไม่ได้เรื่องเลย พวกเขาสนใจแค่นั้น ไม่ได้สนใจถึงเรื่องอื่นหรอก ผมเป็นโค้ชของทีม เป็นหัวเรือใหญ่ของที่นี่ และผมโดนด่าแน่นอน ถ้าผลงานไม่เป็นไปตามความคาดหวัง”
“ผมจำได้เลยในปี 2012 ผมลงเล่นกับ นิวยอร์ค เร้ดบูลล์ และ ฟิลาเดเฟีย ยูเนี่ยน คือทีมท้ายตารางเวลานั้น เวลาผ่านไป พวกเขาสร้างทีมด้วยปรัชญาที่ชัดเจน โค้ชคนเดิม เสริมทีม สร้างทีมกันไปจนตอนนี้พวกเขาเป็นอย่างที่เห็น (แชมป์สายตะวันออกในฤดูกาลปกติ) ส่วน โคลัมบัส ครูว์ ตอนนี้พวกเขาคือทีมแชมป์ เอ็มแอลเอส ทีมล่าสุด ทั้งหมดเกิดจากการสร้างทีม”
“ลิเวอร์พูล ก็เหมือนกัน พวกเขาไม่ได้เป็นลิเวอร์พูลแบบที่เราเห็น เมื่อสองปีก่อน เยอร์เก้น คล็อปป์ ใช้เวลา 2 ปีครึ่งเกือบสามปี จนทีมประสบความสำเร็จได้ นั่นคือเวลาที่เขาใช้ เรากำลังพูดถึงคนระดับ คล็อปป์”
“ส่วนผมเอง ประสบการณ์ที่โมนาโก สอนผมหลายเรื่อง สิ่งที่ผมขาดหายคือเรื่องของเวลา เวลาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ความอดทนก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่มีมันทุกอย่างมันก็ยากไปหมด”
ถึงบรรทัดนี้ “ความเป็นไปได้” ในการที่ บอร์นมัธ จะได้ตัว อองรี ไปร่วมงานด้วยยังคงมีต่อไป รายงานจากสื่อระบุว่า สโมสรได้ติดต่อขออนุญาต มอนทรีอัล อิมแพคส์ แล้ว ในการขอเจรจากับโค้ชของพวกเขา กลับไปทำงานที่อังกฤษอีกครั้ง หลังจากงานสุดท้ายของเขาคือ นักวิเคราะห์เกมผ่านทาง สกาย สปอร์ต เมื่อปี 2018 ก่อนไปรับงานที่ โมนาโก แต่แน่นอนที่สุด “เป็นไปไม่ได้เลย” ที่ อองรี จะได้เวลาในการสร้างทีมแบบที่เขากำลังทำอยู่กับ ทีมจากแคนาดา ในเวลานี้ เพราะ บอร์นมัธ แม้จะอยากให้ แต่เศรษฐกิจ และการเดิมพันในการเลื่อนชั้น ไม่เอื้อให้โค้ชทุกคนที่เข้ามารับงานนี้ ได้เวลามากนัก หากไม่พุ่งชนเป้าหมายทุกอย่างอาจต้องจบลง
บางครั้งการอยู่ใน “เซฟโซน” อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า หากข้อเสนอที่เข้ามาแม้จะเต็มไปด้วยความท้าทาย มันเสี่ยงเกินกว่าจะทิ้งทุกอย่างที่สร้างมา ยิ่งคนที่มีประสบการณ์ “รับงานกลางฤดูกาล” มาแล้วด้วย ก็ยิ่งเข้าใจว่ามันไม่ง่ายเลย กับการที่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ต้องการ บนข้อจำกัด และเดิมพันที่สูงมากเช่นนี้
เป็นคุณจะเลือกอะไร “ความท้าทาย” กับ “ความสบายใจ” และมารอติดตามกันว่า อองรี จะเลือกอะไร
Copyright © 2019 UFA6556 แทงบอลออนไลน์ มั่นคง ปลอดภัย อันดับหนึ่งเมืองไทย | All right reserved.