ข้ามปี 2020 กันมามากกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ทุกอย่างยังคงอยู่ในช่วงล๊อคดาวน์ให้หลายพื้นที่ในโลก หลายประเทศ ยังคงมีการติดเชื้อ โควิด-19 แบบบ้าคลั่ง ในขณะที่หลายประเทศ เริ่มมีการฉีดวัคซีนกันแล้ว และก็มีข่าวออกมาว่า บางคนต้องจากไปกับการเสียชีวิตด้วยการฉีดวัคซีน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าเศร้า กับการต่อสู้กับสิ่งที่โลกไม่เคยรู้จัก และกำลังเรียนรู้ที่จะ “อยู่ร่วม” กับมันให้จงได้ เพราะด้วยเชื้อโรคนี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกนี้ตลอดไป เพียงแค่สามารถควบคุม และรักษาได้นั่นเอง ในขณะที่หลายประเทศกำลังต่อสู้ มองมาที่ประเทศไทยแล้ว ก็ต้องบอกว่า “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” กันต่อไป ดูแลตนเองให้ดีตามข้อกำหนด และแนวทางปฏิบัติเพื่อให้ตนเองปลอดภัยมากที่สุด
ย้อนกลับมาที่เรื่องของฟุตบอลกันบ้างครับ แม้จะมีโควิด-19 ระบาดอย่างหนัก แต่ในหลายทวีปก็ยังคงมีการแข่งขัน โดยในประเทศ อาร์เจนติน่า ในช่วงต้นฤดูกาลมีการจัดการแข่งขันรายการใหม่ในฤดูกาล 2020-2021 กับรายการแข่งขันที่ชื่อว่า Copa de la Liga Professional เป็นการแข่งขัน ที่ได้รับการรับรองจาก AFA หรือสมาคมฟุตบอลอาร์เจนติน่า
โดยรูปแบบการแข่งขัน ซึ่งเป็นปีแรก จัดแบบค่อนข้างเตะกันถี่พอสมควร โดยมีสโมสรเข้าร่วมทั้งหมด 24 สโมสร แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม และลงแข่งขันกันในระบบเหย้า-เยือน โดยสองอันดับแรกจากทุกกลุ่มจะเข้าไปเล่นในรอบ แบ่งกลุ่มรอบที่สอง ซึ่งจะแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มของทีมแชมป์กลุ่ม และกลุ่มทีมรองแชมป์กลุ่ม ลงเล่นแบบพบกันหมดเพียงหนึ่งเกม แชมป์กลุ่มทั้งสองทีม เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
อย่างไรก็ตามการจากไปแบบกะทันหันของ ดิเอโก้ มาราโดน่า “พระเจ้า” แห่งวงการฟุตบอลของประเทศอาร์เจนตินา และแฟนบอล โบค่า จูเนียร์ส ทำให้ AFA ได้มีการเปลี่ยนชื่อรายการแข่งขัน จาก Copa de la Liga Professional มาเป็น Copa Diego Armando Maradona เพื่อเป็นเกียรติแด่ยอดนักเตะหมายเลข 10 ตลอดกาลของพวกเขา และจะใช้ชื่อนี้เป็นชื่อรายการแข่งขันอย่างเป็นทางการนับจากนี้
รอบชิงชนะเลิศ โบคา จูเนียร์ส ทีมรักของ มาราโดน่า พบกับ แบนฟิลด์ ในรอบชิงชนะเลิศ เกมแรกในประวัติศาสตร์รายการนี้ ก่อนจบลงอย่างชื่นมื่น เมื่อ โบค่า จูเนียร์ส เอาชนะไปได้ในการดวลจุดโทษตัดสิน
ขณะที่ “คาลิตอส” คาร์ลอส เตเบซ ดาวยิงร่างเล็ก กัปตันทีม โบค่า จูเนียร์ส วัย 36 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่า เขาจะเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ หลังจบภารกิจ โคปา ลิเบอดาตอเรส คัพ (แชมเปี้ยนส์ ลีก เวอร์ชันทวีปอเมริกาใต้) ก็ลงเล่นในเกมนี้ด้วย ในฐานะตัวสำรอง โดยเขาคือคนแรกที่ก้าวออกมารับหน้าที่สังหารจุดโทษในช่วงสำคัญของทีม และก็ไม่พลาด ในการคว้าแชมป์ที่ชื่อรายการคือตำนานของตำนานแห่งวงการฟุตบอลอาร์เจนติน่า อีกด้วย
ทั้งนี้ มีการเปิดเผยว่า เตเบซ เพิ่งได้มีเวลาเตรียมตัวไม่นานนักก่อนเกม และเดินทางมาร่วมทีมช้ากว่าคนอื่น เนื่องจาก ณ.เวลานี้ เตเบซ อยู่ในช่วงที่ยากลำบากช่วงหนึ่งของชีวิต นั่นคือการที่คนในครอบครัวที่สำคัญที่สุดกำลังป่วยหนัก
เซกุนโด้ ไรมุนโด เตเบซ พ่อของเขา (แท้จริงแล้วมีศักดิ์เป็นลุง แต่น้องสาวของแม่ของเขา นำเขามาอุปการะเหมือน ลูกคนหนึ่ง ทำให้ท้ายที่สุดแล้ว เขาเปลี่ยนมาใช้นามสกุลของลุง เพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณที่เลี้ยงดูเขามา และเคารพเหมือนพ่อของตนเอง) กำลังต่อสู้กับ โรคร้าย เมื่อติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยมีการระบุว่าอาการค่อนข้างหนัก และต้องลุ้นกันแบบวันต่อวัน ก่อนที่ เตเบซ จะกลับมาลงสนามพร้อมคว้าแชมป์รายการที่ 29 ในอาชีพการค้าแข้งของตนเอง
“มันน่าเสียดายที่พ่อไม่สามารถเข้ามาชมเกมนี้ได้ พ่อของผมตอนนี้อาการค่อนข้างหนัก และมันยังไม่มีวี่แววในเรื่องของการรักษา มันคือช่วงเวลาที่ยากยิ่งสำหรับทุกคนในครอบครัว มันสำคัญมากสำหรับ โบคา จูเนียร์ส ในการคว้าแชมป์รายการนี้ วันนี้เราทุกคนอยู่ที่นี่ และวันนี้ผมคิดถึงพ่อของผมมากเหลือเกิน ผมลงเล่นฟุตบอลด้วยหัวใจ และเมื่อคุณลงเล่นฟุตบอลด้วยหัวใจ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะเล่นได้แย่ และผมลงเล่นเกมนี้เพื่อพ่อ และแม่ที่กำลังใจสลาย เมื่อวานนี้ผมบอกกับลูกสาวว่า คุณปู่ กำลังจะไม่ได้อยู่กับเราแล้ว สิ่งที่ผมทำได้คือทำให้ดีที่สุด”
“ผมรู้ว่าแชมป์นี้ จะทำให้พ่อของผมมีความสุข ผมเชื่อเช่นนั้น”
“อนาคตของผม ตอนนี้ปล่อยให้ผมมีความสุขกับชัยชนะที่เกิดขึ้น กับเพื่อนร่วมทีมของผม เพราะนี่คือปีที่ยากยิ่งสำหรับทุกคน กับสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกของเรา (การระบาดของโควิด-19) เราหวังว่านี่มันจะช่วยให้ผ่อนคลายอารมณ์ และความเครียดลงได้บ้าง ผมยังไม่ได้วางแผนหรือตัดสินใจอะไรชัดเจน แต่ความรู้สึกของผม คือไม่ต้องการเลิกเล่นเวลานี้ ผมอยากลงเล่นเพื่อพ่อและแม่ ผมยังรู้สึกดี อยากลงเล่นต่อไปกับ โบค่า จูเนียร์ส ผมอยากให้แฟนบอลอย่าเพิ่งตกใจอะไร ผมขอเวลาตัดสินใจสักนิด และไม่อยากตัดสินใจผิดพลาดทั้งนั้น”
“ผมเหลือสัญญาอีกหนึ่งปีกับ โบค่า จูเนียร์ส และผมคิดว่าผมอยากจะพยายามอีกสักครั้ง มันไม่มีเหตุผลที่จะไม่พยายาม…และถ้าผมจะเล่นฟุตบอลต่อไป ผมจะลงเล่นกับ โบค่า จูเนียร์ส เท่านั้น”
คาร์ลอส เตเบซ เริ่มต้นในฐานของ นักเตะ เยาวชน โบคา จูเนียร์ส ในปี 1997 ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็น นักเตะ ในทีมชุดใหญ่ในอีก 4 ปีต่อมา อย่างไรก็ตาม เขาได้รับโอกาสย้ายไปเล่นฟุตบอลในยุโรปหลายต่อหลายสโมสรทั้งใน อังกฤษ และ อิตาลี รวมถึงเคยค้าแข้งในบราซิล และ จีนมาแล้ว โดยเขาลงเล่นกับ โบค่า จูเนียร์ส มาแล้วถึงสามครั้ง และกลับมาร่วมทีมในครั้งล่าสุดเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา