ปัญหาของการเข้าร่วม The Super League ในแบบที่ไม่ผ่านการยอมรับจากแฟนบอล ที่ทำให้สุดท้าย เกิดกระแสการต่อต้านอย่างรุนแรงไปยังหลายสโมสร จนต้องประกาศยกเลิกการเข้าร่วมกันไปแล้ว 9 จาก 12 สโมสร อย่างที่เราทราบไปแล้วนั้น ล่าสุดทาง ยูฟ่า ประกาศบทลงโทษ และข้อตกลงตามออกมาเรียบร้อยสำหรับ 9 สโมสรที่กลับมาเข้าร่วมกับ ยูฟ่า อีกครั้ง โดยทุกทีมมีการเซ็นข้อตกลงที่เรียกว่า “ข้อตกลงที่ชัดเจนของยูฟ่า” ร่วมกันดังต่อไปนี้
อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ประธานของ ยูฟ่า กล่าวโดยสรุปว่าทั้งหมดนี้คือการประกาศความชัดเจน หลังเกิดเหตุการณ์ “The Super League” และนี่ไม่ใช่การลงโทษทางการแต่อย่างใด (แม้จะมีการหักรายได้ 5 % ก็ตาม) แต่ก็เป็นการป้องกันว่าจะไม่มีการเกิดเหตุการณ์ในลักษณะแบบเดียวกันนี้อีก
ตอนนี้เหลือเพียง เรอัล มาดริด – บาร์เซโลน่า และยูเวนตุส ที่ยังไม่มีการประกาศการยกเลิก ทำให้ข้อตกลงด้านบนไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา และ ยูฟ่า “อาจจะ” มีมาตรการที่รุนแรงขึ้นสำหรับทั้งสามสโมสร โดย เซเฟริน ระบุว่าทั้งสามสโมสร อาจจะโดนตัดสิทธิ์จากการแข่งขันของ ยูฟ่า ในฤดูกาลหน้า หรืออย่างโดยเร็วที่สุด
“ยูฟ่า ขอสงวนสิทธิ์ในการจัดการเรื่องนี้อย่างเหมาะสมตามเห็นสมควร สำหรับสโมสรที่ยังคงมีความพนายาม และไม่ปฏิเสธการเข้าร่วม ซูเปอร์ ลีก” เราจะนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการทางวินัย เพื่อจัดการต่อไป” เซเฟริน กล่าวในแถลงการณ์
ผลของการกระทำที่เกิดขึ้น ยังคงส่งผลอย่างหนักสำหรับทุกสโมสรที่เข้าร่วม ซูเปอร์ลีก และไม่สามารถทำให้มันเกิดขึ้นจริงได้ โดยสำหรับสโมสรในพรีเมียร์ ลีก ซึ่งประกอบไปด้วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเขสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, เชลซี, อาร์เซนอล และ สเปอร์ส อาจจะต้องเผชิญกับโทษจาก พรีเมียร์ ลีก รวมถึงจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ อีกต่อหนึ่งเช่นเดียวกัน ซึ่งในเรื่องนี้ ยูฟ่า จะเข้ามามีส่วนในการช่วยเหลือในการบรรเทาโทษ หลังจากการเซ็นข้อตกลงร่วมกันกับ ยูฟ่า แล้ว นั่นคือ ผลของการกระทำ อย่างเป็นทางการที่พวกเขาจะได้รับมัน
สำหรับ ผลของการกระทำอย่างไม่เป็นทางการ สามารถเห็นได้ และเห็นกันไปแล้ว จากสิ่งที่แฟนบอลของทั้งหกสโมสร ออกมาเรียกร้องทั้งผ่านช่องทาง ออนไลน์ และการออกมาประท้วงกันตาม สนามเหย้าของแต่ละสโมสร ซึ่งเรื่องนี้ลุกลามไปจนถึง การประท้วงให้เจ้าของสโมสร หรือ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสร ที่กระทำการในเรื่องนี้ ลาออก หรือขายหุ้นออกไป โดยหนักที่สุดคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีการประท้วงหนักจนถึงขั้น ต้องยกเลิกเกมระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – ลิเวอร์พูล
ตระกูล เกลเซอร์ ซึ่งเป็นเจ้าของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมากล่าวว่า พวกเขาจะมีการเจรจากับกลุ่มแฟนบอล ปีศาจแดง โดยด่วนที่สุด พร้อมกับการรับฟังเสียงของแฟนบอลมากยิ่งขึ้น
“หนึ่งในบทเรียนที่ชัดเจนที่สุดในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา คือความจำเป็นที่เราจะต้องเป็นผู้ฟังที่ดีขึ้น ด้วยเหตุนี้ เรายืนยันได้ว่า สโมสรจะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจกับทุกประเด็นที่เกิดขึ้น” ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์จากตระกูล เกลเซอร์
อย่างไรก็ตามแฟนบอล ปีศาจแดง ส่วนใหญ่ก็ยังคงไม่พอใจ และต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน หรือหากดีกว่านั้นก็คือ เกลเซอร์ ขายหุ้นสโมสรออกไปให้กับคนอื่นรับช่วงต่อไปแทนเลยก็ยิ่งดี แต่ถึงตรงนี้ก็ยังไม่มีข่าวที่ชัดเจนในเรื่องนี้
ตรงข้ามกับ อาร์เซนอล ที่กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญที่สุดในรอบ 14 ปี เมื่อ สแตน โครเอนเก้ ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของสโมสร จะได้รับข้อเสนอการข้อซื้อหุ้นสโมสร อาร์เซนอล จำนวน 93.6 % ที่ถือครองไว้ โดย ดาเนียล เอ็ก ผู้ก่อตั้ง สปอติฟาย คือผู้เตรียมยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการจำนวน 1,800 ล้านปอนด์ ให้ทาง เศรษฐีชาวอเมริกา ผู้ถือครองหุ้นอาร์เซนอลครั้งแรกในปี 2007 (ครั้งแรก โครเอนเก้ ถือหุ้นจำนวน 9.9 % ก่อนจะกว้านซื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่องในภายหลัง) ได้พิจารณา
เอ็ก วัย 38 ปี มาพร้อมกับเป้าหมายที่จะพา อาร์เซนอล กลับสู่ความสำเร็จ โดยมี เธียร์รี่ อองรี, เดนนิส เบิร์กแคมป์ และ ปาทริค วิเอร่า เป็นสามอดีตนักเตะ คอยสนับสนุน และล่าสุด อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตตำนานกุนซือของสโมสร ก็ออกมาพร้อมสนับสนุนเช่นกัน หากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกกับทีม โดยการยื่นข้อเสนอครั้งนี้จะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้ และการตกรอบ ยูโรป้า ลีก เมื่อสองวันก่อน บวกกับผลงานในลีกที่อาจจะทำให้ ปืนใหญ่ ไม่ได้ไปยุโรป เป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี อาจจะเป็นปัจจัยเร่งหนึ่งทางที่ทำให้ การเจรจานี้ง่ายยิ่งขึ้นก็เป็นได้
ขณะที่อีกหนึ่งสโมสร ที่ต้องบอกว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้ามาของ ระบบทุนนิยม ในสโมสรพรีเมียร์ ลีก อย่าง เชลซี กับเจ้าของสโมสรที่ชื่อว่า โรมัน อบราโมวิช ยังถือว่าความสัมพันธ์นั้นเป็นไปได้ด้วยดี ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าตลอดเกือบ 20 ปี ของการเข้ามาตั้งแต่ปี 2003 “เสี่ยหมี” ยกระดับทีมกลางตาราง มาเป็นทีมแชมป์ยุโรป ได้อย่างที่แฟนเชลซี ยุคก่อนทำได้แค่ฝัน แต่แฟนบอลยุคนี้ หวังลุ้นได้ทุกปี อย่างไรก็ตาม เชลซี ก็เตรียมแผนที่จะประชุม ในการมีมติให้แฟนบอลเข้ามามีส่วนร่วมกับการตัดสินใจใหญ่แต่ละครั้งของทีมเช่นกัน เพื่อเป็นการแสดงออกด้วยการกระทำที่ว่า พวกเขาจะ “ไม่ลืม” แฟนบอลอีกต่อไป
ขณะที่ ลิเวอร์พูล, สเปอร์ส และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างก็อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ต่างกันมากนัก ในแง่ของแฟนบอล กับความไม่พอใจในเรื่องนี้ ซึ่งก็ต้องแก้ไขกันต่อไป และปล่อยให้เรื่องนี้ “เวลา” และ “ความสำเร็จ” ลบเลือนความรู้สึกที่อาจจะเหลือ ความทรงจำ ให้คิดถึง แต่ความรู้สึกเจ็บปวด ไม่มีอีกต่อไป
Copyright © 2019 UFA6556 แทงบอลออนไลน์ มั่นคง ปลอดภัย อันดับหนึ่งเมืองไทย | All right reserved.