ufabet ทีเด็ด บอล วันนี้ ราคา บอล

ฟังเซาธ์เกตเลือกทัพ “สิงโตคำราม”

     อังกฤษ เตรียมกลับมาลงสนามอีกครั้ง ในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ โดยจะเป็นเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกทั้งสองเกมด้วยกัน ในเกมที่จะออกไปเยือน อันดอร์ร่า และเปิดบ้านพบกับ ฮังการี ซึ่งจะเป็นเกมนัดที่ 7 และ 8 จากทั้งหมด 10 เกมในรอบนี้ โดยพวกเขาอยู่ในกลุ่มไอ พร้อมกับการนำเป็นจ่าฝูง และมีโอกาสสูงมากในการเข้ารอบสุดท้ายอัตโนมัติไปเล่นรอบสุดท้ายที่ กาตาร์ ปลายปี 2022 ที่จะถึงนี้

 

     “สิงโตคำราม” อยู่ในเส้นทางที่ดีในระดับชาติ จากฟุตบอลโลก 2018 มาถึง ยูโร 2020 พวกเขาพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และต้องการอีกก้าวเดียวเท่านั้น กับการประสบความสำเร็จที่รอคอยมานานนับจากปี 1966

 

     คอนเทนต์ในวันนี้ เราเลยขออนุญาตไปฟังสัมภาษณ์ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต พูดคุยกับสื่อมวลชนก่อนสองเกมนี้จะเริ่มต้นขึ้นมาบอกเล่ากันสักหน่อย เกี่ยวกับการเลือก 24 ขุนพลในรอบนี้ของเขา

ประกาศการเรียกนักเตะทีมชาติ

     อังกฤษ ประกาศการเรียกนักเตะทีมชาติในรอบนี้เรียบร้อย แกเร็ธ เซาธ์เกต เลือก 24 ผู้เล่นเข้ามาในรอบนี้ โดยมีตัวหลักจากในยูโร 2020 ติดกันมาเกือบทั้งหมด ยกเว้น มาร์คัส แรชฟอร์ด และ โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน ที่มีปัญหาบาดเจ็บ ขณะที่ เบน ชิลล์เวลล์ แบ็คจากเชลซี อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีนักในระดับสโมสร เมื่อเขาเป็นตัวสำรองที่ยังไม่ได้ลงเล่นในเกมลีกฤดูกาลนี้แม้แต่นาทีเดียว ส่งผลให้หลุดจากทีม รวมถึง เบน ไวท์ แนวรับค่าตัว 50 ล้านปอนด์จาก อาร์เซนอล โดย แกเร็ธ เซาธ์เกต เลือกให้โอกาสกับ ฟิคาโย่ โทโมริ แนวรับจากเอซี มิลาน กลับมาติดทีมอีกครั้ง

 

     “ไวท์ทำผลงานได้ดีในเกมพบกับ สเปอร์ส และยังคงอยู่ในช่วงการปรับตัวกับสโมสรใหม่ ผลงานของเขาอยู่ในเกณฑ์ดี และเรายังคงติดตามผลงานของเขาอย่างใกล้ชิดเสมอ” นี่คือ เหตุผลที่ เซาธ์เกต ให้กับสื่อในการไม่เลือก ไวท์ เข้าสู่ทีมรอบนี้

 

     ตรงกันข้ามกับ โทโมริ แนวรับวัย 23 ปี ที่เพิ่งเซ็นสัญญาถาวรกับ มิลาน ในฤดูกาลนี้หลังจากมีผลงานในฤดูกาลที่แล้วโดดเด่น ลงเล่นไป 22 เกม และเป็นตัวหลักของทีม จนทำให้ มิลาน ตัดสินใจเซ็นซื้อขาด และยังคงทำงานของเขาได้ยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ โดยเป็นการติดทีมชาติอีกครั้ง นับจากปี 2019 ซึ่งเขาลงเล่นไปเพียง 6 นาทีในเกมพบกับ โคโซโว โดย เซาธ์เกต ยอมรับว่าชื่นชมผลงานของอดีตเด็กปั้นของเชลซี คนนี้ และตัดสินใจให้โอกาสอีกครั้ง

 

     “เขามีผลงานปีที่แล้วที่น่าประทับใจมาก เราติดตามดูเขามาตลอด ฤดูกาลนี้ก็ทำผลงานดีต่อเนื่อง เขาเล่นเกมรับได้ดุดัน มั่นใจ และนั่นผมจึงอยากให้โอกาสกับเขา ซึ่งลงเล่นในทีมที่มีการแข่งขันสูงมาก เช่นเดียวกับแรงกดดันที่ต้องลงเล่นบนความคาดหวังว่าทีมต้องชนะในทุกสัปดาห์ ปีนี้เขาลงเล่นเจอกับ ลิเวอร์พูล และตามด้วย ยูเวนตุส เป็นสองเกมใหญ่ต่อเนื่อง มันเป็นประสบการณ์ที่ดี”

สำหรับในส่วนของนายทวาร

     ขณะที่ โอลลี่ วัตกิ้นส์ หัวหอกจาก แอสตัน วิลล่า เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้กลับมาติดทีมในรอบนี้ โดยเขาได้เข้ามาแทนที่ คัลเวิร์ต-เลวิน ที่บาดเจ็บไป เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ได้กลับมาสู่ทีมอีกครั้ง บนความสงสัยที่ว่า วัตกิ้นส์ ก็เพิ่งหายเจ็บกลับมาเช่นกัน แต่ เซาธ์เกต ยังคงเชื่อมั่นในตัวเขา

 

     “โอลลี่ เป็นนักเตะที่อยู่กับทีมมาพักหนึ่งแล้ว และเขาใกล้เคียงมากกับการจะได้ไปเล่นในยูโร 2020 ผมขอบกองหน้าแบบเขา เขาเป็นคนที่มุ่งมั่น จิตใจแข็งแกร่ง และพยายามพัฒนาตัวเอง เราเลือกเขาเพราะเขาทำงานกับเราได้ดีมาก และเขาเข้ามาเติมเต็มให้เราในช่วงเวลาที่ทางเลือกในแนวรุกเรามีหลายคนต้องบาดเจ็บ”

 

     สำหรับในส่วนของนายทวาร อารอน แรมสเดล นายทวารคนใหม่จาก อาร์เซนอล ที่ผลงานยอดเยี่ยมในช่วงเดือนที่ผ่านมา จนมีชื่อในทีมอีกครั้ง แต่เดิมเขาติดทีมในฐานะมือ 4 ของทีมชุดยูโร 2020 ก่อนที่ ดีน เฮนเดอร์สัน จะบาดเจ็บ (และตอนนี้ก็ยังคงพักฟื้นจากบาดเจ็บอยู่) และทำให้เขาได้ติดทีมไปเล่นยูโรรอบสุดท้ายแทน ก็ยังคงได้รับความเชื่อมั่นจาก เซาธ์เกต เหนือกว่า นิค โป๊ป นายด่านจาก เบิร์นลีย์ ที่กลับมาลงสนามได้แล้วในฤดูกาลนี้ ซึ่ง เซาธ์เกตก็ยอมรับว่า ฟอร์มของแรมสเดล กับ อาร์เซนอล ส่งผลต่อการตัดสินใจเรียกตัวครั้งนี้ด้วย

 

     “อารอนอยู่กับทีมมาในช่วงทัวร์นาเมนต์ และนั่นทำให้เราได้ทำงานกับเขานานพอสมควร เรารู้ถึงศัยกภาพและจุดแข็งในการเล่นของเขา ส่วน นิค โป๊ป เพิ่งกลับมาจากอาการบาดเจ็บ ส่วน อารอน ทำผลงานได้โดดเด่นมาก คล้ายกับโทโมริ เขาย้ายไปยังทีมที่มีความคาดหวังสูงมาก และการเล่นของอาร์เซนอล ที่เล่นบอลด้วยเท้า และเซตบอลจากแนวรับ เขาก็ทำได้ดี และมันเหมาะกับทีมชาติ ผมคิดว่าเขาอยู่ในช่วงที่มั่นใจ ปรับตัวเข้ากับทีมเร็วมากนั่นคือเหตุผล”

เซาธ์เกต ยังได้กล่าวเกี่ยวกับการเลือกตัด

     เซาธ์เกต ยังได้กล่าวเกี่ยวกับการเลือกตัด จู๊ด บิลลิงแฮม และ เมสัน กรีนวู้ด สองนักเตะดาวรุ่งออกจากทีมรอบนี้ ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องของสภาพร่างกายของทั้งสองคนที่ลงเล่นต่อเนื่องมาตลอด และเขาต้องการให้พวกเขาได้มีช่วงพักบ้าง

 

     “พวกเขาสองคนอยู่ในสถานการณ์คล้ายกัน กับการลงเล่นต่อเนื่องมาตลอด จู๊ด ลงเล่นฟุตบอลในระดับท๊อปทั้งในแชมเปี้ยนส์ ลีก และบุนเดสลีกา ยังไม่รวมถึงก่อนหน้านี้เขาผ่านยูโร 2020 มากับเรา ไม่ได้พักเลย เรากำลังพูดถึงนักเตะดาวรุ่งอายุน้อย ร่างกายกำลังอยู่ในช่วงพัฒนา และเราต้องดูแลพวกเขาให้ดี เราต้องการให้พวกเขาเป็นอนาคตของทีมชาติ และก็ไม่ต้องการใช้งานหนักเกินไป นั่นคือการตัดสินใจที่ผมคุยกับ นักเตะ, สโมสร และครอบครัวของพวกเขาในการตัดสินใจครั้งนี้ ผมทราบดีว่าพวกเขาผลงานดี ทุกคนก็คาดหวังให้เราเลือกพวกเขาติดทีม แต่เรามองถึงระยะยาวมากกว่านั้น พวกเขาอายุเพิ่งจะ 18-20 ปีเท่านั้น”

 

     สำหรับกรณีของ แฮร์รี่ เคน มีผลงานที่ไม่สวยเท่าไรนักในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงกับข่าวลือในเรื่องของการย้ายทีม ที่สุดท้ายแล้วไม่เกิดขึ้นจริง ซึ่ง เซาธ์เกต ก็ตอบออกมาได้ค่อนข้างดี โดยยังคงเชื่อมั่นในตัวของ หมายเลข 9 ของทีม กับการรับมือกับแรงกดดันในฐานะของนักเตะคนสำคัญ รวมถึงการที่เขายังไม่เลือก เอมิล สมิธ โรว์ กองกลาวดาวรุ่งอาร์เซนอล ติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ในรอบนี้ แม้ว่าจะผลงานโดดเด่นมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา

 

     “ผมคงไม่สามารถตอบอะไรเกี่ยวกับข่าวลือที่ออกมาได้ แต่มันเป็นปกติอยู่แล้วที่นักเตะระดับชั้นนำจะต้องเจอกับเรื่องของข่าวลือ การวิจารณ์ และการหยิบยกเรื่องราวของเขาออกมาพูดในวันที่เขามีผลงานไม่ดี แต่สำหรับเรา เรามั่นใจในตัวเขาเสมอ และเชื่อว่าเขาจะมีแรงกระตุ้นที่ดีแน่เมื่อกลับมาเล่นกับทีมชาติในช่วงสองสัปดาห์นี้ ซึ่งเราต้องการอีกอย่างน้อย 8 คะแนนเพื่อการการันตีไปฟุตบอลโลก และเขาคือคนสำคัญของเราในการทำประตูไปสู่เป้าหมาย”

 

     “เอมิล สมิธ โรว์ เป็นนักเตะที่ผมชอบมาก และเขาใกล้มากกับการได้รับการเรียกตัว ผมค่อนข้างจะต้องมีสมาธิในการจะพูดถึง นักเตะ ดาวรุ่งสักคน ในทีมเวลานี้เรามีนักเตะอายุน้อยหลายคน และเราก็ต้องการนักเตะประสบการณ์สูง ผมต้องการให้มันเหมาะสม และสมดุลกันในเรื่องนี้ และเมื่อโอกาสเหมาะสมมันก็จะถึงเวลาสำหรับนักเตะดาวรุ่งหน้าใหม่ที่จะติดทีมขึ้นมาด้วย ในเวลานี้ผมไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงทีมชุดใหญ่มากจนเกินไปนัก เขามีผลงานที่ดีในฤดูกาลที่แล้ว และในเกมกับสเปอร์ส เขาผลงานดีมาก ผมพูดได้เพียงว่าเราชอบนักเตะคนนี้ และใกล้เคียงมากกับโอกาสในทีมชาติ”

 

     เรียกว่าก็ค่อนข้างจะมีเหตุผลตอบสื่อได้ค่อนข้างดีทีเดียวเลยสำหรับ เซาธ์เกต ในรอบนี้กับการ “เลือก” หรือ “ไม่เลือก” ใครเข้ามาติดทีม ในยุคที่ต้องบอกว่า อังกฤษ มีทางเลือกมากมายเหลือเกินที่เหลือก็มารอดูกันว่า สองเกมต่อจากนี้ อังกฤษจะได้ตามเป้าหมายหรือไม่เท่านั้น

Ads ทีเด็ด บอล เต็ง วันนี้ ฟุตบอล วันนี้