ลูคัส ตอร์เรียร่า (25 ปี สัญญาถึงกลางปี 2023) กองกลางทีมชาติอุรุกวัยของ อาร์เซนอล ออกมากล่าวผ่านสื่อในบ้านเกิด เกี่ยวกับปัญหามากมายที่เกิดขึ้นในช่วงประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา เรื่องราวที่ทำให้เขาแทบจะเสียศูนย์ในชีวิตของตนเอง และการเป็น นักเตะ อาชีพ
บทความนี้ ผมเขียนขึ้นเพื่อจะย้อนไปยังไทม์ไลน์ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาชอง ตอร์เรียร่า โดยคร่าว ก่อนการออกมากสัมภาษณ์ครั้งนี้ของเขา ซึ่งเราจะนำมาประกอบบทความด้วย เพื่ออยากให้ผู้อ่านได้เห็นว่า ตอร์เรียร่า มีปัญหามาสักพักหนึ่งแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมีปัญหา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เขาพยายามแก้ไขมันแล้ว แต่ยังทำไม่สำเร็จเท่านั้นเอง
และนี่คือเรื่องราวของเขา
ตอร์เรียร่า ในปี 2018 กลายเป็นดาวรุ่งที่โดดเด่น เมื่อเลือกก้าวออกจาก ซามพ์โดเรีย ทีมในเซเรีย อา ที่เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น จนทำให้กลายเป็นตัวหลักของทีมชาติ อุรุกวัย อยู่ช่วงหนึ่ง และได้ย้ายมาเล่นกับ อาร์เซนอล สโมสรในพรีเมียร์ ลีก และในฤดูกาลแรกของเขากับทีม เขากลายเป็นขวัญใจแฟนบอลทันที
“สิงโตตัวเล็กก็คือสิงโต” ตอร์เรียร่า เจ้าของความสูง 168 เซนติเมตร ทดแทนจุดด้อยของตนเอง ด้วยการไล่ล่าคู่แข่งอย่างเต็มที่ในพื้นที่กลางสนาม ทำงานหนัก มีความเร็วระดับหนึ่ง ปีแรกของเขาในเวที พรีเมียร์ ลีก เขาลงเล่นไปถึง 34 เกม รวมแล้วในทุกรายการเขามีชื่อในทีม 50 เกมด้วยกัน มากที่สุดคนหนึ่งในทีม
อย่างไรก็ตาม “2nd Syndrome” หรือปัญหาในฤดูกาลที่สอง ซึ่ง นักเตะ หลายคนเจอปัญหาเหล่านี้หลายคนก็มาเกิดขึ้นกับตัวเขา เขาฟอร์มไม่คงที่ มีปัญหาบาดเจ็บ และเริ่มกลายเป็นตัวสำรอง จนกระทั่ง อูไน อเมรี่ ถูกปลดออกไป และ มิเคล อาร์เตต้า เข้ามาทำหน้าที่แทน สถานภาพของ ตอร์เรียร่า ในฐานะตัวจริงก็เริ่มห่างไกลออกไป
“ฤดูกาลที่สองของผมไม่ดีเลยในแง่ของส่วนตัวผม มันไม่ดีเอาเสียเลย ผมเจอปัญหาส่วนตัวหลายเรื่อง และที่แย่กว่านั้นคือ ครอบครัว ได้รับผลกระทบไปด้วย”
ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นเล็กน้อย ตอร์เรียร่า ยอมรับว่าเขาไม่มีความสุขนักในชีวิตที่อังกฤษ อากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี สภาพอากาศที่ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก มากกว่าแสงแดด ในแต่ละวัน มันไม่ทำให้ใครสบายใจขึ้นได้โดยง่าย ว่ากันตามความเป็นมนุษย์คนหนึ่ง หากอยู่ในช่วงรู้สึกแย่ บรรยากาศเช่นนี้ ยิ่งทำลายความรู้สึกมากกว่าเดิม คล้ายกับ คนเหงามองตะวันลับฟ้ายามเย็น ชีวิตคุณจะยิ่งรู้สึกเหงามากขึ้น
ตอร์เรียร่า รู้สึกแบบนั้น จนถึงขั้นมีครั้งหนึ่งบินกลับไปอิตาลี ไปดูเกมเซเรีย อา ในสนาม ลุยจิ แฟร์ราริส รังเหย้าของ ซามพ์โดเรีย สถานที่ซึ่งเขามีความสุขตลอด 2 ปีที่นั่น ณ เวลานั้น ตอร์เรียร่า ก็มีข่าวย้ายทีมแล้ว แต่ทุกอย่างก็ต้องจบลงเมื่อเกมเอฟเอ คัพ ที่พบกับ พอร์ทสมัธ เขาได้รับบาดเจ็บข้อเท้ารุนแรงจนต้องพักอย่างน้อยสามเดือน ซึ่งหากไม่มีการระบาดของโควิด-19 จนทำให้ต้องพักการแข่งขันชั่วคราว เขาคงไม่ได้มีโอกาสกลับมามีส่วนร่วมกับทีมในช่วงท้ายฤดูกาลนั้นไปแล้ว
หลังจบฤดูกาลนั้น ตอร์เรียร่า ย้ายไปร่วมงานกับ แอตเลติโก มาดริด แบบยืมตัวสวนทางกับ โธมัส ปาเตย์ ที่ย้ายมาเล่นกับ อาร์เซนอล แน่นอนว่า เป้าหมายของเขาคือ โอกาสในการกลับมาสู่ฟอร์มที่ดี บนแผ่นดินสเปน พร้อมกับเหตุผลหนึ่งในการย้ายทีมคือเรื่องของภาษา
“มันส่งผลกับผมเยอะมาก และการมาที่นี่ ผมได้พบกับทีมงานที่สามารถพูดคุยกับผมได้อย่างเต็มที่ ผมคิดว่าเรื่องนี้สำคัญกับผมมาก ซึ่งผมเจอปัญหานี้กับ อาร์เซนอล และนั่นคือบทเรียนราคาแพง การย้ายมา แอตเลติโก มาดริด พวกเขาเป็นทีมที่ดี มีเป้าหมายชัดเจน และนั่นโน้มน้าวให้ผมตัดสินใจย้ายมาร่วมงานด้วย ผมได้คุยกับ หลุยส์ ซัวเรซ ที่ย้ายมาเล่นด้วยกันที่นี่ มันเหมือนโบนัสที้ได้เขามาร่วมงานด้วย เราสนิทกันมากในเวลาลงเล่นเกมทีมชาติ”
แอตเลติโก มาดริด เป็นทางเลือกที่ดีของเขา ผลงานของทีมโดดเด่นมากจนถึงขั้นกลับมาคว้าแชมป์ ลา ลีกา ได้สำเร็จ แต่ในแง่ส่วนตัวของ ตอร์เรียร่า เขาสอบตกอย่างแรงในการเป็นฟันเฟืองสำคัญของทีม เพราะ 19 จาก 38 เกม ในลา ลีกา คือจำนวนเกมที่เขาได้ลงเล่น และใน 19 เกมนั้นมีเพียง 3 เกมที่ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เกมสุดท้ายที่เขาลงเล่นตัวจริงและยืนครบ 90 นาที ก็คือเกม โคปา เดล เรย์ รอบสองที่พบกับ ยูอี คอร์เนลล่า ตั้งแต่ วันที่ 6 มกราคม 2021 แถมเกมนั้น แอตเลติโก มาดริด พ่ายตกรอบ
สถานการณ์ที่ไม่เป็นใจในสนามว่าร้ายแรงแล้ว แต่นี่เลวร้ายกว่านั้นคือ การจากไปของแม่อันเป็นที่รัก ในเดือนมีนาคม 2021 จากไวรัสโควิด-19 และตอร์เรียร่า ขอลาทีมไปช่วงหนึ่งเพื่อไปดูแลจัดการงานศพให้กับแม่ของเขาใน เฟรย์ เบนโตส บ้านเกิดของเขา และนั่นทำให้เขาใจสลาย
“ผมใช้เวลาหนึ่งปีในการทำงานร่วมกับ จิตแพทย์ ในสเปน เพราะผมฤดูกาลที่สองกับ อาร์เซนอล ผมได้ลงเล่นน้อยมาก มันยากสำหรับผมกับการที่มีชีวิตเพื่อเล่นฟุตบอล และเมื่อไม่ได้ลงเล่น มันก็คือช่วงเวลาที่ยากลำบาก จนมาวันที่แม่จากไป มันก็เป็นอีกเรื่องที่ลำบากมากสำหรับคนอายุ 25 ที่ต้องเจอเรื่องแบบนี้”
“ตอนผมทราบว่าแม่ติดโควิด-19 ผมกังวลใจมาก เพราะผมอยู่คนเดียว และห่างไกลมาก เรากำลังจะลงเล่นเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก แต่ต้องยกเลิกเกมเพราะโควิด-19 และผมแจ้งกับ แอตเลติโก มาดริด ว่าผมต้องการไปที่อุรุกวัย ผมอยากอยู่ใกล้กับแม่”
“วันที่แม่จากไป ผมได้รับสายที่มาพร้อมเสียงร้องไห้ของพ่อและข่าวร้าย เวลานั้นผมต้องการหยุดเล่นฟุตบอลไปเลย ผมต้องการอยู่ที่บ้าน ผมแทบไม่อยากกลับไปสเปนเลยด้วยซ้ำ ผมอยากอยู่ใกล้บ้าน อยู่ใกล้กับครอบครัว ผมพยายามมาตลอดสองปีหลัง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับผม สอนให้ผมเรียนรู้กับการมีชีวิตอย่างเจ็บปวด แม่ผมตายตอนอายุ 53 เพราะ โควิด-19 มันมีการระบาดที่ เฟรย์ เบนโตส เธอต่อสู้กับมันยาวนาน 11 วัน”
หนึ่งฤดูกาลที่ว่างเปล่าของตอร์เรียร่าจบลงพร้อมปัญหามากมาย เขาติดทีมชาติ อุรุกวัย ลงทำศึก โคปา อเมริกา 2021 ที่ลงเล่นจนถึงรอบรองชนะเลิศ เขาไม่ใช่ตัวหลักในทีมชุดนี้ แต่นั่นไม่ใช่สาระสำคัญอะไร เพราะ ณ เวลานี้ ในระดับสโมสร เขาต้องการย้ายทีม แต่ก็ไม่รู้ว่าปลายทางของเขาคือที่ไหนเช่นเดียวกัน บนสัญญาที่เหลือกับ อาร์เซนอลอีกสองปี
“วันนี้เราไม่มีแม่อีกแล้ว พ่อต้องอยู่คนเดียว เราพยายามที่จะช่วยเหลือเขา เพื่อไม่ให้เขาโดดเดี่ยว เขาคือสิ่งสำคัญที่สุด เราต้องมีชีวิตต่อไป เพื่อแม่ของเราที่จากไป ผมโชคดีที่น้องของผมคนหนึ่งเดินทางมาสเปน มาอยู่กับผม แต่ผมต้องการกลับไปยัง เฟรย์ เบนโตส ไปอยู่กับพ่อ เพราะเขาเจ็บปวดที่สุดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกท่านอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต พวกเขาสองคนเจอกันตั้งแต่พ่ออายุ 16 อยู่กันมา 40 ปี แต่ต้องมาจากกันใน 11 วัน และมาวันนี้ต้องเหลือตัวคนเดียว”
“นับตั้งแต่ผมย้ายไปยุโรป ผมได้เจอครอบครัว 1-2 ครั้งต่อปี และทุกครั้งที่ผมเจอแม่ เธอคือคนที่มีความสุขที่สุดในโลก เราทุกคนในครอบครัวจะเก็บความทรงจำเหล่านั้นไว้ตลอดไป และจะต่อสู้ชีวิตต่อไปเพื่อเธอ เราทุกคนจะสู้ด้วยกัน ตอนผมไปเล่นฟุตบอลโลก 2018 ที่ รัสเซีย การได้เห็นแม่ และพ่ออยู่ในสนาม มันเป็นอะไรที่ไม่มีอะไรเทียบได้ จินตนาการถึงแม่คนหนึ่งที่ภูมิใจในตัวลูกชายของเธอ กำลังลงเล่นเพื่อรับใช้ชาติ เธอมีความสุขมาก”
ถึงบรรทัดนี้ อนาคตของ ลูคัส ตอร์เรียร่า ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามต่อไปว่าท้ายที่สุดแล้ว เขาจะลงเล่นกับสโมสรใดต่อไปในฤดูกาลหน้า เช่นเดียวกับข่าวเกี่ยวกับข้อเสนอการย้ายทีมของเขาที่ยังไม่มีเข้ามาให้กับ อาร์เซนอล ได้พิจารณาเช่นกัน โดยตอร์เรียร่าย้ายมาสู่ อาร์เซนอล ด้วยค่าตัว 26 ล้านปอนด์ ว่ากันตามสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน อาร์เซนอล ยากมากที่จะได้ค่าตัวของเขาในระดับเดียวกับที่พวกเขาจ่ายไป
ความเจ็บปวดกับปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ แต่ความรับผิดชอบก็เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะนั่นคือวิถีของความเป็น “มืออาชีพ” ที่ต้องหาทางออกร่วมกับกับสัญญาอีกสองฤดูกาล เพื่อให้ทั้งสโมสร และ นักเตะ ได้พบกับความพอใจในระดับหนึ่งของทั้งสองฝ่ายอยู่ที่ว่า เรื่องราวนี้จะจบลงอย่างไรเท่านั้น
Copyright © 2019 UFA6556 แทงบอลออนไลน์ มั่นคง ปลอดภัย อันดับหนึ่งเมืองไทย | All right reserved.