ufabet ทีเด็ด บอล วันนี้ ราคา บอล

ระลึกถึงเอสโคบาร์

อันเดรส เอสโคบาร์ 26 มิถุนายน 1994 – 26 มิถุนายน 2020

     วันนี้เมื่อ 26 ปีที่แล้ว อันเดรส เอสโคบาร์ กองหลังทีมชาติโคลอมเบีย ลงเล่นเป็นเกมสุดท้ายของชีวิตของเขา

     มันจบลงด้วยชัยชนะเหนือทีมชาติสวิสเซอร์แลนด์ แต่มันก็ไม่มากพอจะทำให้ โคลอมเบีย ผ่านเข้ารอบต่อไปของ ฟุตบอลโลก 1994 พวกเขาตกรอบแรก ทั้งที่ได้รับการคาดหมายว่า จะเป็นทีม ม้ามืดของทัวร์นาเมนต์  เพราะก่อนหน้าเพียงไม่ถึง หนึ่งปี โคลอมเบีย เปิดบ้านเอาชนะ บราซิล ไปได้อย่างท่วมท้น 5-0 ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของ นักเตะ หลายคน นำโดย “เดอะฟู” คาร์ลอส วัลเดอร์ราม่า กองกลางกัปตันทีม

     ชนวนในการเสียชีวิตของเอสโคบาร์ เกิดขึ้น ในเกมที่สองของรอบแรก เมื่อเขาพลาด สกัดบอลเข้าประตูตัวเอง ทำให้ สหรัฐอเมริกา ขึ้นนำไปก่อน 1-0 ก่อนที่จะจบลงด้วยชัยชนะของ “พญาอินทรี” ซึ่งเป็นเจ้าภาพในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว 2-1  โคลอมเบีย ตกรอบแรกทันที หลังจากเกมแรกพวกพ่าย โรมาเนีย มาแล้วก่อนหน้านี้

     หลังจบเกมสุดท้ายของรอบแรก โคลอมเบีย เดินทางกลับประเทศทันที และหลังจากนั้นเพียง 6 วัน โคลอมเบีย ก็ต้องสูญเสีย กองหลังวัย 27 ปี ผู้นี้ไปตลอดกาล

ประวัติ เอสโคบาร์

     อันเดรส เอสโคบาร์ เกิดในครอบครัวของ ชนชั้นกลาง ในประเทศโคลอมเบีย เขาจบการศึกษาที่ดี ก่อนจะเลิกเข้าสู่เส้นทางฟุตบอล ด้วยการเป็น นักเตะ ทีมโรงเรียน และก็เข้าตัดสินใจเป็น นักเตะ อาชีพ ในเวลาต่อมา โดยเข้าร่วมเป็น นักเตะ เยาวชนของสโมสร แอตเลติโก นาซิงอองนาล ด้วยอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น ก่อนที่จะ ได้รับโอกาสในการลงเล่นกับ ทีมชุดใหญ่ ในปีต่อมา ก่อนที่จะมีโอกาสไปเล่น ฟุตบอล ในยุโรป กับสโมสร ยัง บอยส์ ในประเทศ สวิสเซอร์แลนด์ เป็นเวลาหนึ่งฤดูกาล หลังจากนั้นก็กลับมาเป็นตัวหลักให้กับทีม แอตเลติโก นาซิอองนาล ต่อเนื่องมานับจากนั้น จนกระทั่งถึงวันที่เสียชีวิต

     ตลอดชีวิตการเล่นฟุตบอลอาชีพ เขาช่วย แอตเลติโก นาซิอองนาล คว้าแชมป์ลีก 1 สมัย รวมถึงแชมป์ โคปา ลิเบอตาดอเรส คัพ ซึ่งเป็นแชมป์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีป อเมริกาใต้ ได้ในปี 1989

     ในวันที่เกิดเหตุ มีการระบุว่า เอสโคบาร์ ถูกยิงบริเวณผับที่ชื่อว่า เอล อินดิโอ ในเมือง เมเดยิน บ้านเกิดของเขาเอง โดยเขา ได้โทรชวนเพื่อนออกมาเที่ยวในคืนวันที่ 1 กรกฎาคม 1994 และโดยระหว่างการเที่ยวคืนนั้น เขามีปากเสียง กับคนในผับ ซึ่งเข้ามาพูดจาตำหนิเขา เกี่ยวกับ ความผิดพลาดในการทำเข้าประตูตัวเองในฟุตบอลโลก แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มากกว่านั้น

     ก่อนที่คาดว่าในเวลา ตี 3 ของวันที่ 2 กรกฎาคม 1994 เอสโคบาร์ อยู่ในลานจอดรถบริเวณผับ ภายในรถของตัวเอง โดยมีชายสามคนเข้ามาหาเขา ก่อนจะมีปากเสียงกัน โดน 2 ใน 3 คนมีปืน .38 และใช้มันยิงเขาทั้งสิ้น 6 นัด โดยมีการระบุว่า มือปืนตะโกนคำว่า “GOAL” หลังจากยิงเขา เลียนแบบเสียงพากย์จังหวะการได้ประตูในเกมฟุตบอล ก่อนที่จะขับรถหนีไป ก่อนที่รถพยาบาลเดินทางมาถึง นำร่างจมกองเลือดของเขาส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา โดยมีความเชื่อกันว่ามันคือการ ลงโทษ จากความผิดพลาดในการทำเสียประตูในครั้งนั้นของเขา

โคลอมเบีย เมืองแห่งความรุนแรง

     หากใครได้ดู ซีรีส์ เรื่อง “NARCOS” ที่บอกเล่าเรื่องราวของ ปาโบล เอสโคบาร์ (ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับ อันเดรส เอสโคบาร์) เจ้าพ่อยาเสพติดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โคลอมเบีย ก็จะพอนึกภาพออกเกี่ยวกับปัญหาความวุ่นวายมากมายที่เกิดขึ้นในประเทศ โคลอมเบีย ได้ง่ายยิ่งขึ้น

     โคลอมเบีย เป็นประเทศในอเมริกาใต้ ที่มีปัญหาเรื่องของ การเมือง มาเฟีย ยาเสพติด มากมายในช่วงทศวรรษที่ 80 เป็นต้นมา โดยในซีรีส์ดังกล่าว มีการพูดถึงเหตุการณ์ของ อันเดรส เอสโคบาร์ อยู่ด้วยเล็กน้อย

     “มันเป็นอะไรที่เลวร้ายมาก ผมคิดว่ามันคือเราทั้งหมดที่สร้างเรื่องกันขึ้นมา (ตกรอบแรกฟุตบอลโลก 1994) ผมร้องไห้มาก มากเหลือเกิน กับการตายของเขา เอสโคบาร์ เป็นเพื่อนที่ดี เป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยม เป็นคนตลก ตอนที่เราเดินทางกลับมาจาก สหรัฐอเมริกา เขายังบอกกับผมเลยว่า “อย่าเดินออกไปตามถนน มันอันตรายมาก นายชอบปาร์ตี้ และอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ พวกเขาอาจฆ่าคุณได้เลยนะ ดังนั้นอยู่บ้านเถอะ” ผมตอบเขากลับไปว่า “โอเค เพื่อน ฉันจะอยู่แต่ในบ้าน” แต่สุดท้ายคนที่ออกไปนอกบ้านคือเขา เขาไม่ได้ทำตามคำแนะนำของตัวเขาที่มอบให้กับผม” ฟาอุสติโน่ อัสปริย่า กล่าวถึง เอสโคบาร์

     หลังเกิดเรื่อง ทุกอย่างมีบทสรุปทาง “คดี และกฎหมาย” มีการระบุว่า อุบแบร์โต้ คาสโตร มูยอซ เป็นผู้สังหาร เอสโคบาร์ และถูกตัดสินจำคุก 43 ปี แต่ผ่านไป 11 ปี ก็ได้รับการปล่อยตัวออกมา ขณะที่มีการระบุว่า อีกสองคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ คือ สองพี่น้องตระกูล เปเปส ซึ่งเป็นนักเลง พ่อค้าของเถื่อน และมีอิทธิพลในโคลอมเบีย ซึ่งรอดจากการติดคุกไปได้ โดยมีคำกล่าวอ้างที่ว่า การเสียชีวิตของ เอสโคบาร์ นั้นเกิดจากการทะเลาะเบาะแว้งกันในค่ำคืนนั้น จนบันดาลโทสะ และจบลงด้วยความตายของเอสโคบาร์ ในที่สุด

“ฟุตบอลโลก คือประสบการณ์ที่ดีที่สุด และหายากยิ่ง และเราจะพบกันอีก เพราะชีวิตมันไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้” เอสโคบาร์ กล่าวไว้ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตไม่นานนัก

     งานศพของเขา มีผู้เข้าร่วมไว้อาลัยเข้าร่วมงานมากถึง 120,000 คน พร้อมกับชูภาพของเขา เพื่อเป็นการไว้อาลัย แก่เขาผู้ซึ่งต้องจากไปก่อนวัยอันควร หลังการเสียชีวิตของเขา ครอบครัวของ เอสโคบาร์ ยังคงสานความฝันของเขาด้วยการ ช่วยเหลือเด็กผู้ยากไร้ในโคลอมเบีย เพื่อมอบโอกาสในการเล่นฟุตบอล ที่ เอสโคบาร์ ชื่นชอบ และลงเล่นในฐานะของตัวแทนของประเทศนี้ โดยในปี 2002 มีการสร้างอนุสาวรีย์ ของเขาขึ้น เพื่อระลึกถึงเขา โดยตั้งอยู่ในเมือง เมเดยิน บ้านเกิดของเขา

Ads ทีเด็ด บอล เต็ง วันนี้ ฟุตบอล วันนี้