หลังเกิด โศกนาฏกรรม ในเกม พรีเมียร์ ลีก เมื่อวานพร้อมกันถึงสองเกม ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่เห็นกันบ่อยนัก ที่เราจะเห็นการ “เละเทะ” ถึงสองคู่ในสัปดาห์เดียว แต่มันคือเรื่องสุดพิเศษเมื่อสองเกมที่เละเทะ เกิดขึ้นกับ สโมสรที่ชื่อว่า
“แชมป์ลีกสูงสุด มากที่สุด” อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
“แชมป์ พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลล่าสุด” อย่าง ลิเวอร์พูล
ความพ่ายแพ้ 1-6 คารัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ที่กลายเป็น รีสอร์ท แอนด์ สปา อีกครั้ง คงไม่ทำให้แฟนบอลปีศาจแดง หดหู่ใจมากนัก เมื่อ “ฆาตกรรมสังหารหงส์” ที่ วิลล่า พาร์ค 7-2 ของ แอสตัน วิลล่า ที่ทำการชำแหละ จน แชมป์เก่า เสียท่าแบบน่าอับอายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สโมสร
อย่างไรก็ตาม ความพ่ายแพ้ ทั้งสองครั้ง ไม่ใช่ ความพ่ายแพ้ที่ใหญ่ที่สุด ของพรีเมียร์ ลีก เคยพบเจอมาก่อน วันนี้ เรามี 5 เกม แหง่ความ “เละเทะ” ที่สุดของพรีเมียร์ ลีก มาฝากกัน กับ ฤดูกาล 2020-2021 ฤดูกาลที่ 28 ของพรีเมียร์ ลีก โดยเราจะนับจากผลต่างระยะห่างของ ประตู ที่เกิดขึ้นในเกมนั้นในการจัดลำดับ
อันดับที่ 5 มิดเดิ้ลสโบรซ์ 8 – 1 แมนเชสเตรอ์ ซิตี้ [ผลต่าง 7 ประตู]
11 พฤษภาคม 2008
เกมส่งท้ายฤดูกาล 2007-2008 ในบ้านของ “สิงห์แดง” จบลงอย่างชื่นมื่น กับชัยชนะที่ได้รับการระบุว่า ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการก่อตั้งสโมสร เมื่อพวกเขาระเบิดฟอร์มใส่ เรือใบสีฟ้า ในยุคที่ ทักษิณ ชินวัตร เป็นเจ้าของสโมสร และมี สเวน โกรันน์ อีริคสัน เป็นผู้จัดการทีม
ริชาร์ด ดันน์ กองหลังทีมเยือนโดนไล่ออกตั้งแต่นาทีที่ 15 หลังจากนั้น การปูพรมถล่มก็เริ่มต้นขึ้นแบบไม่ไหวหน้า เรียกว่า “เรียงหน้ายิง” กับผู้เล่น 5 คน โดย อัลฟอนโซ่ อัลเวส กองหน้าบราซิล ที่เวลานั้นเพิ่งย้ายมาใหม่ ยิงแฮตทริคได้ในเกมนั้น และเป็นการทำงานครั้งสุดท้าย ของ สเวน กับทีมเรือใบสีฟ้า เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ทีมก็มีการเปลี่ยนแปลง เจ้าของทีม รวมถึง พวกเขาก็อยากได้โค้ชคนใหม่ จนกลายเป็น มาร์ค ฮิวจส์ มารับหน้าที่แทน พร้อมกับการเริ่มต้น ยุคของ “เรือใบของท่านชีค” จนถึงทุกวันนี้
อันดับที่ 4 นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1 – 8 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด [ผลต่าง 7 ประตู]
6 กุมภาพันธ์ 1999
หากความพ่ายแพ้ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-6 ชอกช้ำแล้ว ต้องบอกว่า แฟนบอล ฟอเรสต์ คงบอกว่า “มาดูมึงทำกูก่อน” กับทีมในฤดูกาล “ทริปเปิ้ลแชมป์” ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดินหน้าฆ่ามันกับ 8 ประตูที่เกิดขึ้น คารังเจ้าป่า “คู่หูนิลกาฬ” ดไวท์ ยอร์ค และ แอนดี้ โคล ทำคนละสองประตู ส่วน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ล่อคนเดียว 4 ประตู จบฤดูกาล ฟอเรสต์ ตกชั้น ส่วน ปีศาจแดง ฟาดสามแชมป์…โซลชาเวลานี้คงอยากให้วันเก่าๆ หวนกลับมาอีกสักครั้ง
อันดับ 3 นิวคาสเซิ่ล 8 – 0 เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ [ผลต่าง 8 ประตู]
19 กันยายน 1999
มันคงไม่มีการเปิดตัวในบ้านครั้งไหนยิ่งใหญ่เท่ากับ การเปิดตัว เป็นผู้จัดการทีม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ครั้งแรกใน เซนต์ เจมส์ พาร์ค เพราะ “แมคพายส์” ทำตามมอตโต้ของสโมสร “Howay The Lads” [เอาหน่อยโว้ยพวกเรา] จัดหนักต้อนรับ ปู่บ๊อบ ด้วยการยิงโหด เหมือนโกรธกันมาแรมปี อารอน ฮิวจส์, คีรอน ดายเออร์ รวมถึง แกรี่ สปีด มีคนละหนึ่งประตู แต่ไม่มีอะไรจะพีคเท่ากับ “ฮอตชอต” อลัน เชียเรอร์ ที่เปิดตัวนายใหม่ด้วยการทะลวงไปถึง 5 ประตู ในเกมนี้
อันดับ 2 สเปอร์ส 9 – 1 วีแกน แอตเลติก [ผลต่าง 8 ประตู]
11 พฤศจิกายน 2009
ปีเตอร์ เคร้าซ์, เดวิด เบนท์ลีย์, อารอน เลนน่อน และ นิโก้ ครันชาร์ กลายเป็นเหมือนนักดนตรีที่ร่ายคนละบทเพลงละหนึ่งประตู เป็นการโหมร้อง ให้ “ฟร้อนท์แมน” อย่าง เจอร์เมน เดโฟ กับ 5 ประตูที่เขาทำได้ จากจังหวะโอเพ่นเพลย์ทั้งหมดในเกมเดียว กลายเป็น คืนหลอนคนโหย สำหรับผู้มาเยือน ที่หลังจบเกมถึงกับออกประกาศ คืนเงินให้กับแฟนบอล “เดอะ ลาติกส์” ทุกคนที่ตามมาชมในเกมนั้น เป็นการไถ่บาปกันเลย
อันดับ 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 9 – 0 อิปสวิช ทาวน์ [ผลต่าง 9 ประตู]
4 มีนาคม 1995
แม้จะเกิดขึ้นมานานถึง 25 ปีแล้ว แต่สถิติชัยชนะ ที่มากที่สุด กระจุยกระจายที่สุด ยังคงเป็นเกมนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันที่ โรงละครแห่งความฝัน คือความสยอง ของทีมเยือนทุกทีมที่มาเยือน ปูพรม ถล่ม “ม้าขาว” ที่เลือดนองเมื่อจบเกมไปด้วย 9 ประตู ที่มาจากผู้เล่น 4 คน ในเกมนั้น แต่ แอนดี้ โคล คือคนพิเศษ พระเอกของงานนี้ เมื่อทำคนเดียว 5 ประตู ในเกมเดียว กลายเป็น อีกหนึ่งนักเตะในสามคน ของประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ ลีก ที่ทำได้ 5 ประตู โดยเขาเป็นคนแรกที่ทำได้ ก่อนที่ อลัน เชียเรอร์ และ เจอร์เมน เดโฟ จะทำได้แบบเขาในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตามสิ่งที่อาจจะด่างพร้อยไปบ้างกับผลงานนี้ คือในฤดูกาล 1994-1995 คือฤดูกาลที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องมือเปล่า กับการจบด้วยรองแชมป์ ทั้งใน พรีเมียร์ ลีก และ เอฟเอ คัพ นั่นเอง