อนาคตข้างหน้าของ “ซลาตัน” ในวัย 40 ปี

กลายเป็นข่าวที่ออกมาสร้างรอยยิ้มให้กับ “รอสโซเนรี่” ได้บ้าง หลังจากผ่านสถานการณ์ตึงเครียด กับการเข้าร่วม ซูเปอร์ ลีก ที่ตอนนี้ 99 % แล้วว่า ล่มอย่างแน่นอน แม้ว่า เรอัล มาดริด ซึ่งนำโดย ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร จะยังไม่ยอมแพ้ แถมยังมีเรื่องการจะฟ้องร้องค่าเสียหายกันวุ่นวาย คงต้องตามข่าวกันต่อไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็คือ ความไม่พอใจของแฟนบอลจาก 12 สโมสร กับการที่ บอร์ดบริหารของทีม เอาทีมของพวกเขาไปทำเช่นนี้ ในแบบที่ไม่มีการบอกกล่าวอะไรสักคำ และจบลงด้วยการประท้วงกันอย่างรุนแรง แบบที่เกิดขึ้นกับ เชลซี ที่ถึงขั้นแฟนบอลไม่สนใจ โควิด-19 ออกมาประท้วงกัน หน้าสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ กันจนวุ่นวาย

เอซี มิลาน ก็เรียกว่าถอนตัวออกมาแล้ว แม้พวกเขาจะไม่มีข่าวอะไรรุนแรงแบบที่อังกฤษ แต่ก็เรียกว่าต้องออกมาขออภัย แจกแจงกันอย่างวุ่นวาย โดยเฉพาะ อิวาน กาซิดิซ ผู้บริหารคนสำคัญของทีม ที่เป็นหัวเรือในการเข้าร่วมลีก ที่คงต้องเจอแรงยี้ จากแฟนบอลที่ไปอีกพักใหญ่ เพราะไม่มีท่าทีจะลาอออกแต่อย่างใด ในช่วงเวลานี้

หลังพายุ “ซูเปอร์ ลีก” มิลาน ก็มีข่าวดี

หลังพายุ “ซูเปอร์ ลีก” สงบลง มิลาน ก็รีบแถลงข่าวดี ลดกระแสสังคมทันที เมื่อพวกเขาประกาศต่อสัญญากับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (39 ปี; สวีเดน) ออกไปอีกหนึ่งปี โดยจะอยู่กับทีมจนถึง มิถุนายน 2022 เป็นอย่างน้อย และนั่นหมายถึง “อิบรา” จะลงเล่นฟุตบอลอาชีพจนถึงอายุ 40 ปี

หลังจากกลับมาร่วมงานกันเป็นคำรบที่สอง อิบราฮิโมวิช ก็ยังคงเป็นคนสำคัญสำหรับแนวรุกมิลาน แม้จะมีปัญหาบาดเจ็บ รวมถึง โควิด-19 รบกวนอยู่ประปราย แต่การลงเล่นไป 25 เกม ในทุกรายการ แต่จบสกอร์ได้มากถึง 17 ประตู ก็ต้องบอกว่า เสือเฒ่าสวีดิช คนนี้ยังคงมีดี และดีพอสำหรับการเล่นกับ มิลาน ที่ปีนี้ช่วงหนึ่งเป็นจ่าฝูง เซเรีย อา พักใหญ่ ก่อนที่ตอนนี้พวกเขาจะตามหลัง อินเตอร์ มิลาน 9 คะแนนในโค้งสุดท้ายของ เซเรีย อา ฤดูกาลนี้

“ผมบอกเสมอว่าการเล่นกับ เอซี มิลาน เหมือนกับการได้อยู่ที่บ้าน ผมมีความสุขมากกับการที่สโมสรปฏิบัติกับผมให้รู้สึกได้แบบนั้น ผมอยากอยู่ที่ มิลาน ต่อไป ในช่วงชีวิตที่เหลือของตัวเอง หากมันเป็นไปได้” อิบรา กล่าวหลังเซ็นสัญญาใหม่เรียบร้อย

ว่ากันตามสภาพความเป็นจริง มิลาน เองก็พอใจกับผลงานของเขาที่สามารถเป็นที่พึ่งพายามยากของทีมได้บ่อยครั้ง และแม้ว่าจะมีปัญหากันบ้าง โดยเฉพาะสัมภาษณ์ล่าสุด เรื่อง ซูเปอร์ ลีก ที่เจ้าตัว ออกมาด่าสโมสรที่ตัดสินใจด้วยการเข้าร่วมลีก ดังกล่าว และขู่ว่าเขาพร้อมไปที่ไหนก็ได้ในโลก เพื่อจะไม่ต้องลงเล่นในลีกดังกล่าว ก็เหมือนกับกระตุ้นให้ มิลาน รีบมัดตัวเขาไว้ใช้งานต่อไป หลังเคลียร์เรื่อง ซูเปอร์ ลีก จบแล้ว และแน่นอน อีกคนที่ดีใจก็หนีไม่พ้น มิโน ไรโอล่า เอเยนต์คนดังของวงการ

เอซี มิลาน ก็ยังคงต้องจัดการปัญหาอีกหลายอย่าง

“ซลาตัน เป็นคนที่แข็งแกร่งแค่ไหน พวกคุณทราบดีอยู่แล้ว แต่ผมมาอยู่ตรงนี้ก็มีหน้าที่ในการปกป้องเขา” ไรโอล่า กล่าว โดย ไรโอล่า กับ ซลาตัน นับเป็นทั้ง “เพื่อนร่วมงาน” และ “เพื่อน” กันในชีวิตจริง หลังจากทั้งสองคนรู้จักกันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยที่ ซลาตัน ลงเล่นกับ มัลโม่ เอฟเอฟ ในช่วปลายทศวรรษที่ 90 ซึ่ง ไรโอล่า เป็นคนไปพบกับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่เวลานั้นเป็นแค่ดาวรุ่งคนหนึ่ง เพื่อบอกว่า เขาอยากเป็น เอเยนต์ ดูแลผลประโยชน์ให้กับ ซลาตัน หลังจากนั้นพวกเขาก็กอดคอลุยไปทั่วยุโรปตลอดมากกว่า 20 ปีแห่งเส้นทางสายฟุตบอลของดาวยิงสวีดิช ที่ผ่านการเล่นในระดับสูงสุดมาแล้วทั้งใน เนเธอร์แลนด์, อิตาลี, สเปน, ฝรั่งเศส, อังกฤษ รวมถึงในสหรัฐ อเมริกา

อย่างไรก็ตาม เอซี มิลาน ก็ยังคงต้องจัดการปัญหาอีกหลายอย่าง ทั้งที่กำลังจะมาถึง และที่มีประเด็นกันมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ทั้งเรื่องของโค้ชใหม่ รวมถึงการที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของ บอร์ดบริหาร ของทีม ที่นับเป็นหนึ่งฤดูกาลที่ เอซี มิลาน เต็มไปด้วยความวุ่นวาย เช่นเดียวกับตลาดการซื้อขาย นักเตะ ที่หลังจากจบฤดูกาลนี้ มิลาน คงต้องทำงานกันอีกเพียบ ทั้ง “ขาเข้า” และ “ขาออก” แต่ก็เชื่อว่า สุดท้ายแล้ว พวกเขาก็น่าจะมีทีมที่ดีขึ้นแน่ เมื่อพวกเขากลับเข้าสู่ แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง หลังจากครั้งสุดท้ายที่ลงเล่นในรายการนี้ ต้องย้อนไปไกลถึงฤดูกาล 2013-2014 โน่นเลย

ซลาตัน เพิ่งตัดสินใจกลับมารับใช้ทีมชาติสวีเดนอีกครั้ง นับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา และการลงเล่นในเกมล่าสุดที่พบกับ จอร์เจีย ทำให้เขากลายเป็น นักเตะ สวีเดน ที่ติดทีมชาติด้วยอายุมากที่สุดด้วยวัย 39 ปี แทนที่ของ โธมัส ราเวลลี่ นายทวารรุ่นลุง ที่ลงเล่นด้วยสถิติ 38 ปี 59 วัน และกลางปีนี้เขาจะได้ลงเล่นใน ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป

ด้วยวัยใกล้ 40 ปี ถือว่ามาไกลเกินมาตรฐาน

“มันเหมือนเป็นเกมแรกของผมกับ ทีมชาติสวีเดน มันเต็มไปด้วยการหลั่งไหลของ อะดรีนาลีน ในร่างกาย ผมเสียดายที่ตัวเอง น่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้ แต่สุดท้ายแล้ว เกมจบลงด้วยชัยชนะของ สวีเดน และนั่นสำคัญที่สุดแล้ว” อิบราฮิโมวิช กล่าวหลังเกมคัมแบ็คทีมชาติของตนเอง

ด้วยวัยใกล้ 40 ปี หากมองในมุมของ นักเตะ ทั่วไป ก็ถือว่ามาไกลเกินมาตรฐานของ นักเตะ ทั่วไปแล้ว แต่ อิบราฮิโมวิช ต้องการลงเล่นให้นานที่สุด เท่าที่ร่างกาย และจิตใจของเขา อนุญาต และ ปรารถนา ให้เป็นเช่นนั้น และนั่นเป็นกำไรสำหรับแฟนบอล ที่จะได้เห็น นักเตะ ที่ตอนนี้ขึ้นชั้นอีกหนึ่งตำนานของวงการฟุตบอลลงเล่นต่อไปอีกอย่างน้อยหนึ่งปี

“เขาอยากลงเล่นอีกหลายปีเลยล่ะ 3-4 ปี หรือบางทีใครจะไปรู้ว่าเขาอาจจะเล่นถึงอายุ 50 ปีเลยก็ได้” ไรโอล่า กล่าว

นั่นสิใครจะไปรู้!