หลังจากพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ ถ้วยฟุตบอล มาก็หลายครั้งแล้ว มาวันนี้ ผมจะเปลี่ยนเรื่องราวมาพูดคุยกันถึงเรื่องราวของ เสื้อฟุตบอล กันบ้างดีกว่า กับเรื่องราวของ “เกียรติยศ” ที่เกียรติยศที่ว่านี้ขอ เรียกมันว่า “เกียรติยศแห่งดาว”
ผมเชื่อว่า แฟนบอล หลายท่าน คงจะต้องเคยเห็น และสงสัยกันบ้างนะครับ ว่า ทำไมบางสโมสรถึงมี “ดาว”ติดกันไว้บนอกเสื้อ เหนือตราสโมสร บางสโมสรมีมากกว่าหนึ่งดวง ทั้งหมดนี้มีที่มา ไม่ใช่ว่า อยากเอามาติดก็ติดได้ มันต้องมี ที่มาที่ไป ของการได้มา และแน่นอน การได้มาของ ดาว บนอกเสื้อ หมายถึง การคว้าแชมป์ ของแต่ละประเทศนั่นเอง
การใช้ “ดาว” บนอกเสื้อเป็นเสมือนการบ่งบอกถึง “เกียรติยศ” ของประเทศ หรือสโมสร เคยทำได้มาก่อน ซึ่งในวันนี้ เราจะขอกล่าวถึง “ดาว” บนอกเสื้อของ เสื้อฟุตบอลทีมชาติ กันก่อน เป็นอันดับแรก
“ฟุตบอลโลก” ทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกฟุตบอล ได้รับการยอมรับ จากทั่วโลก น่าจะเป็นตัวอย่างที่เห็นชัดเจนที่สุด ในเรื่องของการ ติดดาวบนเสื้อ เพราะ มีการจำหน่ายเสื้อแข่ง ที่ติด “ดาวแชมป์โลก” ให้กับ แฟนบอล ด้วย โดย ดาวหนึ่งดวง บนอกเสื้อของทีมชาติใดก็ตาม หมายถึง จำนวนการคว้า “แชมป์โลก”ของแต่ละชาติ
บราซิล กับ ดวงดาวทั้ง 5 พวกเขาคือ ประเทศที่คว้า แชมป์โลก ได้มากที่สุด จำนวน 5 ครั้งด้วยกัน โดยครั้งล่าสุด ที่พวกเขาคว้าแชมป์โลก คือในปี 2002
เยอรมัน กับดวงดาว 4 ดวง กับแชมป์โลกครั้งล่าสุดในปี 2014 หรือว่า ฝรั่งเศส ได้ดาวดวงที่ 2 กับการแข่งขัน ฟุตบอลโลก ครั้งล่าสุด เมื่อปี 2018 หลังจากทำได้ครั้งแรกในปี 1998
ตั้งแต่มีการ จัดการแข่งขัน ฟุตบอลโลก ในปี 1930 เป็นต้นมา มีเพียง 8 ชาติเท่านั้น ที่ได้รับ “เกียรติยศแห่ง ดาวแชมป์โลก” บนอกเสื้อของประเทศตนเอง และมันทรงคุณค่าอย่างยิ่ง กับความภาคภูมิใจที่เคยได้รับการระบุว่า เป็นที่สุด ในวงการฟุตบอลระดับชาติ มาแล้ว ประกอบไปด้วย บราซิล, เยอรมัน, อิตาลี, อุรุกวัย, อาร์เจนติน่า, ฝรั่งเศส, สเปน และ อังกฤษ
นอกจากนี้ ในวงการฟุตบอลหญิง ก็มีการมอบ “เกียรติยศแห่งดาว” ให้กับประเทศที่คว้าแชมป์โลกเช่นกัน “พญาอินทรี” สหรัฐอเมริกา มีทีมฟุตบอลหญิง ที่เก่งที่สุดในโลก พวกเธอ คว้าแชมป์โลกมาแล้วถึง 4 สมัย กับดวงดาว 4 ดวง บนอกเสื้อ ซึ่งดวงล่าสุดได้มาจากการคว้า แชมป์โลก ในปี 2019 ที่ผ่านมา
ขณะที่ “นาเดชิโกะ” ทีมชาติหญิงของประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศเดียว จาก เอเชีย ที่ได้รับ ดวงดาวแชมป์โลก ประดับบนอกเสื้อของพวกเธอ กับการคว้าแชมป์โลกหญิง ได้สำเร็จในปี 2011
ทั้งนี้ ฟุตบอลโลกหญิง เพิ่งเริ่มมีการ จัดการแข่งขันขึ้น อย่างเป็นทางการครั้งแรก ในปี 1991 และ มีเพียง 4 ชาติเท่านั้นที่ครองแชมป์โลก ประกอบไปด้วย สหรัฐอเมริกา, เยอรมัน, นอร์เวย์ และ ญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม “เกียรติยศแห่งดาว” ในระดับชาติ ไม่ได้ถูกนำมาใช้ แค่เพียง ทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลโลก เท่านั้น แต่ยังมีการนำมาใช้งานกันอีกหลายทัวร์นาเมนต์ ด้วยกัน
“แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ” ศึกชิงบัลลังก์แห่ง ทวีปแอฟริกา ก็มีการมอบ “ดาว” ให้กับประเทศที่สามารถคว้าแชมป์ รายการนี้ ได้เช่นกัน ซึ่งแต่ละชาติ นักเตะ ก็จะสวมเสื้อที่มีการปัก “ดาว” บนอกเสื้อ ที่บอกถึงจำนวนของการคว้าแชมป์ แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ เอาไว้ด้วย
“ขุนพลแห่งลุ่มน้ำไนล์” ทีมชาติอียิปต์ มีดวงดาว บนอกเสื้อถึง 7 ดวง กับชัยชนะ 7 สมัย กับรายการนี้ ขณะที่ “หมอผี” แคเมอรูน กับดวงดาวทั้ง 5 ดวง เป็นต้น
“เอเชียน คัพ” ศึกชิงความยิ่งใหญ่แห่งเอเชีย หรือกระทั่ง “โคปา อเมริกา” ทัวร์นาเมนต์สำหรับทวีป อเมริกาใต้ ก็มีการมอบ “ดาว” ให้กับทีมชาติที่สามารถคว้าชัยในรายการแข่งขันนั้น เช่นกัน ซึ่งก็มีหลายชาติ สับเปลี่ยน หมุนเวียน กันมาคว้าแชมป์ในระดับทวีป ของตนเองอย่างมากมาย
อย่างไรก็ตาม “เกียรติยศแห่งดาว” ในระดับทวีป นั้น ไม่มีข้อกำหนดว่าจะต้องใช้ หรือติดบนอกเสื้อทุกครั้ง หรือเสมอไป อาจใช้เป็นเฉพาะบางเกมการแข่งขัน หรือติดเฉพาะในระหว่างทัวร์นาเมนต์ รวมถึงไว้ สำหรับเฉลิมฉลอง ก็ได้เช่นกัน ซึ่งจะแตกต่างจาก “ดาว” ของการคว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก ซึ่งจะติดบนอกเสื้อทุกครั้ง ไปจนถึงเสื้อฟุตบอล ที่ผลิตจำหน่ายให้กับแฟนบอลด้วย ซึ่งแน่นอนก็เพราะด้วย เหตุผลที่ว่า ฟุตบอลโลก คือ ทัวร์นาเมนต์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกนั่นเอง และหลายชาติ อย่างเช่น บราซิล ก็เลือกติด ดาวแชมป์โลก 5 ดวง มากกว่าจะติด ดาวแชมป์โคปา อเมริกา ซึ่งพวกเขาคว้าแชมป์มาแล้ว ถึง 9 สมัย เป็นต้น
ในระยะหลัง ฟีฟ่า เริ่มมีการให้ความสำคัญในเรื่องของการได้แชมป์ มากยิ่งขึ้น สังเกตได้จากในทัวร์นาเมนต์ระดับชาติ จะมีการติด “ตราสัญลักษณ์” บนอกเสื้อที่บ่งบอกถึงความเป็น “แชมป์เก่า” ของทัวร์นาเมนต์ครั้งที่แล้ว ติดมาด้วย
พรุ่งนี้เรามาคุยกันต่อกับ เกียรติยศแห่งดาว ในระดับสโมสร กันครับ