เรื่องราวของ นักเตะ เยาวชน ในยุคนี้ กลายเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญของทุกสโมสร มีการลงทุนอย่างหนักในเรื่องนี้ เพื่อสร้างบุคลากร รุ่นใหม่ขึ้นมาสู่สโมสรของตนเอง
“เราไม่ซื้อซูเปอร์สตาร์ แต่เราสร้างซูเปอร์สตาร์”
“เหยี่ยวลิสบอน” เบนฟิก้า สโมสรฟุตบอล ในประเทศโปรตุเกส เป็นอีกหนึ่งในสโมสร ที่ในระยะหลัง ผลผลิตเยาวชนของพวกเขามีความโดดเด่น เป็นอย่างยิ่ง
วงการฟุตบอลโปรตุเกส ได้รับการยอมรับว่าอยู่ในช่วงยุคทอง หลังจากที่ โปรตุเกส คว้าแชมป์ ยูโร 2016 ได้สำเร็จ พวกเขาก็เริ่มมี นักเตะ หลายคนก้าวเข้ามาสู่ทีมชาติ และสร้างชื่อเสียงโดดเด่นหลายต่อหลายคน
เจา เฟลิกซ์ เป็นหนึ่งใน นักเตะ ที่ดังที่สุดในยุคนี้ ของเบนฟิก้า หลังจากโชว์ฟอร์มโดดเด่นในฤดูกาล 2018-2019 และทำให้ แอตเลติโก มาดริด ยอมทุ่มเงินมากกว่า 110 ล้านยูโร ดึงตัวไปร่วมงานด้วย รวมถึงในฤดูกาลนี้ รูเบน ดิอาส กับค่าตัว 65 ล้านยูโร ย้ายมาร่วมงานกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เบนฟิก้าได้เงินเกือบ 200 ล้านยูโร จากเด็กเพียงสองคนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม โควิด-19 ได้ระบาดอย่างหนักทั่วโลก โปรตุเกส เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบเต็มที่ และทำให้ สมาคมฟุตบอลโปรตุเกส ตัดสินใจยกเลิกการแข่งขันฟุตบอลในทุกระดับ รวมถึงระดับเยาวชน ซึ่งไม่มีการแข่งขันมานานกว่า 10 เดือนแล้ว
“เราทุกคนได้รับผลกระทบทั้งหมด และมันส่งผลต่อการพัฒนาของนักเตะเยาวชนของเราทั้งหมดด้วย การไม่มีการแข่งขันทั้งในประเทศ และในระดับยุโรป มันส่งผลมาก เพราะในช่วงอายุของ นักเตะ นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเรียนรู้ และสิ่งที่จะสอนได้ดีที่สุด คือประสบการณ์ในการลงเล่น ซ้อมให้มาก และลงเล่นให้มากที่สุด เพื่อซึมซับมันด้วยร่างกาย” เปโดร มาเควส หัวหน้าทีมบริหารฝ่ายเทคนิคของ เบนฟิก้า กล่าว
ปัญหาเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ทำได้คือแก้ไข เป้าหมายคือทำอย่างไรก็ได้ ในการลดผลกระทบของปัญหาให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด
“มันเป็นความท้าทายของทีมงานทุกคนอย่างยิ่ง กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในช่วงการระบาดของโควิด-19 เราต้องพยายามโน้มน้าว และทำให้ นักเตะ เยาวชนของเรา ยังคงมีความพร้อมในการพัฒนาตนเองต่อไป เช่นเดียวกับ การสนับสนุนพวกเขา ในช่วงเวลาที่วุ่นวายนี้ การระบาดของ โควิด-19 ส่งผลต่อความกังวล และแรงจูงใจ ในการเล่นฟุตบอลค่อนข้างเยอะ หน้าที่ของทีมงานคือ กระตุ้นพวกเขา ระหว่างที่ไม่ได้ลงซ้อม มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับทั้ง นักเตะ และทีมงาน แต่มันก็ท้าทายพวกเราเหมือนกัน”
นักเตะ เยาวชน ยังคงเป็น นักเตะ “ฝึกหัด” ที่ซึ่งหลายคนยังอยู่ในช่วงการพิจารณาการได้รับสัญญาอาชีพ ขณะที่บางคน เพิ่งจะเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกไปได้ไม่นานนัก และอยู่ในช่วงของการต่อสู้ เพื่อพาตนเองก้าวจากการเป็น เยาวชน สู่ ความเป็นมืออาชีพ และในช่วงระยะเวลานี้ จะเป็นช่วงที่ นักเตะ หลายคนถอดใจ หรือเปลี่ยนใจกับเป้าหมายในชีวิตของตนเอง
“ในช่วงเริ่มต้น มันก็ยากมาก ยากเหลือเกิน เพราะ โควิด-19 ทำให้เราไม่ได้เจอใครเลย เป็นสัปดาห์ นานไปก็เป็นเดือน” โฆเซ่ ซัมไปโญ่ นักเตะ วัย 16 ปี ของทีมเยาวชนเบนฟิก้า กล่าว
ในปี 2020 แทบจะเป็นปีที่พวกเขาอยู่ “ติดบ้าน” นานที่สุดก็ว่าได้ เพรา นักเตะ เบนฟิก้า ทุกคน เมื่อเข้าสู่ระบบเยาวชนของสโมสร พวกเขาต้องเข้าแคมป์ของทีมเยาวชนแบบฟูลไทม์ กิน นอน และ เดินทางไปโรงเรียน จากที่นี่ จะมีเพียงช่วงที่จบฤดูกาล หรือว่า นักเตะ บางคนมีปัญหาอาการบาดเจ็บ, ติดโทษแบนในเกมลีกของระดับเยาวชน สโมสรก็จะมีการกำหนดช่วงเวลา พาพวกเขากลับไปพบกับครอบครัว แต่เมื่อ โควิด-19 มาถึง พวกเขาก็ต้องกลับบ้านทั้งหมด ตามนโยบายการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัส
ปัญหา คือ การรักษาสภาพความฟิตของตนเอง ระหว่างอยู่กับบ้าน ซึ่งไม่มีสนามกว้าง ๆ ไม่มีพื้นที่ให้วิ่งได้แบบในสนาม มีตารางการซ้อมที่ ทีมงานส่งมาให้ และต้องทำตามเพียงลำพัง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การติดต่อสื่อสาร กับทีมงาน และเพื่อน นักเตะ ในทีม ที่ผ่านทางโปรแกรมแชท หรือว่าวิดีโอ คอลล์ เท่านั้น
ผ่านไปสัปดาห์แรก สัปดาห์ที่สอง และเป็นเดือน สิ่งที่ตามมาคือเรื่องของ สภาพจิตใจ และความกังวลว่าจะได้ กลับไปลงเล่นอีกครั้งเมื่อไร
“มันค่อนข้างน่ากังวลมาก เมื่อผมกลับไปถึงบ้าน ซึ่งอยู่ทางเหนือของประเทศโปรตุเกส แรก ๆ มันก็ไม่รู้สึกอะไรเท่าไร แต่พอสักพักมันก็อดคิดไม่ได้ว่า เราจะได้กลับไปที่ เบนฟิก้า อีกไหม โควิด จะหมดเมื่อไร และพวกเขาจะยกเลิกสัญญากับเราหรือเปล่า ผมได้คุยกับครอบครัว และพวกเขาก็ค่อนข้างกังวล รวมถึง เพื่อนร่วมทีมของผม หลายคนก็คิดแบบเดียวกัน”
ตามหลักการทั่วไปแล้ว ทุกสโมสรให้ความสำคัญสำหรับ นักเตะ ทีมชุดใหญ่ เป็นอันดับแรก เพราะมันคือทีมที่สำคัญที่สุด ซึ่งเชื่อมโยงกับเรื่องของ ความสำเร็จ และ ธุรกิจ สอดแทรกเอาไว้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เบนฟิก้า ก็ยืนยันว่า สำหรับพวกเขาแล้ว การแข่งขันในระดับเยาวชนก็ยังจำเป็นอย่างมาก และแน่นอน พวกเขาก็ถ่ายทอด เป้าหมายนี้ไปยัง นักเตะ เยาวชนของพวกเขา
“ผมคิดถึงเกมการแข่งขัน แต่ไม่เท่ากับการเจอกับ เพื่อนร่วมทีม และได้มีสังคมแบบนั้น มันคือส่วนหนึ่งของฟุตบอล ที่ทำให้ผมมีความสุข การได้หยอกล้อกันในห้องแต่งตัว คือส่วนที่ดีที่สุดของการเป็น นักเตะ พอมันขาดหายไป ทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิม และมันทำให้ทุกอย่างยากขึ้นมาก”
“แต่ตอนนี้สิ่งที่เราทำได้คือ ต้องอยู่กับตนเอง มีสมาธิ และพยายามให้ดีที่สุด ในการฝึกซ้อมด้วยตนเอง รักษาสภาพความพร้อมของร่างกายให้มากที่สุด ที่เหลือคือการรอคอย ว่าเมื่อไรเราจะได้กลับมาอีกครั้ง มันอาจจะแปลกไปบ้าง แต่ตอนนี้ เราทำได้เท่านี้”
“และเมื่อเรากลับมาลงเล่นด้วยกันได้อีกครั้ง ผมมั่นใจว่า มันจะเป็นหนึ่งเกมที่อยู่ในความทรงจำ และจะเป็นเกมที่ โคตสนุกที่สุดเกมหนึ่งเลยล่ะ”