สถานการณ์ “ไม่มีมือหนึ่งถึงสองคน” ของ อาร์เซนอล เริ่มมีความชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ อารอน แรมสเดล (23 ปี สัญญาถึงกลางปี 2025) และ แบนด์ เลโน่ (29 ปี สัญญาถึงกลางปี 2023) ณ เวลานี้ แรมสเดล กำลังครองใจ มิเคล อาร์เตต้า และทีมงาน รวมถึงแฟนบอลปืนใหญ่ในการรับงานตัวจริงของทีม
นายทวาร ไม่สามารถลงเล่นได้พร้อมกันเกินกว่าหนึ่งคน ไม่มีทีมไหนในโลกเปลี่ยนแปลงตำแหน่งนี้บ่อยครั้งเกินความจำเป็น และไม่มีใครในโลกพอใจกับการเป็นเพียงตัวสำรองได้ตลอดไป…นายทวารสำรอง กับ นักเตะสำรอง มันก็นั่งข้างสนามเหมือนกัน แต่โอกาสในการลงสนามของนายทวาร ถ้าตัวจริงไม่เจ็บ ไม่แบน ไม่พลาดจนน่าเกลียด ก็ยากจะสอดแทรกได้
“การได้อันดับหนึ่งนั้นเป็นเรื่องยาก แต่การรักษาอันดับหนึ่งไว้ตลอดนั้นยากยิ่งกว่า”
1 ปีที่แล้ว ตุลาคม 2020 อาร์เซนอล ตัดสินใจปล่อยตัว เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ออกจากทีมไป (ตอนนี้รุ่งเรืองสุดขีดไปแล้ว) พร้อมยก เลโน่ ที่บาดเจ็บไปพักหนึ่งกลับมาเป็นมือหนึ่งของทีม ซึ่งหลังการกลับมาไม่นานนัก เขาก็ประกาศกร้าวออกมาถึงสถานภาพของตนเอง
“ผมไม่เคยกลัวการเสียมือหนึ่ง สโมสรทำให้ผมรู้สึกว่าผมคือนายทวารตัวจริงของทีม ผมมีมือหนึ่ง หมายเลขหนึ่ง และผมจะเป็นตัวจริงของทีมนี้” เลโน่ กล่าวไว้ในปี 2020
แต่มาวันนี้ ความมั่นใจไม่รู้ตกหล่นไปมากแค่ไหน แต่สุดสัปดาห์นี้ ในเกมกับ คริสตัล พาเลซ ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า เลโน่ จะเป็นผู้ชมข้างสนามอีกเกม เมื่อ แรมสเดล ยึดมือหนึ่งไปแล้ว 4 เกมในลีกเสียเพียง 1 ประตู + เซฟอีกไม่รู้เท่าไร และได้ใจแฟนบอลไปเต็ม ๆ กับแพสชั่นที่มีร่วมกับทีมในแต่ละเกม ส่วน เลโน่ ทำได้แค่รอโอกาส ซึ่งมันจะมาถึงเขาอีกครั้งอย่างน้อยก็ในเกม คาราบาว คัพ พบกับ ลีดส์ ในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้
เลโน่ หลุดจากทีมตั้งแต่วันที่ปืนใหญ่กระบอกแตกพ่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หมดรูป 5-0 ผ่านมาแล้วร่วมสองเดือน เลโน่ ออกมากล่าวผ่านสื่อหนึ่งครั้ง เกี่ยวกับสถานการณ์ของตัวเอง
“มันไม่มีเหตุผลใดที่ทำไมผมถึงหลุดจากทีม มันไม่มีอะไรเกี่ยวกัลผงานของผม แต่เขาคือ เทรนเนอร์ เขาคือคนตัดสินใจ แต่การตัดสินใจนี้ของเขาส่งผลที่แย่สำหรับผม” เลโน่ กล่าวกับ บิลด์ สื่อในบ้านเกิดของตนเอง
มีการรายงานออกมาในช่วงการหลุดตัวจริงของ เลโน่ เกิดจากในเกมทีมชาติรอบต้นเดือนกันยายน หลังความพ่ายแพ้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบนด์ เลโน่ ยังคงติดทีมชาติเยอรมันไปทำงานกับทีมชาติ ในขณะที่ แรมสเดล หลุดทีมชาติด้วยเหตุผลที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ระบุว่า นักเตะ เพิ่งย้ายทีมไปยังสโมสรใหญ่ เขาอยากให้ได้โอกาสในการลงซ้อม ปรับตัวกับสโมสรได้เต็มที่ เช่นเดียวกับ เบนจามิน ไวท์ (รายนี้กล่าวผ่านสื่อว่า ตัวเองชื่อ เบนจามิน ไม่ใช่ เบน ดังนั้นต่อจากนี้เราจะเรียกเขาว่า เบนจามิน -ผู้เขียน-) ที่ไม่ติดทีมด้วยเหตุผลเดียวกัน
อาร์เซนอล ในยุคของ อาร์เตต้า ระยะหลัง ในช่วงของการเบรกทีมชาติ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุของผลงานไม่ดี หรือว่าเพราะโควิด-19 ระบาดมาก่อนหน้านี้ทำให้เวลาเตรียมทีมไม่ต่อเนื่อง พวกเขามีการปรับกลยุทธ์การซ้อมอยู่หลายครั้ง หนึ่งในนั้นคือการซ้อมทีมร่วมกับ นักเตะ ที่ไม่ติดทีมชาติในแต่ละรอบ ทีมจะมีการเคี่ยวเข็ญนักเตะเหล่านั้น รวมถึงดันนักเตะเยาวชนหลายคนขึ้นมาซ้อมกับทีมอยู่เสมอ และเป็นไปได้จะมีการเชิญสโมสรอื่นมาลงเล่นในเกมแบบปิด ซึ่งสองรอบที่ผ่านมาเป็นแบบนี้ทั้งหมด และน่าจะเป็นแบบนี้ต่อไป และในรอบเดือนกันยายน การที่ แรมสเดล และ ไวท์ ไม่ติดทีมชาติอังกฤษ รวมถึงการกลับมาลงซ้อมได้เต็มที่แล้วของ กาเบรียล มากัญเยส ก็ทำให้ อาร์เตต้า ทีมแนวรับตัวหลักมากกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในทีม และให้พวกเขาทั้งสามคนทำงานร่วมกันตลอดสองสัปดาห์นั้น และเป็นคีย์หลักสำคัญอย่างหนึ่ง เพราะนับจากนั้น พวกเขาทั้งสามคนลงเล่นทุกเกมในลีกด้วยกันทั้งหมด เช่นเดียวกับ คีแรน เทียร์นีย์ และ ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ แบ็คขวาซามูไรคนใหม่ จนกระทั่งมาถึงเบรกทีมชาติรอบล่าสุด ที่คราวนี้ แรมสเดล และ เลโน่ ไปรับใช้ชาติด้วยกันทั้งคู่ (ไม่ได้ลงสนามด้วยกันทั้งสองคน)
อย่างไรก็ตามทั้งสองคนก็ต่างโดนจับจ้องเกี่ยวกับสถานการณ์ในทีมปืนใหญ่ โดยเฉพาะ เลโน่ ซึ่งเป็น “ผู้เสียตำแหน่ง” ซึ่งจะส่งผลต่อตำแหน่งในทีมชาติโดยตรง ซึ่ง ฮันซี่ ฟลิค นายใหญ่คนใหม่มี มานูเอล นอยเออร์ คือหนึ่งในใจเสมอ อย่างน้อยก็ ณ เวลานี้ รวมถึง มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเก้น ที่ขวางทาง เลโน่ อยู่อีกหนึ่งคน การเป็นนายทวารเยอรมัน ไม่ได้หมายความถึง คุณภาพ เพียงอย่างเดียว แต่มันหมายถึง “คุณภาพที่ดีที่สุด” เสมอ เพราะพวกเขามีทางเลือกใกล้เคียงกันมากหลายคน และหากยังไม่ได้ลงสนาม เลโน่ กับฟุตบอลโลก 2022 อาจเป็นแค่ความฝัน และนั่นทำให้ เลโน่ ต้องคิดให้มากในอนาคตตรงนี้ของตนเอง ซึ่งตัวเองมีสัญญาถึงกลางปี 2023 และมีข่าวออกมาเรื่อย ๆ ว่าเขาจะไม่ต่อสัญญากับทีม
“ผมยังสบายดีกับที่อาร์เซนอล และลอนดอน แต่ถ้ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในช่วงหน้าหนาว ผมจะเริ่มคิดถึงเกี่ยวกับทางเลือกว่าผมมีอะไรบ้าง และผมจะตัดสินใจอย่างไรต่อไป” เลโน่ กล่าว
ขณะที่ แรมสเดล สถานการณ์ตรงกันข้ามกับ เลโน่ เขาโดนสื่ออังกฤษ หยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นไปถามทั้ง มิเคล อาร์เตต้า และ แกเร็ธ เซาธ์เกต เกี่ยวกับโอกาสในการท้าทายมือหนึ่งจาก จอร์แดน พิคฟอร์ด ของ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งทั้งสองคนก็ตอบกลับมาในทิศทางเดียวกันว่า ทุกอย่างเป็นไปได้หมด ขึ้นกับผลงานของผู้เล่นเป็นหลัก แต่ เซาธ์เกต ยังคงมั่นใจใน พิคฟอร์ด ผู้ซึ่งร่วมหัวจมท้ายกันมาตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2018 ต่อไป
“ผมคิดว่า เลโน่ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม เขามุ่งมั่นในการที่จะทำงานหนัก และทำให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด เพราะ นายทวารทุคนจะมีข้อผิดพลาดเสมอ แต่ผมคิดว่าที่ผ่านมา เขาก็ช่วยทีมได้หลายต่อหลายครั้ง กับเซฟของเขา ผมคิดว่ามันคือแนวทางของสโมสรที่เป็นไป ผมย้ายมาที่นี่เพื่อโอกาสลงเล่นตัวจริง เพื่อแทนที่ของเขา และเวลานี้ผมทำได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะรักษามันได้ตลอดไปเช่นกัน” แรมสเดล กล่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างเขากับ เลโน่
สถานการณ์นับจากนี้ ตราบใดที่ แรมสเดล ไม่พลาดจนน่าเกลียด ไม่บาดเจ็บ ไม่โดนแบน เลโน่ ต้องทำใจรับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ต่อไป และเมื่อเข้าสู่ตลาดมกราคม หรือสิงหาคม ก็ต้องคิดถึงอนาคตของตนเองต่อไป โดยเฉพาะสถานการณ์ในทีมชาติ ซึ่ง เลโน่ ตลอด 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา เขาไม่ใช่นายทวารด้อยคุณภาพ ไม่มีอะไรต้องพิสูจน์ในศักยภาพของตนเอง แต่สิ่งที่เขาหายไปคือ “จังหวะเซฟสำคัญ และแพสชั่นในเกม” โดยเฉพาะอย่างหลังที่หายไปตั้งแต่การเป็นมือหนึ่งแบบถาวรในฤดูกาลที่แล้ว
นั่นทำให้เมื่อ อาร์เซนอล มีแผนดึงนายทวารคนใหม่เข้ามา พวกเขาเลือก “คนที่ดีที่สุด” เท่าที่จะหาได้เพื่ออนาคตของสโมสรเข้ามา เป็นการช่วงชิงโอกาสที่ลงล๊อค ไม่รวมถึงราคาค่าตัวของ แรมสเดล ที่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องหาโอกาสให้ได้ลงสนามอยู่แล้ว แค่ว่า เลโน่ ก็ไม่ได้ว่าอยู่ในฟอร์มที่สุดยอด ก็ลองให้คนใหม่ลงมาลองบ้าง และผลที่ออกมาคือทำได้ดี ก็เลือกใช้งานต่อไป
“ความเชื่อใจ” เป็นสิ่งที่ยากที่จะได้มา และเมื่อได้มาแล้ว สิ่งที่ยากกว่านั้นคือการ “ได้ความเชื่อใจกลับมา” นั่นคือสิ่งที่ เลโน่ ต้องอดทนพิสูจน์ตัวเอง หากยังอยากลงเล่นกับ อาร์เซนอล ต่อไป หรือมองหาทางเลือกอีกทางกับการออกจากทีม ทีมที่พร้อมจะ “เชื่อใจ” ในคุณภาพซึ่งมีอยู่แล้วในตัวของเขา…เพียงแต่ ณ เวลานี้ อาร์เซนอล เชื่อใจอีกคนมากกว่าเขาก็เท่านั้นเอง
Copyright © 2019 UFA6556 แทงบอลออนไลน์ มั่นคง ปลอดภัย อันดับหนึ่งเมืองไทย | All right reserved.